“เขี้ยวสมุทร” พร้อมปล่อย “ธีระพล เยาะเย้ย” หากข้อเสนอเหมาะสม

16 ส.ค.64-“เอี้ยง”ธีระพล เยาะเย้ย กำลังได้รับความสนใจจากหลายสโมสรที่ยื่นข้อเสนอให้บอร์ดบริหาร “เขี้ยวสมุทร”สมุทรปราการ ซิตี้ พิจารณาก่อนตัดสินใจ โดยบอร์ดบริหารสโมสรยังหวังที่จะรั้งตัวแนวรุกวัย 26 ปีรายนี้ต่อแต่ก็ขึ้นอยู่กับข้อเสนอที่หลายทีมยื่นเข้ามาด้วย อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ตอนนี้ “ธีระพล เยาะเย้ย” กำลังเป็นที่สนใจของหลายสโมสร โดยเฉพาะทีมในระดับหัวตารางไทยลีกที่ยื่นข้อเสนอเข้ามาหลากหลายรูปแบบ ซึ่งบอร์ดบริหารเตรียมที่จะพิจารณาในเรื่องดังกล่าว ซึ่งหากได้รับข้อเสนอที่ยากจะปฎิเสธ เพราะสโมสรฯ ไม่ปิดกั้นโอกาสของนักเตะ หากได้ข้อเสนอที่ดีที่สุดกับตัวนักเตะ ทีมก็พร้อมปล่อยตัว-สำนักข่าวไทย

ทรู แบงค็อกฯ ปิดดีลใหญ่คว้า “ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์” ร่วมทัพ

16 ส.ค. – ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ปฏิบัติการเสริมทัพสมคอนเซ็ปต์ฤดูกาลใหม่ “NEVER SAY NEVER : อย่าบอกว่าเป็นไปไม่ได้” หลังเซ็นสัญญาคว้าตัว “ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์” กองกลางทีมชาติไทยจากสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด มาร่วมทีมเป็นที่เรียบร้อย เจ้าตัวยอมรับสุดตื่นเต้นกับความท้าทายครั้งใหม่ และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในโปรเจกต์ของ “โค้ชแบน” กับการพาทีม “แข้งเทพ” คว้าแชมป์ให้ได้ เจ้านิวให้สัมภาษณ์ถึงการย้ายทีมในครั้งนี้ว่า “รู้สึกดีใจและตื่นเต้นเป็นอย่างมากครับ กับความท้าทายครั้งใหม่ในอาชีพการค้าแข้งของผม อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า ทรู แบงค็อกฯ เป็นทีมใหญ่ และยังไม่เคยคว้าแชมป์รายการใดๆเลย ฉะนั้นผมย้ายมาที่นี่ก็อยากจะมีส่วนในการพาสโมสรประสบความสำเร็จครับ อย่างแรกผมคงต้องซึมซับและปรับตัวเข้ากับทีมให้ได้เร็วที่สุด เพราะทีมมีระบบการเล่นที่ดีอยู่แล้วและมีนักเตะที่อยู่ด้วยกันมานาน ผมเองต้องเป็นฝ่ายปรับตัวเข้าหาทีม ไม่ใช่ทีมปรับตัวเข้าหาผม ฉะนั้นหลังจากนี้ก็ต้องทำงานหนักเพื่อให้ตัวเองมีความพร้อมที่สุดสำหรับฤดูกาลใหม่ครับ” ฐิติพันธ์เคยร่วมงานกับ “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน มาแล้วสมัยที่อยู่กับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2016 แม้จะเป็นระยะเวลาไม่นาน แต่เขาก็ประทับใจกับแนวทางการทำทีมของกุนซือวัย 49 ปีรายนี้ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เค้าตัดสินใจได้ไม่ยากกับการย้ายมาค้าแข้งในถิ่นทรู สเตเดียม “พี่แบนเป็นโค้ชที่มีรูปแบบแท็คติกสมัยใหม่ครับ ทำให้นักเตะมีความกระหายที่จะเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ผมเคยร่วมงานกับพี่แบนตอนที่อยู่กับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในช่วงเวลาสั้นๆก่อนที่จะย้ายไป สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ดก็รู้สึกดีใจครับที่จะได้กลับมาทำงานด้วยกันอีกครั้ง แน่นอนว่าก็เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผมตัดสินใจในครั้งนี้ครับ” การย้ายข้ามฟากจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด มาสู่ทีมร่วมเมืองอย่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในครั้งนี้เป็นรูปแบบการยืมตัวจนถึงสิ้นสุดปี 2021 หลังจากนั้นเจ้าตัวได้จรดปากกาเซ็นสัญญาต่อเนื่องกับทีม “แข้งเทพ” ไปอีก 3 ปีครึ่ง จนถึงสิ้นสุดฤดูกาล 2024/2025 สำหรับ “เจ้านิว” เริ่มต้นเส้นทางการค้าแข้งกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มาตั้งแต่ปี 2010 ก่อนจะถูก สิงห์ เชียงรายยูไนเต็ด คว้าตัวไปร่วมทัพในช่วงกลางฤดูกาล 2016 โดยเจ้าตัวอยู่ในชุดที่พาทีม “กว่างโซ้งมหาภัย” คว้าชัยเหนือ ทรูแบงค็อกฯ ในศึกเอฟเอ คัพ ปี 2017 รอบชิงชนะเลิศ ร่วมกันกับ “เอเวอร์ตัน กอนคัลเวส” และ “วานเดอร์ หลุยส์” สองนักเตะ “แข้งเทพ” ในทีมชุดปัจจุบัน ในฤดูกาล 2018 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เซ็นสัญญาคว้าตัวห้องเครื่องทีมชาติไทยรายนี้ไปร่วมทีม จากนั้นจึงได้ปล่อยให้เขาเดินตามความฝันในการไปค้าแข้งที่ประเทศญี่ปุ่นกับ โออิตะ ทรินิตะ สโมสรในเจลีก 1 ในรูปแบบยืมตัวเป็นระยะเวลา1 ฤดูกาลในปี 2019 ก่อนจะกลับมาพาทัพ “เดอะ แรบบิท” คว้าแชมป์ไทยลีกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ในฤดูกาลที่ผ่านมา ขณะที่ผลงานในทีมชาติฐิติพันธ์สร้างชื่อจากการลงเล่นให้ทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 19 ปี ที่คว้าแชมป์ศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี รอบคัดเลือก ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจนได้รับฉายาว่า “Class of 2011” จากการแจ้งเกิดพร้อมๆกันของเหล่าดาวรุ่งตัวเทพหลายคนในยุคนั้น ก่อนจะต่อยอดไปสู่การเล่นให้ทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน23 ปี ด้วยผลงานการคว้าเหรียญทองซีเกมส์ในปี 2013 และ 2015 และก้าวสู่ทีมชาติไทยชุดใหญ่อย่างเต็มตัวด้วยการเป็นแข้งตัวหลักในชุดที่คว้าแชมป์ศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 45 ในปี 2017 ต่อเนื่องมาจนถึงชุดล่าสุดที่ลงเล่นในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา-สำนักข่าวไทย

แกร์ด มุลเลอร์ ตำนานสโมสรบาเยิร์น มิวนิคและทีมชาติเยอรมนี เสียชีวิต

เยอรมนี 15 ส.ค.64-สโมสรบาเยิร์นมิวนิค แถลงการณ์ว่า สโมสรและแฟนๆ ทุกคนต่างไว้อาลัยให้กับการเสียชีวิตของ แกร์ด มุลเลอร์ ที่เสียชีวิตในเช้าวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยวัย 75 ปี  สำหรับ มุลเลอร์ สร้างประวัติศาสตร์ให้กับสโมสรบาเยิร์น มิวนิค และทีมชาติเยอรมนี  โดยทำประตู 566 ประตู จาก 607 นัดในการแข่งขันให้กับบาเยิร์น มิวนิค และยังคงรักษาสถิติการทำประตูมากที่สุดในศึกบุนเดสลีกา ด้วย 365  ประตู รวมทั้งเป็นผู้ทำประตูสูงสุด 7 ครั้ง จากการลงสนามในลีก 427 นัด  ส่วนการทำประตูในทีมชาติ ยิงไป 68 ประตู จากการลงเล่น 62 นัดให้กับทีมชาติเยอรมนีตะวันตก รวมถึงประตูชัยในฟุตบอลโลกปี 1974 นัดชิงชนะเลิศกับเนเธอร์แลนด์ นอกจากนี้ยังมีสื่อดังในยุโรป ทั้ง BBC,MSPORT,ESPN,SKYNEWS ได้ลงข่าวBREAKINGNEWS เป็นข่าวด่วน-สำนักข่าวไทย

“ทีมว่ายน้ำพาราไทย” หวัง “ฉลามชาคร” ส่วน“น้องปิ่น” เงือกดาวรุ่ง ขอสู้เต็มที่

12 ส.ค.64-ทีมว่ายน้ำพาราทีมชาติไทย ซึ่งได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน “พาราลิมปิกเกมส์ 2020” ทั้งสิน 4 คน แบ่งเป็นนักกีฬาชาย 3 คน คือ ชาคร แก้วศรี, ภูชิต อิงชัยภูมิ, วรวิทย์ คำแก้ว และ นักกีฬาหญิง 1 คน คือ อัญชญา เกตุแก้วโดยเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่ สระว่ายน้ำ ภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ จ.นครราชสีมา เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนลุยศึก​ “พาราลิมปิกเกมส์ 2020” อย่างเต็มที่ ด้าน พญ.พรระวี เพียรผดุงรัชต์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนกีฬาว่ายน้ำคนพิการทีมชาติไทย เปิดเผยถึงความพร้อมของทีมว่ายน้ำพาราทีมชาติไทยว่า ที่ผ่านมานักกีฬาได้เก็บตัวฝึกซ้อมภายใต้โครงการ โรด ทู โตเกียว มาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่จบ พาราลิมปิกเกมส์ 2016 เลยทันที ทำให้นักกีฬาทุกคนถือว่ามีความพร้อมความพร้อมเต็มที่ และทุกคนกระหายอยากลงแข่งขันแล้ว เพราะที่ผ่านมานักกีฬาของเราไม่สามารถออกไปแข่งขันในรายการต่างๆ ได้เลยในช่วงปีที่ผ่านมาเนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 “ส่วนเป้าหมายของทีมว่ายน้ำคนพิการทีมชาติไทย โดยเฉพาะ นักกีฬาชายของเราทั้ง 3 คน ถือว่ามีโอกาสลุ้นเหรียญด้วยกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ชาคร แก้วศรี, ภูชิต อิงชัยภูมิ และ วรวิทย์ คำแก้ว ที่ถือเป็นนักกีฬาที่มีแรงกิ้งติดอยู่ 1ใน10 ของโลก ซึ่งหากถึงวันแข่งขัน นักกีฬาเราสามารถผ่านรอบคัดเลือกไปได้ เราก็เชื่อมั่นว่าทุกคนมีโอกาสติดเหรียญรางวัล” หัวหน้าผู้ฝึกสอนว่ายน้ำพาราทีมชาติไทย กล่าวต่ออีกว่า สำหรับนักกีฬาความหวังของเราที่มีโอกาสติดเหรียญรางวัลพาราลิมปิกเกมส์หนนี้มากที่สุด คือ ชาคร แก้วศรี ในรายการกบ 50 ม. ชาย คลาส SB 2 เพราะในรายการนี้ถือเป็นรายการถนัดของ “ชาคร” และเขาอยู่ในอันดับ 4 ของโลกทำให้เราตั้งความหวังในรายการนี้ไว้สูงที่สุดและน่าจะมีโอกาสเป็นไปได้มากที่สุดด้วย ขณะที่ “น้องปิ่น” อัญชญา เกตุแก้ว เงือกสาวพาราดาวรุ่งทีมชาติไทย เปิดเผยว่า ในพาราลิมปิกเกมส์ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สองของตนเองแล้ว ทำให้ตั้งเป้าหมายไว้ค่อนข้างสูง เพราะการได้ลงแข่งขันเพียงรายการเดียว คือ ฟรีสไตล์ 100 ม. และที่ผ่านมามีโอกาสเดินทางไปฝึกซ้อมประเทศสหรัฐอเมริกาแต่โชคร้ายมีโควิดระบาดหนัก ทำให้ต้องกลับมาซ้อมที่ประเทศไทย อย่างไรก็ดีเราได้เทคนิคต่างๆมามากพอสมควร ทำให้ครั้งนี้ตนเองพร้อมสู้เพื่อทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด เพื่อเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ และมีโอกาสลุ้นเหรียญรางวัลให้ได้ “อย่างไรก็ดีต้องขอบคุณ คณะกรรมการพาลิมปิกแห่งประเทศไทย และคุณจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ที่ให้การสนับสนุน และผลักดันจนทำให้ได้เข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์อีกครั้ง และขอยืนยันว่าจะทำหน้าที่ของนักกีฬาทีมชาติไทยอย่างเต็มที่ สุดท้ายอยากขอกำลังใจจากพี่น้องชาวไทยทุกคนช่วยเป็นกำลังให้กับทีมว่ายน้ำพาทีมทีมชาติไทย และนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทยด้วยนะคะ” น้องปิ่น กล่าว สำหรับรายการที่นักกีฬาว่ายน้ำพาราทีมชาติไทย ทั้ง 4 คน จะลงชิงชัยใน พาราลิมปิกเกมส์ 2020 มีดังนี้ ชาคร แก้วศรี ลงแข่งขัน 4 รายการ ฟรีสไตล์ 50 ม. ชาย คลาส S3, กบ 50 ม. ชาย คลาส SB2, กรรเชียง 50 ม. ชายคลาส S3 และเดี่ยวผสม 150 ม. ชาย คลาส SM3 ส่วนภูชิต อิงชัยภูมิ ลงแข่งขัน 3 รายการ ฟรีสไตล์ 100 ม. ชาย คลาส S5, ฟรีสไตล์ 200 ม. ชาย คลาส S5 และ ฟรีสไตล์ 50 ม. ชาย คลาส S5 ด้าน วรวิทย์ คำแก้ว ลงแข่งขัน 1 รายการ กบ 100 ม.ชาย คลาส SB4  และ อัญชญา เกตุแก้ว ลงแข่งขัน 1 รายการ ฟรีสไตล์ 100 ม. หญิง คลาส S9ค ทั้งนี้ทีมว่ายน้ำพาราทีมชาติไทย จะออกเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 17 สิงหาคม 2564 สำหรับทีมว่ายน้ำคนพิการไทย ถือเป็นกีฬาที่เคยประสบความสำเร็จในการแข่งขันพาราลิมปิก เกมส์ มาหลายสมัย โดยเริ่มจาก ในปี 1996 ที่แอตแลนต้า ประเทศสหรัฐอเมริกา พนม ลักษณะพริ้ม คว้าเหรียญทองแดง ได้สำเร็จ ต่อด้วยปี 2000 ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย สมชาย ดวงแก้ว ทำ 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ สายฝน แก้วศรี ได้เหรียญทองแดง จากนั้น ในปี 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ สมชาย ดวงแก้ว ได้2 เหรียญเงิน และ อีก 2 เหรียญทองแดง จาก พนม ลักษณะพริ้ม, สานิตย์ สงค์นอก -สำนักข่าวไทย

“เมทินี” จอมทุ่มพาราสาวไทย พร้อมลุย พาราลิมปิก โตเกียว 2020

กรุงเทพฯ 12 ส.ค.64-“อ๋อม” เมทินี วงษ์ชมภู นักกีฬายูโดคนตาบอดทีมชาติไทย หนึ่งเดียวที่สามารถคว้าตัวเข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ซึ่งเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่ โรงเรียนบูรณะวิทย์ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 75 โดยมี “โค้ชโต้ง” ภาคภูมิ​ เทียน​ทอง​ ผู้ฝึกสอนยูโดคนพิการทีมชาติไทย ความคุมการฝึกซ้อมอย่างใกล้ชิด โดย “โค้ชโต้ง” ภาคภูมิ​ เทียน​ทอง​ เปิดเผยถึงความพร้อมของ เมทินี วงษ์ชมภู ว่า นักกีฬาว่ามีความพร้อมกว่า 90 เปอร์เซ็นแล้ว ก่อนหน้านี้ในช่วงกลางปี 63 เมทินี มีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าจนต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่ในเวลานี้สภาพร่างกายกลับมาฟิตสมบูรณ์แล้ว “ส่วนความหวังจากที่ได้ออกไปแข่งขันในช่วงก่อนที่จะเกิดโควิดระบาด หากเทียบผลงานต้องบอกว่าเราสามารถสู้ได้กับทุกคน ทำให้เราก็ค่อนข้างมั่นใจว่าในพาราลิมปิกเกมส์ครั้งนี้เรามีโอกาสที่จะทำผลงานคว้าเหรียญรางวัลมาครองได้เช่นกัน เพราะด้วยฝีมือและเทคนิคต่างเราไม่เป็นรองนักกีฬาชาติไหนเลย” “แต่ต้องยอมรับว่าเราโชคร้ายนิดหน่อย เนื่องจากในช่วงตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เราไม่มีโอกาสไปเก็บคะแนนสะสมเพิ่ม ทำให้หลุดจากการเป็นมือวางในครั้งนี้ แต่เราเองก็ไม่หนักใจอะไรเพราะรู้ดีว่าพาราลิมปิกเกมส์ เจอใครหนักเหมือนกันทุกคน อย่างไรก็ดีคงต้องรอดูผลการจับสลากประกบคู่ในรอบแรก เราจะได้รู้ว่ามีโอกาสเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน” โค้ชโต้ง กล่าว ขณะที่ “อ๋อม” เมทินี วงษ์ชมภู นักกีฬายูโดคนพิการทีมชาติไทย เผยว่า ตนเองมีความพร้อมเต็มที่ ทั้งร่างกาย และจิตใจ ที่ผ่านมาได้เก็บตัวฝึกซ้อมมาอย่างหนักเพื่อลงแข่งขันในพาราลิมปิกเกมส์โดยเฉพาะ และรู้สึกดีใจและภูมิใจที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ “ส่วนเป้าหมายแน่นอนในใจลึกๆหวังถึงเหรียญทอง แต่ก็ไม่อยากกดดันตัวเอง ขอทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ แต่เชื่อว่าอย่างน้อยเราน่าจะมีโอกาสที่ติดเหรียญรางวัลไม่เหรียญใดก็เหรียญหนึ่ง และหวังว่าแฟนกีฬาชาวไทยจะเป็นกำลังใจให้ด้วย และตนก็พร้อมจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่เช่นกัน” เมทินี กล่าวทิ้งท้าย สำหรับ “อ๋อม” เมทินี วงษ์ชมภู นักกีฬายูโดคนพิการทีมชาติไทย ที่มีดีกรีเป็นรองแชมป์เอเชีย 2 สมัย ในปี 2018 และ2019 และจะลงแข่งขันในกีฬายูโด พาราลิมปิกเกมส์ 2020 รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 52 กก.หญิง คลาส บี 1 โดยจะมีนักกีฬายูโดลงชิงชัยทั้งสิน 12 คน ซึ่งจะแข่งขันในระบบน็อคเอาท์ โดยในรอบแรก นักกีฬาคนใดแพ้จะตกรอบทันที แต่ถ้าชนะผ่านเข้ารอบสองได้ แล้วไปแพ้รอบที่สองจะไม่ตกรอบ ยังมีโอกาสลุ้นในรอบไต่อันดับเพื่อแย่งสิทธิ์เข้าไปชิงเหรียญทองแดงต่อไป โดย “อ๋อม” เมทินี วงษ์ชมภู และโค้ชจะออกเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 19 สิงหาคม 2564-สำนักข่าวไทย

“น้องเทนนิส”แก้บนไข่ต้ม 1,200 ฟอง หลวงพ่อพระพุทธโสธร

ฉะเชิงเทรา 12 ส.ค. – “น้องเทนนิส” แก้บนไข่ต้ม 1,200 ฟอง หลวงพ่อพระพุทธโสธร จ.ฉะเชิงเทรา หลังคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์เทควันโดโอลิมปิกเกมส์ “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ฮีโร่เหรียญทองประวัติศาสตร์เทควันโดโอลิมปิกเกมส์ 2020 รุ่น 49 กก.พร้อมคุณพ่อ สิริชัย ได้นำไข่ต้ม 1,200 ฟอง ไปถวายแก้บนหลวงพ่อพระพุทธโสธร ที่วัดโสธรวรารามวรวิหารจ.ฉะเชิงเทรา ที่ได้บนเอาไว้ ก่อนเดินทางไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น.-สำนักข่าวไทย

”สมเด็จธงชัย” มอบชื่อ “ชัชชัย” แปลว่ามีชัยชนะที่มั่นคง ให้โค้ชเช

“โค้ชเช” หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทยชาวเกาหลีใต้ เข้ากราบนมัสการ สมเด็จธงชัย ที่วัดไตรมิตรฯ เพื่อขอใช้ชื่อไทยที่สมเด็จธงชัย มอบชื่ออันเป็นมงคลนามว่า “ชัชชัย” แปลว่า “มีชัยชนะที่มั่นคง” ให้กับโค้ชเช

“ศิวกร”มอบถังออกซิเจนแก่ มูลนิธิมาดามแป้ง สู้วิกฤตโควิด-19

กรุงเทพฯ  11 ส.ค.64- “ศิวกร จักขุประสาท” นักฟุตบอลสโมสรการท่าเรือ เอฟ.ซี. พร้อมด้วยครอบครัวจักขุประสาทส่งมอบถังออกซิเจนจำนวน 5 ถัง เพื่อใช้ในศูนย์พักคอยช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 แก่มูลนิธิมาดามแป้ง โดย “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ หลังสูญเสียคุณยายจากไวรัสโควิด-19 ในช่วงสถานการณ์ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย “กัปตันกลิ้ง” ศิวกร จักขุประสาท เผยถึงความรู้สึกกับการบริจาคในครั้งนี้ว่า “ปฏิเสธไม่ได้ว่าโควิด-19 ระบาดไปทุกพื้นที่จนเป็นเรื่องใกล้ตัวเรา กระทั่งต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อาม่าของผมได้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 การบริจาคในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการทำบุญให้อาม่าแล้ว ยังเป็นการได้ร่วมช่วยชีวิตผู้ติดเชื้อโควิด-19 อีกด้วย เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้เห็นว่า ถังออกซิเจนนั้นจำเป็นจริงๆ ผมขอเป็นกำลังใจให้คนไทยทุกคนผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกันนะครับ” ด้าน “มาดามแป้ง” ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟ.ซี. ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิมาดามแป้ง กล่าวว่า “ตอนนี้เราได้สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์พักคอยรองรับผู้ป่วย 4 มุมเมืองอยู่ ทั้งบุคลากรทางการแพทย์และอุปกรณ์จำเป็นเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่จะช่วยเหลือผู้ป่วยในยามวิกฤต ความตั้งใจดีครั้งนี้จะเป็นกุศลครั้งใหญ่ที่ช่วยเหลือผู้คนที่กำลังเดือดร้อนอีกมากมาย” ผู้สนใจสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการให้ สามารถบริจาคและสมทบทุนได้ที่บัญชี ธนาคารกสิกรไทย บัญชีเลขที่092-2-61340-0 ชื่อบัญชี มูลนิธิมาดามแป้ง เพื่อโครงการสร้างสังคมแห่งการให้ หรือร่วมสมัครเป็นทีมอาสากล้าใหม่กับเราได้ที่ http://bitly.ws/dsfM-สำนักข่าวไทย.

“สุธี-สาคร” หวังสร้างผลงาน ทิ้งทวน หนสุดท้าย “พาราลิมปิกเกมส์”

นครราชสีมา 11 ส.ค.62- ทีมวีลแชร์เทนนิสทีมชาติไทย ที่มีนักกีฬาได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน “พาราลิมปิกเกมส์2020” จำนวน 3 คน ประกอบด้วย สุธี คลองรั้ว (ชายเดี่ยว) บรรจบ สุวรรณ (ชายเดี่ยว) และ สาคร ขันทะสิทธ์ (หญิงเดี่ยว) ทั้งหมดเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ จ.นครราชสีมา “สุธี คลองรั้ว” นักวีลแชร์เทนนิสทีมชาติไทย ประสบการณ์สูงที่ผ่านพาราลิมปิกเกมส์มาแล้วถึง 4 สมัย เปิดเผยถึงความพร้อมของตนเองว่า ในเวลานี้สภาพร่างกายรวมถึงสภาพจิตใจของตนเองถือว่าพร้อมแบบร้อยเปอร์เซ็นแล้ว ได้มีโอกาสเก็บตัวอย่างต่อเนื่องเต็มที่มากว่า 2 ปี และคิดว่าตัวเองพร้อมสำหรับพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งนี้ ซึ่งน่าจะเป็นสุดท้ายของตัวเองแล้ว” “ส่วนเป้าหมายในพาราลิมปิกเกมส์ในครั้งนี้ผมค่อนข้างตั้งใจ แต่ไม่ได้ตั้งเป้าหมายอะไรสูง แต่ก็หวังจะสามารถทำผลงานให้ดีกว่าครั้งที่แล้ว นั้นคือผ่านเข้าสู่รอบสองให้ได้เป็นอย่างน้อย เพราะในการแข่งขันระดับพาราลิมปิกเกมส์ต้องยอมรับว่าทุกคนถือเป็นนักกีฬาที่มีความสามารถสูง แพ้ชนะกันได้หมด ซึ่งตนเองหวังจะไม่เจอมืออันดับโลกที่เป็นตัวเต็งในรอบแรก ก็จะทำให้เรามีโอกาสทำผลงานผ่านเข้ารอบต่อได้ง่ายขึ้น” ขณะที่ บรรจบ สุวรรณ นักวีลแชร์เทนนิสทีมชาติไทย เผยว่า นี่เป็นพาราลิมเกมส์ครั้งแรกในชีวิต ทำให้ไม่ได้ตั้งเป้าหมาย หวังเพียงแค่ว่าจะไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด ยอมรับเลยว่าตื่นเต้นมากๆ เพราะพาราลิมปิกเกมส์เป็นแหล่งร่วมของนักกีฬาฝีมือดีแถวหน้าของโลก เลยไม่อยากตั้งความหวังให้กดดันตัวเองจนมากเกินไป แต่ก็จะทำหน้าที่ของตนเองอย่างสุดความสามารถในฐานะตัวแทนคนไทย ด้าน สาคร ขันทะสิทธ์ นักวีลแชร์เทนนิสหญิงทีมชาติไทย ที่ผ่านมาพาราลิมปิกเกมส์มาถึง 5 สมัย นับตั้งแต่ปี 2000 ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย กล่าวว่า จริงๆแล้วนี่คงเป็นพาราลิมปิกเกมส์ครั้งสุดท้ายแล้ว ทำให้ตนเองหวังที่จะทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด เหมือนกลับพาราลิมปิกเกมส์หนแรกในปี 2000 ที่เคยเข้าไปถึงรอบ 8 คนสุดท้ายมาแล้ว ทำให้ตนก็หวังว่าจะใช้ประสบการณ์จาก 5 ครั้งที่ผ่านมาเพื่อผลงานในพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งสุดท้ายอย่างเต็มที่ “อย่างไรก็ดีในฐานะตัวแทนนักกีฬาวีลแชร์เทนนิส พวกเราอยากขอบคุณ คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทยและคุณจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ที่ดูแลและสนับสนุนเราในทุกด้านเป็นอย่างดีตลอดมา ส่งผลให้พวกเราสามารถทำผลงานคว้าโควต้าไปเข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ได้อีกครั้ง สุดท้ายอยากให้แฟนกีฬาชาวไทยช่วยเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยไม่ใช่เฉพาะกีฬาวีลแชร์เทนนิส แต่รวมถึงนักกีฬาทุกประเภทด้วย และพวกเราจะทำหน้าที่ตัวแทนคนไทยในพาราลิมปิกเกมส์ครั้งนี้อย่างเต็มที่เช่นกัน” สาคร กล่าว สำหรับทีมวีลแชร์เทนนิสทีมชาติไทย จะเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ในวันที่ 17 สิงหาคม 2564 ตามเวลาประเทศไทย

ช้างศึก U23 ร่วมสาย มาเลเซีย, สปป.ลาว, มองโกเลีย คัดชิงแชมป์เอเชีย 2022 ตามเดิม

มาเลเซีย 11 ส.ค.64-สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือเอเอฟซี จัดพิธี จับสลากแบ่งสายการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2022 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก ครั้งใหม่ ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่เกาหลีเหนือ ประกาศถอนทีม ผลการจับสลาก แบ่งสายมีดังนี้ กลุ่มจี : ออสเตรเลีย, จีน, อินโดนีเซีย, บรูไน  กลุ่มเอช : เกาหลีใต้, สิงคโปร์, ติมอร์-เลสเต, ฟิลิปปินส์  กลุ่มไอ : เวียดนาม, เมียนมา, ไต้หวัน กลุ่มเจ : ไทย, มาเลเซีย, สปป.ลาว, มองโกเลีย  กลุ่มเค : ญี่ปุ่น,  ฮ่องกง, กัมพูชา สำหรับการแข่งขันรอบคัดเลือกจะแข่งขัน ระหว่างที่ 23-31 ตุลาคม 2564 โดยจะหาทีมแชมป์กลุ่ม 11 กลุ่ม พร้อมด้วยรองแชมป์กลุ่มที่ดีที่สุด 4 จาก 11 กลุ่ม ผ่านเข้ารอบสุดท้ายไปแข่งขันที่ประเทศ อุซเบกิสถาน โดยการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย จะจัดขึ้นที่ประเทศอุซเบกิสถาน ระหว่างวันที่1-19 มิถุนายน 2565 โปรแกรมการแข่งขันของทีมชาติไทย ในรอบคัดเลือก จะแข่งขันกันที่ประเทศมองโกเลีย  วันที่ 27 ตุลาคม 2564 – ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติมองโกเลีย วันที่ 29 ตุลาคม 2564 – สปป.ลาว พบ ทีมชาติไทย วันที่ 31 ตุลาคม 2564 – ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติมาเลเซีย ส่วนเรื่องเวลาที่ทำการแข่งขัน และสนามแข่งขันจะมีการแจ้งให้ทราบในภายหลัง

สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ จัดพิธีเทวาภิเษก ปลุกเสกเหรียญพิชิตชัยฟุตซอลโลก

พิจิตร 11 ส.ค.64- สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ ทำพิธีเทวาภิเษก เหรียญพิชิตชัยฟุตซอลเวิลด์คัพ และเหรียญช้างศึกพิชิตชัย จำนวน 1,999 เหรียญ เป็นศิริมงคล นำโชคนำชัย ประสบความสำเร็จ แคล้วคลาด ณ วิหารหลวงพ่อเงิน วัดหิรัญญาราม(วัดบางคลาน) อ.โพธิ์ทะเล จ.พิจิตร โดยมี พระครูพิสุทธิวรากร มีเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม(วัดบางคลาน) ทำพิธีให้ พร้อมด้วย พระอธิการเพิ่มศักดิ์ พลปุณโณ(หลวงพ่อเค) เจ้าอาวาสวัดน้ำโจนเหนือ อ.เมือง จ.พิจิตร ซึ่ง วันกล้า ขวัญแก้ว นายกสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ พร้อมด้วย “บิ๊กสุ”สุทิน บัวตูม ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ฯ ผู้จัดการทีมฟุตซอลชาติไทยชุดสู้ศึกฟุตซอลโลก2021ที่ลิทัวเนีย พร้อมกรรมการสมาคมฯร่วมทำพิธี ศ.วิชัย สิทธิรัตน์ ศิลปินแห่งชาติผู้ออกแบบเหรียญ กล่าวถึงที่มาของเหรียญพิชิตชัย ว่า จะไปโอลิมปิกอย่างไร จึงนึกถึงประเทศญี่ปุ่น ที่จะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกเกมส์ 2020 นึกถึงดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น และเป็นแหล่งพลังงานของสิ่งมีชีวิตทั้งโลก ต่อด้วยนึกถึงประเทศไทย ที่มีคนไทยทุกภาคที่ร่วมใจกันมาให้กำลังใจนักกีฬาและนำคบเพลิงให้เห็นว่าคนไทยจับคบเพลิงร่วมกันในการร่วมมือให้กำลังใจนักกีฬาไทยไปสู่โอลิมปิก ส่วนอีกด้านหนึ่งนึกถึง “ช้าง” ที่เป็นสัตว์ที่มีคุณูปการต่อประเทศไทยมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในเรื่องการออกรบ เปรียบกับนักกีฬาที่ไปออกรบอย่างสันติในการแข่งขันกีฬา ชื่อเหรียญพิชิตชัยมาจากการที่สมาคมฯตั้งขึ้นมา แสดงให้เห็นว่านักกีฬาไทยจะไปสู่ชัยชนะ มีพระอาทิตย์ทรงกลด สื่อถึงเทวดาที่มาร่วมอวยพรในโอกาสที่สร้างเหรียญนี้ขึ้นมา ส่วนเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 ซม.และหนา 5 มม.หมายถึงขันธ์ 5 รวมกันแล็วเป็น 10 คือ เต็ม 10 เหรียญพิชิตชัยฟุตซอลเวิลด์คัพ และเหรียญช้างศึกพิชิตชัย จำนวน 1,999 เหรียญ แบ่งเป็น เหรียญพิชิตชัยฟุตซอลเวิลด์คัพ 999 เหรียญ มีรูป 4 มือชูคบเพลิงบ่งบอกถึงสัญลักษณ์ 4 ภูมิภาคของประเทศไทยสมัครสมานร่วมมือกันส่งแรงใจให้ทีมฟุตซอลไทยและทีมกีฬาไทยประสบความสำเร็จในศึกฟุตซอลโลกประดับรูปถ้วยฟุตซอลโลกพร้อมข้อความ รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย ลิทัวเนีย2021 ฟุตซอล เวิล์ดคัพ  ส่วนอีก 1000 เหรียญ เป็น เหรียญช้างศึกพิชิตชัย ที่มีสัญลักษณ์รูปช้างพร้อมข้อความ “พิชิตชัย”ที่ทำพิธีจัดพิธีเทวาภิเษกเรียบร้อย โดยการจัดทำเหรียญในครั้งนี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ประกอบด้วย 1.มอบให้กับสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทยเพื่อนำไปใช้สาธารณประโยชน์ , 2.มอบให้สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์นำไปใช้สาธารณประโยชน์ , 3.มอบให้กับโรงเรียนกีฬาเพื่อนำไปใช้ซื้ออุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลน , 4.มอบให้เป็นกำลังใจกับทีมฟุตซอลทีมชาติไทยเพื่อสู้ศึกฟุตซอลโลก2021 และ 5.มอบให้กับ วัดหิรัญญาราม(วัดบางคลาน) อ.โพธิ์ทะเล จ.พิจิตร เพื่อนำไปใช้ในสาธารณกุศลต่อไป ด้าน สุทิน บัวตูม ผู้จัดการทีมฟุตซอลทีมชาติไทย เผยว่า ในนามของสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์และผู้จัดการทีมฟุตซอลชาติไทยเราทำเรื่องนี้่ขึ้นมาเพื่อสาธารณกุศล ทำเพื่อประโยชน์กับสังคมอย่างแท้จริง ไม่ใช่การทำขึ้นมาเพื่อพุทธพาณิชย์ ซึ่งผมก็มีแนวคิดว่า ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ก็ได้ปรึกษากับท่านพระครูพิสุทธิวรากร อาวาสวัดหิรัญญารามหรือวัดบางคลาน จ.พิจิตร เพื่อทำเป็นภาระกิจพิเศษขึ้นมาสำหรับการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามที่ จ.พิจิตร เพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19ในเวลานี้ด้วย พร้อมกับนำให้กับนักฟุตซอลทีมชาติไทยเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้เล่นและทีมงานฟุตซอลไทยทุกคนในการไปสู้ศึกเวิล์ดคัพ2021ที่ลิทัวเนีย อีกทั้งจะเตรียมนำไปมอบให้กับชาติที่เป็นคู่แข่งของทีมฟุตซอลไทยที่ลิทัวเนีย เพื่อเป็นการแสดงถึงสัญลัษณ์และสร้างความประทับใจให้กับนานาชาตินอกสนามแข่งขันด้วย-สำนักข่าวไทย

“ทัพลูกเด้งพาราไทย” ลั่นเต็มถังพร้อมลุยพาราลิมปิกเกมส์

กรุงเทพฯ 11 ส.ค.64-ความเคลื่อนไหวของทีมเทเบิลเทนนิสคนพิการทีมชาติไทย คว้าโควต้าเข้าร่วมการแข่งขันได้ถึง12 คน ได้สิทธิ์ลงชิงชัยถึง 17 รายการ ซึ่งทั้งหมดเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาจ.นครราชสีมา เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนลุยศึก​ “พาราลิมปิกเกมส์ 2020” อย่างเต็มที่ “รุ่งโรจน์ ไทยนิยม” นักตบลูกเด้งพาราหนุ่มทีมชาติไทย ดีกรีเหรียญทองพาราลิมปิกเกมส์ 2012 และ เหรียญทองแดงปี 2016 เปิดเผยถึงความพร้อมของตนเองว่า “ที่ผ่านมาได้มีการเก็บตัวฝึกซ้อม และแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนสะสมมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะติดปัญหาบ้างเล็กน้อยในช่วงสถานการณ์โควิด แต่เรายังสามารถฝึกซ้อมได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ ไมตรี คงเรือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมเทเบิลเทนนิสทีมชาติไทย เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมของทีมเทเบิลเทนนิสพาราทีมชาติไทย ชุดเตรียมลุยศึกพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ต้องบอกว่าเป็นเรื่องน่ายินดีมากเพราะในครั้งนี้เรามีนักกีฬากีฬาที่ได้โควต้าเข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ถึง 12 คน และได้ลงแข่งขันถึง 17 รายการ ส่วนความพร้อมของนักกีฬาต้องบอกว่าเราพร้อมแบบเต็มร้อยเปอร์เซ็น เพราะที่ผ่านมาเรามีการเก็บตัวและออกไปแข่งขันมาอย่างต่อเนื่อง4 ปีเต็ม ทำให้ทุกลงตัวและพร้อมกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาก็ว่าได้ “ส่วนเป้าหมาย เราไม่อยากกดดันนักกีฬาว่าเราจะต้องกี่เหรียญทอง แต่สำหรับผมในฐานะหัวหน้าผู้ฝึกสอนค่อนข้ามีความมั่นใจว่าเรามีโอกาสเข้ารอบชิงฯอย่างน้อย 2 รายการ โดยเฉพาะในประเภทเดี่ยว คลาส TT 6 ของ รุ่งโรจน์ และประเภททีม คลาส TT 3 ที่มี อนุรักษ์ ลาววงษ์ กับ ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น ร่วมถึง คลาส TT6 – TT7 ที่มี เฉลิมพงษ์​ พันภู่กับ รุ่งโรจน์ ไทยนิยม ซึ่งน่าจะมีโอกาสเข้าไปลุ้นเหรียญทองมากที่สุด แต่อย่างไรดีต้องหากมองในภาพรวมในรายการอื่นก็มีโอกาสลุ้นเหรียญเช่นกันแต่เราต้องดูสายแข่งขันและผลการประกบคู่ของแต่ละรายการด้วยว่าเป็นอย่างไร เราจะสามารถคาดเดาได้มากขึ้น” สำหรับรายการชื่อนักกีฬาเทเบิลเทนนิสคนพิการทีมชาติไทย ทั้ง 12 คน มีดังนี้ ประเภทยืน 4 คน รุ่งโรจน์ ไทยนิยม(คลาส TT6), เฉลิมพงษ์ พันภู่ (คลาส TT7), พิสิษฐ์​ หวังผลพัฒนสิริ (คลาส TT 8), คมกฤษณ์ จริตสัจ (คลาส TT 8) และประเภทนั่ง 8 คน อนุรักษ์ ลาววงษ์ (คลาส TT3), ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น (คลาส TT3), วันชัย ชัยวุฒิ (คลาส TT4), ถิรายุ เชื้อวงษ์ (คลาส TT2), ชิลชิตพยัค บุตรวรรณสิริณา (คลาสTT2), ดารารัตน์ อาสายุทธ์ (คลาส TT3), วิจิตราใจอ่อน ( คลาส TT4), ปานวาด ศรีงาม (คลาส TT5) โดยทั้งหมดจะเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 17 สิงหาคม2564 โดยทัพนักกีฬาพาราทีมชาติไทย เข้าร่วมพาราลิมปิกเกมส์ ระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม ถึง 5 กันยายน นี้ ทั้งหมด 75 คนจาก 14 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย เทควันโด, ยิงธนู, แบดมินตัน, วีลแชร์ฟันดาบ, ยกน้ำหนัก, ว่ายน้ำ, เทเบิลเทนนิส, กรีฑา (ลู่-ลาน,วีลแชร์เรซซิ่ง), จักรยาน, ยิงปืน, วีลแชร์เทนนิส, บอคเซีย, ฟุตบอลตาบอด และยูโด ซึ่งถือเป็นการแข่งขันพาราลิมปิกที่มีนักกีฬาไทยผ่านเข้าไปร่วมแข่งขันจำนวนมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา-สำนักข่าวไทย

1 63 64 65 66 67 92