Somyot Dangyoun

10 เม.ย.64- ดร.สมศักดิ์ ลีสวัสดิ์ตระกูล ที่ปรึกษาประธานสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) และรองประธานคณะกรรมาธิการประสานงาน การแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 “หางโจว 2022” กล่าวว่า จากการประชุมคณะกรรมาธิการประสานงาน การแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 “หางโจว 2022” ครั้งล่าสุดผ่านระบบออนไลน์ ทางเจ้าภาพจีน ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินการจัดการแข่งขันด้านต่าง ๆ นับถอยหลังก่อนเริ่มการแข่งขัน 520 วัน โดยการชิงชัยจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 10-25 กันยายน 2022 รวม 40 ชนิดกีฬา482 เหรียญทอง พร้อมกันนี้ ยังได้มีการเน้นย้ำถึงการต่อต้านการใช้สารต้องห้าม อย่างจริงจังอีกด้วย  โดยที่ประชุมสรุปความคืบหน้า การเตรียมการจัดแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 “หางโจว 2022” ไว้ดังนี้ ในส่วนของสนามแข่งขัน ทั้งหมด 55 แห่ง มีการสร้างแล้วเสร็จไป 42 แห่ง เมื่อเดือนที่แล้ว หรือคืบหน้ากว่า 84 เปอร์เซ็นต์ ส่วนสนามที่เหลือจะเสร็จสิ้นในเดือนตุลาคม 2021 ขณะที่หมู่บ้านนักกีฬา “หางโจว 2022” จะมีหมู่บ้านเอเชียนเกมส์หลัก 1 แห่งในใจกลางเมืองหางโจว และหมู่บ้านย่อยอีก 4 แห่ง ในหนิงโบ, จินหัว, เหวิ่นซู และซาเนีย โดย อาคารหลัก จะประกอบไปด้วย ที่พักสำหรับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีม 10,400 คน ที่พักของเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิค 3,800 คน ที่พักของสื่อมวลชน 5,000 คน ซึ่งหมู่บ้านหลัก ที่มี 108 อาคาร จะแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2021 และพร้อมเปิดทดลองใช้งาน ในเดือนมีนาคมปีหน้า ขณะเดียวกัน ราญา แรนเดียห์ ซิงห์ ประธานคณะกรรมาธิการประสานงาน การแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 “หางโจว 2022” ได้แสดงความชื่นชมคณะกรรมการจัดงาน ที่ดำเนินการเตรียมการอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีข้อจำกัดของการแพร่ระบาดโควิด-19 มาตั้งแต่ต้นปี ที่สำคัญเจ้าภาพมีการนำเสนอความพร้อมอย่างยอดเยี่ยมในทุกแง่มุม  ส่วน โกะ ซีตัน รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิกจีน ระบุในที่ประชุมว่า ขอยกย่อง โอซีเอ ในการสร้าง “ความสามัคคีและความมั่นคง” เราหวังว่าจะมีการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ที่ปลอดภัยและประสบความสำเร็จในปีหน้าภายใต้การนำของประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง เราตระหนักดีว่า การเป็นเจ้าภาพในปีหน้า จะช่วยทำให้ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี และเชื่อว่า ด้วยการสนับสนุนอย่างดีจากทุกฝ่ายของจีน จะสามารถเตรียมงานให้เสร็จสิ้นได้ตามกำหนด และเตรียมการอย่างรอบด้าน เพื่อให้แน่ใจว่าเกมจะประสบความสำเร็จอย่างที่ทุกคนคาดหวัง-สำนักข่าวไทย 

9 เม.ย.64 โอมาน- “โอ๊ต” ณัฐพงษ์ โพธิ์นพรัตน์ คว้าโควตาโอลิมปิก 2020 เพิ่มให้ทัพนักกีฬาไทยอีก 1 ใบ จาการแข่งขัน วินด์เซิร์ฟคัดโอลิมปิกโซนเอเชีย ที่ประเทศโอมาน วันสุดท้าย นักกีฬาไทยคว้าโควตาโอลิมปิกเพิ่มอีก 1 คนจาก “โอ๊ต” ณัฐพงษ์ โพธิ์นพรัตน์ นักกีฬาวินด์เซิร์ฟ รุ่น RS:X ตลอดการแข่งขัน 6 วัน “โอ๊ต” ณัฐพงษ์ ทำคะแนนเป็นผู้นำมาตลอดตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย คว้าแชมป์สนามนี้ไปครองพร้อมได้ตั๋วโอลิมปิกเกมส์ 2020 เป็นตั๋วโอลิมปิกใบที่ 19 และเป็นนักกีฬาไทยคนที่ 21 ที่จะได้บินไป ญี่ปุ่น ความสำเร็จครั้งนี้เป็นโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 2 ของ”โอ๊ต” ต่อจากปี 2016 ที่บราซิล-สำนักข่าวไทย.

7 เม.ย.64 ระยอง- คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล และประธานอนุกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกีฬา คณะกรรมการบริหาร กรรมการโอลิมปิกแห่งเอเชีย ได้เข้าเยี่ยมชมศูนย์ฝึกกีฬาเรือพายราชนาวี อ่างเก็บน้ำบางไผ่ ตำบลสำนักท้อน อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง โดยมีพลเรือเอก ชัยณรงค์ เจริญรักษ์ นายกสมาคมกีฬาเรือพายแห่งประเทศไทย พร้อมคณะให้การต้อนรับ พร้อมยืนยันถึงความพร้อมในการเตรียมทีมแข่งขันในระดับนานาชาติต่างๆ-สำนักข่าวไทย

7 เม.ย.64 กรุงเทพฯ- ทรงพล อนุกฤตยาวรรณ อดีตนักแบดมินตันคู่ผสมทีมชาติไทย ได้โพสเฟซบุ๊คส่วนตัว กราบขออภัยบอส ลวกเพ่ พี่ๆน้องๆทุกคนนะครับ พาเดือดร้อนไปหมดผมไปสถานบันเทิงทองหล่อวันที่22 วันที่25 วันที่28 แล้วก็วันที่30มีอาการเจ็บคอมีไข้เล็กน้อย นึกว่าเป็นทอมซิลอักเสบซึ่งเป็นโรคประจำตัว  แต่พอวันที่4เห็นข่าวไทมไลน์มีชื่อสถานบันเทิ่งที่ไปมาวันที่5ไปตรวจหมอแจ้งผลตรวจแบบเชิงลึกตีหนึ่งครึ่งว่าพบเชื้อ วันที่6เข้ารับการกักตัวโรงพยาบาลวิภาราม-สำนักข่าวไทย.

กรุงเทพฯ 6 เม.ย.64-“อาร์ต”บดินทร์ อิสสระ นักแบดมินตันประเภทชายคู่ ทีมชาติไทย ได้ยืนยันผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า “ติดโควิด-19 หลังจากที่เดินทางไปที่ร้าน “คาสเซตทองหล่อ” เมื่อวันพุธที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ทราบว่ามีผู้ที่ไปร้านดังกล่าวติดเชื้อ และวันที่ 4 เม.ย.เริ่มมีอาการ วันที่ 5 เม.ย.ไปตรวจที่โรงพยาบาล ก่อนที่ผลจะออกมาเป็นบวกในวันที่ 6 เม.ย. จึงต้องกราบขอโทษทุกคนที่ทำให้เดือดร้อน ต้องขอโทษทุกคนจากใจ”-สำนักข่าวไทย

6 เม.ย.64-คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ไอโอซีเมมเบอร์ เผย ฝรั่งเศส เดินหน้าจัดกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 ตามแผนงานหวังการแข่งขันครั้งนี้ เป็นส่วนสำคัญในการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ หลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ขณะเดียวกัน ในส่วนของการเตรียมการ ยังจะช่วยเพิ่มอัตราจ้างงาน อีกอย่างน้อย 10,000 ตำแหน่ง โดยเฉพาะกับการก่อสร้างหมู่บ้านนักกีฬา   คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซีเมมเบอร์) กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการเตรียมการจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 ทางเจ้าภาพฝรั่งเศส มีการดำเนินการในด้านต่าง ๆอย่างต่อเนื่อง โดย แอนนด์ อีดัลโก นายกเทศมนตรีกรุงปารีส ยืนยันว่า ทุกอย่างยังเดินหน้าไปตามแผนงานที่กำหนดเอาไว้ พร้อม ๆ กับการใช้จ่ายเงินงบประมาณอย่างระมัดระวัง ให้คุ้มค่ามากที่สุด  “ทั้งนี้ ฝรั่งเศส หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การแข่งขันครั้งนี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ หลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19” คุณหญิงปัทมา กล่าว  ไอโอซีเมมเบอร์หญิงชาวไทย กล่าวต่อว่า โดย อีดัลโก ระบุว่า ทางฝรั่งเศส ทำงานตามแผนสำหรับการก่อสร้างหมู่บ้านโอลิมปิกและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในการจัดการแข่งขัน และจะมีงานมากกว่า 10,000 ตำแหน่งเพิ่มขึ้นมาโดยเฉพาะในภาคการก่อสร้าง บนเกาะแซง เดนิส ซึ่งจะมีการสร้างหมู่บ้านโอลิมปิก โดยกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก จะเป็นงานใหญ่ระดับโลกครั้งแรกหลังสถานการณ์โควิด-19 ของฝรั่งเศส-สำนักข่าวไทย

กรุงเทพฯ 1 เม.ย.64-คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานในพิธีปิด “โครงการการปลูกฝังและพัฒนาทักษะการเล่นกีฬาแบดมินตันให้แก่นักเรียนโรงเรียนสวนลุมพินี” โดยมี คุณดำรงค์ รื่นสุข ผู้อำนวยการกองการกีฬา ,คุณมาศวัลย์ ปิ่นสุวรรณ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน , คุณศิริรัตน์ พลเสน ผู้อำนวยการโรงเรียนสวนลุมพินี , พันตำรวจเอก จักรกริศน์ โฉสูงเนิน ผู้กำกับ สน. ลุมพินี และคณะกรรมการสมาคมฯเข้าร่วมงาน ณ สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สำหรับโครงการการปลูกฝังและพัฒนาทักษะการเล่นกีฬาแบดมินตันให้แก่นักเรียนโรงเรียนสวนลุมพินี ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 30 คน สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ จัดให้มีอุปกรณ์กีฬาแบดมินตันพร้อมบุคลากร ทั้งผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย นักวิทยาศาสตร์การกีฬา ดำเนินโครงการโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสร้างเสริมและพัฒนาทักษะให้นักเรียนเล่นกีฬาแบดมินตันอย่างถูกวิธี และเพื่อเป็นการเสริมสร้างสุขภาพร่างกายของนักเรียนให้แข็งแรง และมีน้ำใจเป็นนักกีฬา-สำนักข่าวไทย.

31 มี.ค.64  กรุงเทพฯ-พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรอง นรม. ได้เป็นประธานพิธีเปิดอาคารศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา และอาคารศูนย์ฝึกกีฬาบอคเชียแห่งชาติ  พร้อมทั้งเป็นประธานการประชุม คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ  รมว.กก. เข้าร่วมประชุม  ณ  ห้องประชุม อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา  การกีฬาแห่งประเทศไทย พล.อ.ประวิตร ได้เดินทางถึงบริเวณพิธี  ณ  อาคารศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬารับฟังคำกล่าวรายงาน การดำเนินการจากผู้ว่าฯกกท.(นาย ก้องศักด ยอดมณี)  รับชมวีดีทัศน์ความเป็นมาของการปรับปรุงศูนย์ฯ และการดำเนินงาน พร้อมเยี่ยมชมการบริการ และเครื่องมืออุปกรณ์ จากนั้น ได้เป็นประธานการประชุม คกก.กกท. โดยรับทราบความคืบหน้าเรื่อง ที่ กกท.ได้ขอความอนุเคราะห์ การขอรับวัคซีนป้องกัน covid-19 จากกระทรวงสาธารณสุข สำหรับ นักกีฬาทีมชาติ เจ้าหน้าที่ และบุคลากรทางการกีฬา ที่จะเดินทางเข้าร่วมแข่งขัน กีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่32 พาราลิมปิกเกมส์และกีฬารายการนานาชาติอื่นๆ  โดยในขณะนี้ มีนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ จำนวน 11 คน ได้รับการฉีดวัคซีน ชุดแรกแล้วได้แก่ สมาคมแข่งเรือใบ จำนวน 9 คน และสมาคมวินเซิร์ฟ จำนวน 2 คน โดยทั้ง2 สมาคมจะเดินทางไปร่วมแข่งขันรายการ มุสสานาห์ โอเพ่น แชมเปี้ยนชิพ 2021 ที่ประเทศโอมาน ซึ่งเป็นการแข่งขัน Qualify Olympic 2020 กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จากนั้น ที่ประชุมได้มีการพิจารณาเห็นชอบ การขอรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน กีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 (พ.ศ.2568) โดยนำเสนอ ครม.ให้ประเทศไทยรับเป็นเจ้าภาพ จัดการแข่งขัน  พร้อมเห็นชอบ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณา จังหวัด เจ้าภาพเพื่อใช้จัดการแข่งขัน ด้วย พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ กกท.ให้เร่งขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาการกีฬาให้บรรลุเป้าหมาย อย่างเร่งด่วน และการบริหารงบประมาณ จะต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ สำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน กีฬาซีเกมส์นั้น จะต้องมีการวางแผนเตรียมการ อย่างเหมาะสม ภายใต้ New Normal และต้องสามารถสะท้อนศักยภาพ  ความเชื่อมั่นของประเทศเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร  ยังได้มอบนโยบายให้สมาคมกีฬาต่างๆ เร่งวางแผนฝึกซ้อมนักกีฬา พร้อมเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬา ทุกประเภท ให้สามารถก้าวสู่ความเป็นเลิศ และเป็นเจ้าเหรียญทองซีเกมส์สมัยหน้าให้ได้ ต่อไป ภายหลังการประชุม คกก.กกท.  พล.อ.ประวิตร  ได้เดินทางไปทำพิธีเปิดอาคารศูนย์ฝึกกีฬาบอคเชียแห่งชาติ  ณ  อาคารศูนย์ฝึกฯ  สมาคมกีฬาคนพิการทางสมองแห่งประเทศไทย เพื่อใช้ประโยชน์ สำหรับนักกีฬาคนพิการ โดยตรง  พร้อมได้กล่าวย้ำว่า นักกีฬาคนพิการถือเป็นผู้ที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพราะที่ผ่านมาได้สร้างชื่อเสียงให้กับวงการกีฬา ของประเทศไทย มาอย่างต่อเนื่อง-สำนักข่าวไทย.

ฝรั่งเศส 28 มี.ค.64-การแข่งขันแบดมินตัน “ออร์เลอ็อง มาสเตอร์ 2021” ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์ทัวร์ 100 ที่เมืองออร์เลอ็อง ประเทศฝรั่งเศส รายการคิดคะแนนไปโอลิมปิก โตเกียว 2020  ประเภทหญิงเดียว “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธ์ มืออันดับ 13 ของโลก เอาชนะ ลีเน่ คริสโตเฟอร์เซ่น มืออันดับ 38 ของโลกจากเดนมาร์ก 2-1 เกม 16-21, 21-15 ,21-19 คว้าแชมป์แบดมินตันออร์เลอ็อง มาสเตอร์ 2021 ไปครองได้สำเร็จ  “ครีม”- บุศนันทน์ คว้าแชมป์รับเงินรางวัล 5,625 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 168,750  บาท  ส่วนรองแชมป์ ลีเน่ย์ คริสโตเฟอร์สัน  รับเงินรางวัล 2,850  เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 85,500 บาท ส่วนหญิงคู่ รอบชิงชนะเลิศ”กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ คู่มือวางอันดับ 1 ของรายการคู่มืออันดับ 8 ของโลก  ชนะ กาเบรียล่า กับ สเตฟานี่ สโตเอว่า คู่มืออันดับ 13 ของโลกจากบัลแกเรียไปได้ 2 เกมรวด21-16 ,21-16 คว้าแชมป์ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ  กับ “วิว” รวินดา คว้าแชมป์รับเงินรางวัล 5,925 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 177,750  บาท ส่วนรองแชมป์กาเบรียล่า กับ สเตฟานี่ สโตเอว่า รับเงินรางวัล 2,850  เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 85,500 บาท คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าว ชื่นชมผลงานของนักแบดมินตันสาวไทยทั้ง 3 คน ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ขอชื่นชม “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กับ“วิว” รวินดา สามารถทำตามแผนได้เป็นอย่างดี สามารถต้านการบุกและเปลี่ยนจากรับเป็นรุกได้ยอดเยี่ยมในหลายคะแนน หญิงคู่ของไทย มีคะแนนนำอันดับ 9 ประมาณ 2,000 คะแนน ซึ่งยังเหลือรายการที่ทั้ง 2 คู่ยังต้องทำการแย่งชิงอันดับ 8 อีก 3 รายการที่เหลือในทวีปเอเชีย จึงต้องลุ้นให้ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กับ “วิว” รวินดา ทำผลงานให้ดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อรั้งอันดับ 8 ในการเป็นมือวางในการแข่งขันโอลิมปิก และขอชื่นชม “ครีม” บุศนันทน์ ด้วยประสบการณ์ เกมรับที่ยอดเยี่ยม และความแข็งแรงของร่างกาย  สามารถพลิกสถานการณ์ กลับมาเป็นฝ่ายชนะได้ “ต้องยอมรับว่า การแข่งขันรายการนี้ นักกีฬาต้องเดินทาง และพักอยู่ในยุโรปกว่า 4 สัปดาห์ ต้องดูแลตนเองให้ห่างจากโควิด-19 และยังต้องรักษาสภาพร่างกายให้ฟิตสมบูรณ์ กับการตระเวณแข่งขันที่ยาวนาน ซึ่งจากผลการแข่งขันที่ออกมา แสดงให้เห็นถึงสภาพความพร้อมของนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และทีมวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่ช่วยกันเตรียมความพร้อมให้นักกีฬาทั้งด้านร่างกายและจิตใจ จนประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ได้ 2 ประเภทจากการแข่งขันที่ฝรั่งเศส” “สิ่งหนึ่งที่เป็นโจทย์สำคัญที่เห็นจากรายการนี้ คือ สภาพร่างกายของนักกีฬา หลังจากที่ต้องลงทำการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง สมาคมฯ กำลังจัดการดูแลนักกีฬาที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศให้ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางไปแข่งขันในช่วงสุดท้ายของการเก็บคะแนนเพื่อการแข่งขัน โอลิมปิก โตเกียว 2020 จากรายการแข่งขันที่ประเทศอินเดีย วันที่ 11-16 พ.ค. ที่ประเทศมาเลเซีย วันที่ 25-30 พ.ค. และ ที่ประเทศสิงคโปร์ วันที่ 1-6 มิ.ย.” คุณหญิงปัทมา กล่าว-สำนักข่าวไทย.

คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซีเมมเบอร์) กล่าวว่า ไฟคบเพลิงโอลิมปิก​ โตเกียว 2020 เร่ิมกลับมาวิ่งอีกครั้งแล้ว เมื่อช่วงเช้าวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา หลังจากต้องเลื่อนมาเป็นเวลา1 ปีเต็ม ตามการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020 ที่ต้องถูกเลื่อนจากเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว มาเป็นเดือนกรกฎาคมปีนี้ ด้วยเหตุผลจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดไปทั่วโลก ในช่วงเวลานั้น  โดยทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติญี่ปุ่น ชุดแชมป์โลก ปี 2011 นำมาโดย อิวาชิมิซึ อาซึสะ ได้รับเกียรติ ให้วิ่งเป็นไม้แรก ออกสตาร์ทเร่ิมวิ่งไฟคบเพลิงโอลิมปิก ที่ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ เจ-วิลเลจ ในจังหวัดฟุกุชิมะ  ไอโอซีเมมเบอร์หญิงชาวไทย กล่าวต่อว่า และหลังจากนี้ ญี่ปุ่น วางเส้นทางฉลองทั่วประเทศ ผ่าน 47 จังหวัดรวม121 วัน ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด ก่อนนำไปจุดในพิธีเปิดโตเกียวเกมส์ วันที่ 23 กรกฎาคมนี้ ที่สนามกีฬาแห่งชาติ ในกรุงโตเกียว เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า การแข่งขันโอลิมปิก ฤดูร้อน ครั้งที่ 32 ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการต่อไป  ทั้งนี้ จังหวัดฟุกุชิมะ สถานที่เริ่มต้นการวิ่งไฟคบเพลิงโอลิมปิก โตเกียว 2020 ครั้งนี้ เคยเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติครั้งใหญ่จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิ เมื่อปี 2011 โดยไฟโอลิมปิกถือเป็น “ไฟแห่งการฟื้นฟู” ที่เปรียบเสมือนการส่งมอบจิตวิญญาณ ความเข้มแข็ง และกำลังใจให้ผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากโศกนาฏกรรมครั้งนั้น และจะส่งต่อแสงแห่งความหวังไปยังผู้คนทั่วประเทศ-สำนักข่าวไทย.

กรุงเทพฯ 23 มี.ค.64-ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ ประธานคณะกรรมการปฎิรูประเทศด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานคณะอนุกรรมการปฎิรูปประเทศด้านกีฬา รวมถึง พล.อ.รณชัย มัญชุสุนทรกุล นำคณะกรรมการฯ เข้าพบ นายพิพัฒน์รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  นายเขมพล อุ้ยตยะกุล ดร.ก้องศักด ยอดมณี นายสุพจน์ วงศ์พรหมท้าว เพื่อหารือแนวทางการขับเคลื่อนแผนปฏิรูปประเทศ โดยเฉพาะด้านกีฬา ไปสู่การปฏิบัติ ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อวันก่อน  สรุปสาระสำคัญ ที่คณะกรรมการปฎิรูประเทศด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์หารือแนวทางการขับเคลื่อนแผนปฏิรูปประเทศ ร่วมกับ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ดังนี้ ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ จะดำเนินการโครงการนำร่อง ห้องเรียนกีฬา โดยการจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับนักกีฬา ที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยดำเนินการในรูปแบบ Sand Box เพื่อใช้เป็นต้นแบบและจะนำไปสู่การขยายผลต่อไป โครงการลานกีฬา ดำเนินการบูรณาร่วมกับท้องถิ่น โดยใช้อาสาผู้นำกีฬาของกรมพลศึกษา เป็นผู้ขับเคลื่อนการดำเนินกิจกรรมในพื้นที่, การพัฒนักกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรดำเนินการร่วมกับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ในการคัดสรรนักกีฬาเพื่อเข้าสู่เส้นทางการพัฒนานักกีฬาในระยะยาว, ดำเนินการจัดลำดับความสำคัญโครงการด้านกีฬา ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน และต้องใช้งบประมาณในการดำเนินงาน เพื่อให้คณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ช่วยผลักดันงบประมาณให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถขับเคลื่อนแผนปฏิรูปประเทศไปสู่การปฏิบัติต่อไป มอบหมายให้มีผู้รับผิดชอบหลักของแต่ละหน่วยงาน ภายใต้สังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในการประสานฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการด้านกีฬา เพื่อการขับเคลื่อนและรายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏิรูปประเทศ ปี พ.ศ.2564-2565 ต่อคณะกรรมการปฏิรูปประเทศต่อไป, พิจารณาโครงการกีฬา ที่ต้องการประชาสัมพันธ์ให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนได้รับทราบ โดยจะเริ่มดำเนินการประชาสัมพันธ์ในเดือนเม.ย.2564 เป็นต้นไปและ กำหนดให้มีการประชุมฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการด้านกีฬา เป็นประจำทุกสัปดาห์-สำนักข่าวไทย.