Sagon Jidawan

กรุงเทพฯ 24 ต.ค.-“พรรคเพื่อไทย” เล็งเป้าอภิปรายนายกฯ ชี้เป็นต้นตอของปัญหาบ้านเมือง ย้ำต้องลาออกก่อนประเทศพัง นางสาวอรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญในวันที่ 26-27 ตุลาคมว่า พรรคเพื่อไทยจะประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 25 ตุลาคมเพื่อเตรียมความพร้อมครั้งสุดท้ายในประเด็นการอภิปราย โดยเป้าหมายหลักคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะเป็นต้นเหตุของปัญหา และท่าทีที่ไม่ยอมรับความผิดพลาดในการบริหารประเทศ ทั้งปัญหาด้านเศรษฐกิจ และการนำพาประเทศไปสู่ความขัดแย้ง ใช้ความรุนแรงในการปราบปรามผู้ชุมนุมนางสาวอรุณี กล่าวว่า การที่พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านเข้าร่วมประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญในครั้งนี้ แม้จะถูกบีบด้วยเงื่อนไขของเวลาและญัตติของรัฐบาล แต่สิ่งหนึ่งในฐานะพรรคการเมืองฝ่ายค้านต้องทำคือ การหาทางออกในกระบวนการทางสภา ชี้แจงให้เห็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในสังคมขณะนี้และอธิบายในสิ่งที่ประชาชนถูกกล่าวหาผ่านญัตติที่ฝ่ายรัฐบาลยื่นมา “เรามีหน้าที่ในการปกป้องประชาชนและประเทศชาติ หากไม่ใช้เวทีสภาในการพยายามหาทางออกจากปัญหาร่วมกัน จะยิ่งทำให้ปัญหาลุกลามบานปลายเกินกว่าที่ พล.อ.ประยุทธ์จะรับผิดชอบได้ จุดยืนของเราในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งครั้งนี้คือ นายกฯ ต้องลาออกทันที รัฐบาลต้องหยุดคุกคามประชาชนทันที และเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเร่งด่วน เราในฐานะพรรคการเมืองจะทำหน้าที่ตรวจสอบอำนาจฝ่ายบริหารคู่ขนานไปกับเสียงเรียกร้องของประชาชนนอกสภา” นางสาวอรุณีกล่าว.- สำนักข่าวไทย

กรุงเทพ 24 ต.ค.-ปชป. นัด ส.ส.ประชุมเตรียมความพร้อม เน้นอภิปรายสร้างสรรค์แบบมีวุฒิภาวะ เชื่อเวทีสภาหาทางออกได้หากจริงใจแก้ปัญหา นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคและประธานส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญในวันที่ 26-27 ต.ค.นี้ว่า ตนได้เชิญ ส.ส. ประชุมเป็นกรณีพิเศษในวันที่ 25 ต.ค.เวลา 16.00 น. เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมตามที่รัฐบาลขอให้เปิดอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ ม.165 โดยไม่มีการลงมติ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์จะเน้นอภิปรายอย่างสร้างสรรค์แบบมีวุฒิภาวะ ตามจุดยืนของพรรค 3 ประการคือยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึงการแก้ปัญหาควรใช้แนวทางสันติ ไม่ใช้ความรุนแรง และใช้รัฐสภาเป็นเวทีหาทางออกของประเทศ ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลเวทีสภาจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้นั้น นายองอาจกล่าวว่า การแก้ไขปัญหามีได้หลายวิธี การใช้เวทีรัฐสภาที่มีผู้แทนประชาชนจากหลากหลายความคิดเห็นที่แตกต่างกันมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน เพื่อช่วยกันหาทางออกให้กับประเทศก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ แต่ทุกคนต้องคำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวมร่วมกัน จะช่วยทำให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปในทิศทางที่ถูกต้องได้ ด้านนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่กำหนดเวลาให้ฝ่ายค้าน 8 ชม. ถือว่ามีสัดส่วนจำนวนชั่วโมงมากกว่าฝ่ายอื่นๆ ดังนั้นฝ่ายค้านน่าจะใช้โอกาสนี้สะท้อนข้อมูลเพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ทั้งนี้ข้อบังคับการประชุมได้ระบุไว้ค่อนข้างชัดว่าห้ามอภิปรายพาดพิงถึงพระมหากษัตริย์โดยไม่จำเป็น สมาชิกก็ต้องระมัดระวังในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน หากมีความเป็นไปได้สิ่งที่อยากเห็นคือการนำเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาร่วมพิจารณาด้วย เพราะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องที่ต้องทำโดยเร็วที่สุด […]

กรุงเทพ 24ต.ค.-พลเอกประวิตร ลุยพื้นที่จ.สกลนคร เร่งแผนหลักพัฒนาหนองหาร ฟื้นฟูแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่เพื่อประชาชน พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามดูสภาพแวดล้อมบริเวณโดยรอบบึงหนองหาร ตามแผนการพัฒนาหนองหาร จ.สกลนคร พลเอกประวิตร กล่าวว่า การดำเนินงานของทุกหน่วยงานมีความก้าวหน้ามาเป็นลำดับ แต่ก็ต้องเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาสัมฤทธิ์ผลโดยเร็ว ทำให้หนองหารกลับมาสามารถเก็บน้ำได้เต็มพื้นที่อีกครั้ง โดยได้สั่งการให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) เร่งรัดขับเคลื่อนแผนหลักการพัฒนาหนองหารให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ ส่วนการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดได้มอบหมายให้กรมชลประทานและกรมประมงร่วมกันดำเนินการ ด้านการใช้ประโยชน์ที่ดินได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยกำหนดรูปแบบการเพาะปลูกและควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินร่วมตามที่กรมที่ดินร่วมกับกรมประมงกำหนดไว้ ด้านการบรรเทาอุทกภัยมอบหมายให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำหนดรูปแบบระบบบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ ในส่วนการจัดการคุณภาพน้ำได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นร่วมกับองค์การจัดการน้ำเสียกำหนดรูปแบบระบบบำบัดน้ำเสีย เพื่อให้ปัญหาคุณภาพน้ำของหนองหารที่เรื้อรังมานานได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ยังสามารถต่อยอดขยายผลความสำเร็จเพื่อนำไปใช้เป็นต้นแบบในการพัฒนาแหล่งน้ำธรรมชาติอื่นๆ เช่น บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ กว๊านพะเยา จ.พะเยา ต่อไป.- สำนักข่าวไทย      

พระลานพระราชวังดุสิต 23 ต.ค.- นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีวางพวงมาลาถวายราชสดุดีพระบรมราชานุสรณ์ รัชกาลที่ 5 เนื่องในวันปิยมหาราช พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำคณะรัฐมนตรี อาทิ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ,นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ,นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ,นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง,นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ,นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วางพวงมาลาถวายราชสดุดีต่อพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่บริเวณพระบรมราชานุสรณ์ รัชกาลที่ 5 พระลานพระราชวังดุสิต เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 23 ตุลาคม เนื่องในวันปิยะมหาราช ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครบรอบ 110 ปี ทั้งนี้มีหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชน ร่วมวางพวงมาลาถวายราชสักการะ […]

กรุงเทพฯ 23 ต.ค.-“ประเสริฐ” ชี้รายงานการศึกษารัฐธรรมนูญก่อนรับหลักการเป็นการเตะถ่วงเวลา อัดรัฐไม่จริงใจ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ. … ก่อนรับหลักการว่า เป็นการศึกษาที่เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์และสิ้นเปลืองงบประมาณ เพราะผลของการพิจารณาไม่มีสาระสำคัญ ไม่มีความเห็นในรายงาน เสมือนไม่ผ่านการศึกษาในรายละเอียดมาก่อน รวมถึงไม่มีมติไปในทิศทางใด เพราะเป็นการรวบรวมเอาความคิดเห็นของกรรมาธิการแต่ละคนไปรวมใส่ไว้ในรายงาน ซึ่งความเห็นดังกล่าว ได้อภิปรายในการประชุมรัฐสภาไปหมดแล้ว “การที่รัฐบาลเตะถ่วงเวลาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นการสุมฟืนเข้ากองไฟ พิสูจน์ว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้มีความจริงใจที่จะแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อพวกเราแต่อย่างใด“นายประเสริฐกล่าว.-สำนักข่าวไทย

กรุงเทพฯ 23 ต.ค.-ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมกำลังพลร่วมงานน้อมรำลึกครบรอบ 110 ปี วันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันปิยมหาราช ประจำปี 2563 พลเอก ณรงค์พันธ์  จิตต์แก้วแท้  ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธาน พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชา และกำลังพลร่วมงานน้อมรำลึกครบรอบ 110ปี วันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันปิยมหาราช ประจำปี 2563โดยมีผู้บังคับบัญชาชั้นสูง เหล่าสมาคมแม่บ้านทหารบก กำลังพล ชุมชนเขตพระนคร และผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกที่ตั้งภายในกองบัญชาการกองทัพบก เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง ที่ กองบัญชาการกองทัพบก ผู้บัญชาการทหารบก ยังได้ถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ ห้องพระบารมีปกเกล้า ชั้น 3 อาคารพิพิธภัณฑ์กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติ จากนั้นผู้บัญชาการทหารบก ได้ถวายความเคารพและวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ บริเวณลานด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สำหรับกองทัพบกในฐานะหน่วยงานที่พิทักษ์ปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นสถาบันอันสูงสุด ที่เป็นศูนย์รวมของจิตใจปวงชนชาวไทย ขอสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม ในวาระคล้ายวันเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่านอย่างหาที่สุดมิได้.- สำนักข่าวไทย  

กรุงเทพ 23 ต.ค.- ผบ.ทบกำชับทุกกองกำลังชายแดนป้องโควิด-19 คุมเข้ม “ตาก-ระนอง-เชียงราย” ลั่นทหารต้องเผชิญภัยคุกคามทุกรูปแบบ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวว่า ตนได้ลงพื้นตรวจเยี่ยมหน่วยกองกำลังป้องกันชายแดนที่อำเภอแม่สอด และอำเภอพบพระ จังหวัดตาก เพื่อติดตามและเพิ่มมาตรการป้องกันโควิด-19 ตามแนวชายแดนให้มีความเข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีการระงับห้ามผ่านเข้า-ออกด่านชายแดนต่างๆ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ และเพิ่มการลาดตระเวน รวมถึงยังมีด่านต่างๆเพิ่มเติมในพื้นที่ฝั่งไทยอีก เนื่องจากขณะนี้มีการแพร่ระบาดในประเทศเพื่อนบ้านเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ตนเคยปฏิบัติหน้าที่บริเวณชายแดนดังกล่าวจึงทราบดีว่าส่วนใหญ่เป็นชายแดนตามธรรมชาติที่สามารถข้ามไปมาได้ง่าย โดยเฉพาะบริเวณหมู่บ้าน วาเล่ย์เหนือใน อ.พบพระ ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่มีความยากลำบาก แต่ทุกภาคส่วนได้ร่วมมือกันทุ่มเทดูแลอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังกำชับทุกกองกำลังป้องกันชายแดนให้เพิ่มความเข้มงวดด้วยเช่นกัน “การที่ประเทศเพื่อนบ้านมีการแพร่ระบาดขยายตัวอย่างรวดเร็ว เราจึงได้เพ็งเล็งไปยัง 3 จังหวัดคือ ตาก ระนอง และเชียงราย เนื่องจากมีแนวชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน มีแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงาน และมีชุมชนแรงงานในพื้นที่ ซึ่งที่จ.ระนองและจ.ตากต้องยอมรับว่ามีแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานเป็นจำนวนมากกว่าทุกพื้นที่ ส่วนการป้องกันของเจ้าหน้าที่เองก็ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด คิดว่าอันตรายและความเสี่ยงลดน้อยลง”ผบ.ทบ.กล่าว.- สำนักข่าวไทย

กรุงเทพ 23ต.ค.-ผบ.ทบ.ย้ำทหารเร่งช่วยน้ำท่วม “โคราช-สระแก้ว-ปราจีนบุรี” พร้อมประสานชายแดนกัมพูชา หากต้องการความช่วยเหลือ ชี้มีความสัมพันธ์ที่ดีทั้งด้านรัฐบาล-การทหาร พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัยว่า รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ทุกระดับที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดูแลเรื่องภัยพิบัติต่างๆ ก็ปฏิบัติงานตามขั้นตอนในการดูแลประชาชน ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ,สระแก้ว และปราจีนบุรี กำลังเผชิญปัญหาน้ำท่วม เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นก็จะเข้าสู่ช่วงการฟื้นฟู โดยทางทหารจะช่วยเหลือจนกว่าจะกลับสู่ภาวะปกติ รวมถึงบริเวณชายแดนประเทศกัมพูชาก็ประสบปัญหานี้ด้วยเช่นกัน กองทัพบกได้มีการประสานงานว่าหากต้องการความช่วยเหลืออะไรขอให้แจ้งมา ทางกองทัพบกพร้อมให้ความช่วยเหลือ เพราะมีความสัมพันธ์ร่วมกันที่ดีทั้งด้านรัฐบาลและการทหาร.- สำนักข่าวไทย