กยศ. ขออภัยหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ-เร่งคืน

กรุงเทพฯ 20 ก.ค.- กยศ. ขออภัยกรณีการหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ (Auto debit) พร้อมเร่งคืนเงินเข้าบัญชีเดิมของผู้กู้ยืมโดยอัตโนมัติให้เร็วที่สุด ตามที่ปรากฏข่าว กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ในสื่อสังคมออนไลน์มีการโพสต์เรื่องร้องเรียนจากผู้กู้ยืมที่ถูกหักเงินในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ซึ่งผู้กู้ยืมบางรายได้ชำระหนี้ปกติตามงวดรายปี หรือชำระหนี้เกินกว่างวดที่ต้องชำระแล้วนั้น กยศ. ได้ดำเนินการเร่งตรวจสอบสาเหตุ พบว่าเกิดจากความคลาดเคลื่อนของระบบการคำนวณหนี้ใหม่การหักบัญชีเงินฝากของผู้กู้ยืมเงินเพื่อชำระเงินคืนแบบอัตโนมัติ (Auto debit) เฉพาะผู้กู้ยืมที่ กยศ. คำนวณหนี้ใหม่แล้วยังมียอดหนี้ค้างชำระ โดยระบบได้ดำเนินการหักเงินตามยอดหนี้ที่คำนวณคลาดเคลื่อนนั้น ส่งผลให้เกิดการหักซ้ำซ้อนในบางราย หรือหักเงินเกินยอดที่จะต้องชำระ ทั้งนี้ กยศ. ขออภัยสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะเร่งดำเนินการคืนเงินที่หักเกินพร้อมคืนค่าธรรมเนียมการโอนเงินเข้าบัญชีเดิมของผู้กู้ยืมโดยอัตโนมัติให้เร็วที่สุด (ภายใน 3 วัน) หลังจากได้รับการตรวจสอบร่วมกับผู้พัฒนาระบบแล้ว และขอให้ความมั่นใจว่าจะดำเนินการอย่างถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ต้องเสียประโยชน์ พร้อมหาเครื่องมือมาช่วยในการตรวจสอบข้อมูลเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก.-515 สำนักข่าวไทย

ตลาดจับตาผลเจรจาสหรัฐ-ชื่อผู้ว่าฯ ธปท.คนใหม่

กรุงเทพฯ 20 ก.ค.- กสิกรไทย เผยสัปดาห์นี้ตลาดยังรอผลเจรจาสหรัฐ- ชื่อผู้ว่าฯ ธปท.คนใหม่ -ผลประกอบการแบงก์ไตรมาส 2/68 มองกรอบเงินบาท 32.30-32.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ คาดดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,160 และ 1,125 จุด แนวต้านอยู่ที่ 1,230 และ 1,255 จุด ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่าขึ้นช่วงสั้นๆ ต้นสัปดาห์ก่อนจะพลิกอ่อนค่าลงในเวลาต่อมา สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่ขยับแข็งค่าขึ้น ก่อนกลับมาพลิกแข็งค่าผ่านแนว 32.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงท้ายสัปดาห์ตามการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกและการแข็งค่าของเงินหยวนและสกุลเงินเอเชียอื่น ๆ ขณะที่แรงหนุนเงินดอลลาร์ฯ ชะลอลง หลังตอบรับปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด อาทิ ยอดค้าปลีกและตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ไปมากแล้ว โดยปิดตลาด (18 ก.ค.) ในประเทศที่ 32.39 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 32.51 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (11 ก.ค.) ส่วนสัปดาห์นี้ (21-25 ก.ค.) […]

“หยู” คว้าทองเทควันโด ม.โลก เหรียญแรกทัพไทย

เยอรมนี 20 ก.ค.- “หยู” บัลลังก์ ทับทิมแดง นักเทควันโดทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองแรกให้กับทัพไทยในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก ครั้งที่ 32 ที่ภูมิภาคไรน์– รูห์ร ประเทศเยอรมนี เทควันโด รุ่น 68 กิโลกรัมชาย “หยู” บัลลังก์ ทับทิมแดง จอมเตะทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2022 ในมุมแดง ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ พบกับคู่ปรับเก่า เหลียง ยู่ฉ่วย จากจีน ที่บัลลังก์ เคยเอาชนะมาในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ และนัดนี้เป็นการชิงไหวชิงพริบสู้กันอย่างสูสี บัลลังก์ เฉือนเอาชนะไป 2-1 ยก ด้วยสกอร์ 10-6, 5-5 และ 5-4 คะแนน คว้าเหรียญทองไปครอง เป็นเหรียญทองแรกให้ทัพนักกีฬาปัญญาชนไทยในการแข่งขันครั้งนี้ สำหรับกีฬามหาวิทยาลัยโลก แข่งไปจนถึงวันที่ 27 กรกฎาคม -สำนักข่าวไทย

ทบ.ส่งทหารช่างเก็บกู้ทุ่นระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชา

20 ก.ค.- ทหารช่างปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดพื้นที่ช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่กองทัพบกเตรียมมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม จากกรณีทหารไทยประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บาดเจ็บ 3 นาย ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ล่าสุดเช้านี้ (20 ก.ค. 68) กองทัพภาคที่ 2 เสริมกำลังทหารช่างลงพื้นที่ทันที เพื่อตรวจพื้นที่และเก็บกู้ทุ่นระเบิดตลอดแนวชายแดน โดยใช้ยุทโธปกรณ์หนัก รถแทรกเตอร์หุ้มเกราะ ชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดชำนาญการ กำลังชุดทหารช่างตรวจค้นกวาดล้างทุ่นระเบิด (Mine Clearing) เขตทางพื้นที่สงสัยให้ปลอดภัย พร้อมใช้รถโกยตัก ถางขุดตอ และรถถากถางติดตั้งเกราะเหล็กป้องกันพลขับในการทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย ปฏิบัติการดังกล่าว นอกจากดูแลความปลอดภัยของกำลังพลที่จะออกลาดตระเวนในพื้นที่เขตแดนไทยแล้ว ยังเป็นการเก็บหลักฐานเพื่อแสดงให้เห็นว่ากัมพูชามีพฤติการณ์ที่ขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แม้ทางฝ่ายกัมพูชาจะไม่ยอมรับ แต่กระทรวงการต่างประเทศ จะทำหนังสือเพื่อประท้วงอย่างเป็นทางการผ่านสหประชาชาติ (UN) และทางกองทัพบก จะมีมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม.-สำนักข่าวไทย

รวบหนุ่มซุกยาบ้ากว่า 6 หมื่นเม็ด คาห้องเช่า

สมุทรปราการ 20 ก.ค.- ตำรวจสมุทรปราการ ขานรับนโยบาย “ภูมิธรรม” ขีดเส้น 3 เดือน ล้างบางยาเสพติด รวบผู้ค้ายารายใหญ่ ยึดยาบ้ากว่า 6 หมื่นเม็ด คาห้องเช่าย่านบางโฉลง ศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดสมุทรปราการ โดยการอำนวยการของ นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.เจริญชัย หายทุกข์ สว.กก.สส.ฯ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญได้ 1 คน หลังได้รับรายงานจากสายลับว่ามีพฤติการขายยาบ้าให้กับวัยรุ่นในพื้นที่ และซุกซ่อนยาเสพติดไว้ในห้องเช่า ชั้น 2 แห่งหนึ่งในตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จากการเข้าตรวจค้นพบ นายศักดิ์ชัย หรือ “แก่” อายุ 29 ปี รับเป็นเจ้าของยาเสพติด โดยของกลางที่ยึดได้ประกอบไปด้วย เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่ระบาดในกลุ่มประชาชน กระทบต่อความมั่นคงของรัฐและความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” […]

ผลสำรวจนิด้าโพล “วิกฤตพระพุทธศาสนา” คนศรัทธาลดลง

20 ก.ค.- “นิด้าโพล” เผยผลสำรวจเรื่อง “วิกฤตพระพุทธศาสนา” พบประชาชนส่วนใหญ่มองพระสงฆ์จำนวนหนึ่งตัดไม่ขาดจากทางโลก จนเกิดข่าวฉาว ทำความศรัทธาลดลง “นิด้าโพล” เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “วิกฤตพระพุทธศาสนา !” จากการสำรวจเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นกับพระพุทธศาสนาในปัจจุบัน พบว่า ร้อยละ 76.11 ระบุว่า พระสงฆ์จำนวนหนึ่ง ตัดไม่ขาดจากทางโลกทำให้มีข่าวฉาวเป็นประจำ เช่น เสพยาบ้า ดื่มสุรา เล่นการพนัน ยุ่งสีกา รองลงมา ร้อยละ 45.95 ระบุว่า พระสงฆ์จำนวนหนึ่ง หลงในลาภ ยศ สรรเสริญและตำแหน่งทางสงฆ์ ร้อยละ 45.80 ระบุว่า พระสงฆ์จำนวนหนึ่ง หลงในวัตถุนิยมหรือบริโภคนิยม ร้อยละ 40.00 ระบุว่า พระสงฆ์จำนวนหนึ่ง ออกบวชเพราะมองว่าพระคืออาชีพหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้ ร้อยละ 29.16 ระบุว่า วัดบางแห่ง มีความเป็นพุทธพาณิชย์ ร้อยละ 27.63 ระบุว่า วัดบางแห่ง มีการบริหารจัดการทรัพย์สิน ที่ไม่โปร่งใส ร้อยละ […]

พฐ.เตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา

20 ก.ค.- เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา จ.บุรีรัมย์ เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บ คาดเสียหายหลายสิบล้านบาท เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานรับซื้อและแปรรูปยางพาราขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม ตำบลโคกม้า อ.ประโคกชัย จ.บุรีรัมย์ โดยต้นเพลิงเป็นโกดังเก็บยางพาราอัดแท่ง จัดว่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกไหม้รวดเร็วและรุนแรง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตอนเกิดเหตุช่วงแรก พนักงานช่วยกันดับแต่เอาไม่อยู่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าช่วยเหลือ ตำรวจ สภ.ประโคนชัย พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ลงพื้นที่ตรวจสอบและประสานรถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าฉีดสกัดนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ยังต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ตลอดป้องกันไม่ให้ไฟปะทุลามไปจุดอื่นในโรงงาน พร้อมเคลื่อนย้ายถังแก๊ส ถังน้ำมัน จากอาคารใกล้เคียงไปไว้ยังจุดปลอดภัย เบื้องต้นไม่มีพนักงานได้รับบาดเจ็บ ด้านนายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่าแม้จะควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่รถดับเพลิงก็ยังต้องฉีดน้ำเพื่อหล่อความเย็นจนกว่าไฟจะดับสนิท ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ยังไม่ทราบ ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบ สำหรับมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการประเมิน คาดหลายสิบล้านบาท ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวเคยเกิดเหตุไฟไหม้มาแล้ว เมื่อปี 63 -สำนักข่าวไทย

ปคม.ปฏิบัติการ “ปิดฉากแม่เล้าชาวอุดร”

20 ก.ค.- ปคม.ปฏิบัติการ “ปิดฉากแม่เล้าชาวอุดร” บุกรวบหญิงวัย 46 ปี ลอบเปิดร้านคาราโอเกะ ค้าประเวณีเด็กหญิง ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ บุกรวบ นางสาวศิริจรรยา อายุ 46 ปี บริเวณร้านคาราโอเกะ ตรอกโนนกกบาก อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ที่กระทำผิดฐาน ค้ามนุษย์ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีฯ และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากมีพฤติการณ์เปิดร้านคาราโอเกะ และนำเด็กอายุไม่ถึง 18 ปี มาค้าประเวณี สายลับแฝงตัวเป็นลูกค้า จากนั้นมีเด็กหญิง 3 คนมาเสนอขายบริการในราคา 1,500 บาทต่อคน และให้สายลับไปจ่ายเงิน 4,500 บาทกับเจ้าของ ก่อนนัดแนะพาไปยังรีสอร์ตที่ชุดจับกุมซุ่มอยู่ เมื่อค้นตัวเจ้าของร้าน พบเงินหลักฐานเหลืออยู่ 4,300 บาท ซึ่งเจ้าของร้านรับสารภาพเปิดร้านคาราโอะเกะชวนเด็กมาขายบริการ โดยเด็กได้ค่าตัว 1,200 บาท ส่วนตัวเองหักหัวคิว 300 บาท ส่วนเด็ก 3 คนที่ถูกล่อซื้ออายุ 16 ปีทุกคน -สำนักข่าวไทย

จับตา! กัมพูชาพาทัวร์เขมรเยือน “ตาเมือนธม”

สุรินทร์ 20 ก.ค.- จับตา! กัมพูชาพาทัวร์เขมรเยือนปราสาท “ตาเมือนธม” ด้านทหารไทย-ฝ่ายปกครอง จัดกำลังดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวไทยใกล้ชิด บรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ วันนี้ ถูกจับตามองเป็นพิเศษ หลังมีรายงานว่าทางกัมพูชาเตรียมเกณฑ์นักท่องเที่ยวชาวเขมรขึ้นมาเยือนปราสาทตาเมือนธม ซึ่งขณะนี้ทราบว่า มวลชนมาด้วยรถโดยสารประจำทางของฝั่งกัมพูชาเกือบ 23 คันรถ โดยจอดอยู่ข้างล่างฝั่งกัมพูชาและเริ่มทยอยขึ้นมายังปราสาทตาเมือนธมอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศภายในตัวปราสาทฯ ยังคงเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งไทยและกัมพูชา ท่ามกลางการดูแลอำนวยความสะดวกของเจ้าที่ทหารไทยเป็นอย่างดี ขณะนี้ยังไม่มีปัญหาเกิดขึ้นแต่อย่างใด -สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ย้ำเอาจริงปราบยาเสพติด-จ่อฟัน ขรก.เฉื่อยชา

กรุงเทพฯ 20 ก.ค.- “ภูมิธรรม” ย้ำผ่านรายการ “โอกาสไทย” ต้องเอาจริงปราบปรามยาเสพติด ชี้เป็นเรื่องสำคัญที่สุด บอกข้าราชการเตรียมโดนย้าย หากเฉื่อยชา ปล่อยปละละเลย ลั่นไม่ได้ทำแบบผักชีโรยหน้า เชื่อแก้ได้จะสร้างรายได้-ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เป็นรูปธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “โอกาสไทย” ถึง ความต่อเนื่องในการปราบปรามยาเสพติด ว่า ตนต้องท้าวความตั้งแต่สมัยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นเหตุประจักษ์ชัดว่าประสบความสำเร็จและเป็นที่ชื่นชอบของประชาชน แต่หลังจากนั้นปัญหาร่วงเลยมาเยอะ และก่อนที่เราเข้ามาก็ติดขัดมาตลอดและรุนแรงมากขึ้น เมื่อรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เข้ามาก็ได้เน้นย้ำว่าเรื่องนี้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ เพราะกำลังคนที่จะต้องพัฒนาประเทศที่ควรจะมีศักยภาพในการสร้างเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานรากจึงต้องช่วยกันจัดการ และกลไกทั้งหมดอยู่ที่กระทรวงมหาดไทย ถ้ามหาดไทยทำได้ก็จะแก้ปัญหาตรงนี้ได้ดี แต่เมื่อยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรและตัดสินใจให้ตนเข้ามาที่กระทรวงมหาดไทยก็หวังว่าจะใช้กระทรวงมหาดไทยในการแก้ไขปัญหา เพราะเวลาที่นายกฯ ลงพื้นที่ตั้งแต่สมัยหาเสียงเลือกตั้งประชาชนเข้ามากอด ร้องไห้ บอกว่าเสียลูกเสียสามี เสียภรรยา เสียแม่จากปัญหายาเสพติดถือเป็นสิ่งที่กระทบอย่างมาก ซึ่งกำลังที่แต่ละครอบครัวมีอยู่แทนที่จะช่วยกันสร้างเศรษฐกิจสร้างอาชีพหรือแก้ไขปัญหาชีวิตกลับถูกลดทอนไป จึงได้เดินหน้าพูดคุยกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมถึงกระทรวงมหาดไทย ที่อาจจะยังไม่ทำงานสอดประสานกันมากนัก หรือทำงานกันได้อย่างไม่เต็มที่ ส่วนการวางมาตรการในการแก้ไขปัญหา นายภูมิธรรม กล่าวว่า เวลาไปเจอประชาชนเขารู้อยู่เต็มอกว่าปัญหาอยู่ที่ไหน “สิ่งสำคัญที่ตนมักได้ยิน […]

DITP จับมือ H Mart เพิ่มสินค้าอาหารส่งออกสหรัฐ

กรุงเทพฯ 20 ก.ค.- กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ถกผู้บริหาร H Mart ห้างค้าปลีกสินค้าเอเชียชั้นนำในสหรัฐ ยืนยันนำเข้าสินค้าไทยต่อไป แม้จะมีประเด็นเรื่องภาษี ยินดีให้ความร่วมมือตั้งร้าน TOPTHAI ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มรวบรวมสินค้าไทยบนช่องทางออนไลน์ของ H Mart นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่าได้หารือกับผู้บริหาร H Mart ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกสินค้าเอเชียที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับความต้องการสินค้าไทยที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่อีก 3 สาขาภายในปีนี้ และมีแนวโน้มจะขยายบริษัทเพิ่มเติมอีกในอนาคต จึงทำให้บริษัทมีความต้องการนำเข้าสินค้ามากขึ้นและขอให้กรมจัดหาผู้ส่งออกไทยเพิ่มขึ้น โดยบริษัทให้กรมจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจให้กับสินค้าประเภทข้าว ข้าวหอมมะลิ น้ำผลไม้เมืองร้อน เช่น น้ำมะพร้าว น้ำกะทิ น้ำส้ม น้ำสับปะรด เป็นต้น อย่างไรก็ตาม แม้บริษัทจะกังวลเรื่องอัตราภาษี แต่บริษัทก็มีความมั่นใจว่าภาครัฐไทยจะมีมาตรการต่างๆ ที่จะสามารถช่วยเหลือผู้ส่งออกไทยโดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในสหรัฐ นอกจากนี้ ทางกรมยังได้หารือประเด็นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับห้าง H Mart เพิ่มเติมในลักษณะของร้านที่ขายสินค้าไทยโดยเฉพาะ ภายใต้ชื่อร้าน “TOPTHAI” เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงและเลือกซื้อสินค้าจากประเทศไทยได้ง่ายขึ้น ซึ่งกรมได้จัดทำรูปแบบร้านออนไลน์ TOPTHAI ลักษณะนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วกว่า 10 […]

มวลชนแสดงออกเชิงสัญลักษณ์หน้าสถานทูตกัมพูชา

20 ก.ค.- “คปท.-ศปปส.” รวมพลังหน้าสถานทูตกัมพูชา แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เรียกร้องรัฐบาลรักษาอธิปไตยไทย หลังเหตุทหารเหยียบกับระเบิด บาดเจ็บ 3 นาย กำลังตำรวจ กว่า 100 นาย ตรึงกำลังบริเวณหน้าสถานทูตกัมพูชา และกระจายกำลังประจำจุดต่างๆ นำแผงเหล็กวางกั้นตลอดแนว ดูแลความเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัย รวมถึงดูแลการจราจรโดยรอบพื้นที่ ขณะที่ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กองทัพธรรม ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และมวลชน เดินทางไปสถานทูตกัมพูชา รวมพลังเรียกร้องหน้าสถานทูตกัมพูชา หลังกำลังพลทหารไทยเหยียบกับระเบิดขณะออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกตไปยังเนิน 481 ชายแดนไทย-กัมพูชา บาดเจ็บ 3 นาย และเหยียบกับระเบิดขาขาด โดยกลุ่มผู้ชุมนุมมีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โบกธงชาติไทย ชูป้ายไม่ยอมเสียดินแดน ร้องเพลงปลุกใจเพลง “สู้ตรงนี้ สู้จนตาย เป็นคนสุดท้าย” และมีรถติดตั้งเครื่องขยายเสียงจอดริมถนนกล่าวปราศรัยถึงกรณีทหารไทยเหยียบกับระเบิด พร้อมเรียกร้องรัฐบาลรักษาอธิปไตยของชาติ ทั้งนี้ บริเวณถนนหน้าสถานทูตกัมพูชา ยังเปิดให้รถสัญจรได้ตามปกติทุกช่องทาง นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม เปิดเผยว่า วันนี้มาเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์สื่อสารไปถึงรัฐบาลและทหารของกัมพูชา หลังเกิดข้อพิพาทบริเวณแนวชายแดน ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมดังกล่าว เพราะมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศไทย […]

1 112 113 114 115 116 1,395