ภูมิต้านภัย : จุดจบคนไทยรับจ้างนอมินีต่างชาติ-รับจ้างเปิดบัญชีม้า

26 ก.ค. – กลุ่มคนไทยขายชาติรับจ้างเปิดบัญชีม้า ข้ามไปสแกนใบหน้าในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน หรือรับจ้างนอมินีคนต่างชาติทำธุรกิจผิดกฎหมาย ซึ่งอาจเป็นต้นเหตุใช้ไทยเป็นแหล่งการฟอกเงิน ล่าสุดศาลมีคำพิพากษาจำคุกกลุ่มคนไทยขายชาติสถานหนักกว่า 100 ปี.-สำนักข่าวไทย

ทางเชื่อมช่วยชีวิต วิกฤติน้ำท่วม รพ.น่าน

น่าน 26 ก.ค. – น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์ของเมืองน่านสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง รวมทั้งที่โรงพยาบาลน่าน ซึ่งถูกน้ำท่วมสูงมิดหัว แม้น้ำลดลงแล้ว แต่สร้างความเสียหายอย่างหนัก ช่วงที่เผชิญกับวิกฤติน้ำท่วม สามารถดูและผู้ป่วย 300 ชีวิตให้ปลอดภัยได้ จากทางเชื่อมอาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จ กลายเป็นทางเชื่อมช่วยชีวิต.-สำนักข่าวไทย

เมืองน่านเสียหายหนักจากน้ำท่วม

น่าน 26 ก.ค. – น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์ของเมืองน่าน ตอนนี้เริ่มลดลงบ้างแล้ว ทำให้เห็นความเสียหายจากน้ำท่วมชัดเจนขึ้น ทั้งบ้านเรือนย่านเศรษฐกิจ และสถานที่ราชการ.-สำนักข่าวไทย

รมว.ยธ.ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัย

26 ก.ค. – รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่ในนามรัฐบาล สั่งการทุกหน่วยช่วยเหลือประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เร่งฟื้นฟูร่างกาย-จิตใจ-ไม่อยากให้เกิดการสูญเสียเพิ่ม ขณะที่กองทัพภาคที่ 2 สั่งเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดจากการสู้รบ บริเวณ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อพยพประชาชนต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย

กองทัพภาค 2 พร้อมปกป้องคนไทยจากขีปนาวุธเขมร

สุรินทร์ 26 ก.ค. – ชาวบ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ผวาขีปนาวุธกัมพูชาที่สามารถยิงได้ไกลถึง 130 กิโลเมตร ขณะที่กองทัพภาคที่ 2 ให้ความมั่นใจ มีเครื่องมือทำลายขีปนาวุธนี้ พร้อมปกป้องชาวบ้าน ขอให้ใช้ความระมัดระวัง และไม่ตื่นตระหนก.-สำนักข่าวไทย

อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เสียงปืนใหญ่ดังตลอดวัน

อุบลราชธานี 26 ก.ค. – วันที่ 3 เหตุปะทะบริเวณ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ยังมีเสียงปืนใหญ่ดังตลอดทั้งวัน ขณะที่ช่วงค่ำมีฝนตก แยกไม่ออกระหว่างฟ้าร้องกับเสียงปืน ทางการขอให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องออกนอกพื้นทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย .-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้าน จ.ตราด ที่ศูนย์อพยพ สภาพจิตใจยอดเยี่ยม

ตราด 26 ก.ค. – ชาวบ้าน จ.ตราด ที่ศูนย์อพยพ สภาพจิตใจยอดเยี่ยม ทุกคนปลอดภัย ทางการวางแผนรับมือตั้งแต่ก่อนเกิดการปะทะบริเวณบ้านชำราก ส่วนเรื่องอาหารและน้ำดื่ม มีเพียงพอ อุ่นใจมีทหารและตำรวจอีกหลายหน่วยสับเปลี่ยนมาดูแลใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย

รมว.ท่องเที่ยวฯ เยี่ยมให้กำลังใจผู้อพยพที่บุรีรัมย์

บุรีรัมย์ 26 ก.ค. – รมว.ท่องเที่ยวฯ เยี่ยมให้กำลังใจผู้อพยพจากเหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ อ.บ้านกรวด และ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เตรียมคว่ำกัมพูชา ไม่ให้ร่วมแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจผู้อพยพจากเหตุการณ์ปะทะระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ในพื้นที่อำเภอบ้านกรวด และอำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ที่อาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งมีทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบาง นายสรวงศ์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ครั้งนี้ในนามของกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ขอประณามต่อการกระทำของฝ่ายกัมพูชา รวมทั้งจะหารือกับประเทศสมาชิกซีเกมส์ 11 ประเทศ ร่วมบอยคอตไม่ให้กัมพูชาร่วมแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคมนี้.-สำนักข่าวไทย

สื่อนานาชาติเข้าใจไทยในยุทธวิธีภารกิจเหยี่ยวเวหา F-16

กทม. 26 ก.ค. – สื่อนานาชาติเข้าใจไทยในยุทธวิธี ภารกิจเหยี่ยวเวหา F-16 จำกัดวงเฉพาะพื้นที่ทหาร หลังกัมพูชาถล่มเป้าหมายพลเรือนไทยต่อเนื่อง ยืนยันป้องกันประเทศตามหลักกฎหมายสากลระหว่างประเทศ ขณะที่อินฟลูฯ และนักวิชาการนานาชาติชื่นชมไทยปฏิบัติภารกิจด้วยสุภาพบุรุษทางการทหาร นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร ได้สรุปความคิดเห็นของนักวิชาการ สื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศ ต่างแสดงความเข้าใจที่ประเทศไทยดำเนินการทางยุทธวิธี ในกฎการปะทะ โดยปฏิบัติจำกัดวงของภารกิจเฉพาะพื้นที่กำลังทางทหารของกัมพูชาซึ่งเป็นการปฏิบัติต่อต้านการรุกราน รักษาอธิปไตยดินแดนไทย และยืนยันการใช้ F-16 ตอบโต้กัมพูชาเมื่อวันที่ 24-25 กรกฎาคม 2568 สอดคล้องกับสิทธิในการป้องกันตนเองตามกฎบัตรสหประชาชาติ หลังจากกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธหนัก และยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เข้าใส่บ้านเรือนและพื้นที่ของพลเรือนไทย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ มีการระบุว่าศักยภาพ F-16 เป็นอาวุธที่มีความแม่นยำสูง ช่วยลดความเสี่ยงต่อพื้นที่พลเรือน ขณะที่กัมพูชาใช้อาวุธหนักอย่างปืนใหญ่ที่นำมาใช้อย่างไม่เลือกเป้าหมาย ล่าสุดสื่อต่างประเทศ เช่น CNA ของสิงคโปร์ ได้สัมภาษณ์นักวิชาการด้านความมั่นคงจากมหาวิทยาลัยการป้องกันประเทศ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งยืนยันว่าการตอบโต้ของปองทัพไทยมีความแม่นยำและจำกัดเฉพาะเป้าหมายทางทหารของฝ่ายกัมพูชาที่เป็นต้นตอของการโจมตี โดยไม่กระทบพื้นที่พลเรือน พร้อมชี้ว่าใช้ยุทธวิธีได้อย่างเหมาะสมในบริบทของความขัดแย้งชายแดน ซึ่งในส่วนของกองทัพอากาศไทยนั้นได้ใช้ F-16 […]

ชาวกัมพูชาแห่กลับประเทศ ทะลักจุดผ่านแดนบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว

สระแก้ว 26 ก.ค. – ชาวกัมพูชาทะลักจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว รอข้ามกลับประเทศ หลังญาติพี่น้องเป็นห่วง ขอให้เดินทางกลับ ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ชาวกัมพูชานับพันยืนรอแน่นเพื่อรอการปล่อยให้เดินเข้าช่องตรวจเอกสารของตรวจคนเข้าเมืองสระแก้ว ในการเดินออกข้ามพรมแดนไปยังฝั่งประเทศกัมพูชา โดยแรงงานเหล่านี้เข้ามาในประเทศไทยแล้วไปทำงานอยู่ในพื้นที่ชั้นใน ซึ่งในสถานการณ์ไม่ปกตินี้ ทางญาติพี่น้องในกัมพูชาเป็นห่วง ขอให้เดินทางกลับ การผ่อนผันดังกล่าวเพื่ออนุโลมให้ชาวกัมพูชาที่ตกค้างอยู่ในฝั่งไทยกว่าพันคนเดินทางกลับประเทศกัมพูชา และอนุโลมให้คนไทยที่ตกค้างอยู่ในฝั่งกัมพูชากว่า 200 คน สามารถเดินทางผ่านประตูเล็กข้างด่านพรมแดนคลองลึก กลับเข้ามาในประเทศไทยได้ ตั้งแต่เวลา 11.00-13.00 น. ภายในวันนี้วันเดียวเท่านั้น .-สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ยังไม่ตอบกัมพูชาขยับอาวุธหนักยิงไกล 130 กม.

กระทรวงวัฒนธรรม 26 ก.ค. – “แพทองธาร” ยังไม่ตอบกัมพูชาขยับอาวุธหนักยิงไกล 130 กิโลเมตร ขยายวงเกินพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุขอประชุมก่อน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เดินทางมาที่กระทรวงวัฒนธรรม เวลา 13.55 น. เพื่อประชุมติดตามมาตรการการรับมือและการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงมหาดไทย เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการที่กัมพูชาขยับอาวุธหนักที่สามารถยิงไกลได้กว่า 130 กิโลเมตร ขยายวงเกินพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา จะมีมาตรการตอบโต้อย่างไรหรือไม่ นางสาวแพทองธาร ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยระบุเพียงว่าขอประชุมก่อน.-319-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ลงพื้นที่ศรีสะเกษ ให้กำลังใจพี่น้องชายแดน-เร่งประสานช่วยเหลือใกล้ชิด

ศรีสะเกษ 26 ก.ค. – “อนุทิน” ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ให้กำลังใจพี่น้องชายแดน ขอบคุณทุกฝ่ายร่วมฝ่าวิกฤติ พร้อมเร่งประสานช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ตลอดทั้งวัน เพื่อให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีเป้าหมายเพื่อรับฟังปัญหา เยี่ยมเยียนผู้ประสบภัย และเร่งรัดการประสานงานด้านความช่วยเหลือในทุกมิติ ภารกิจเริ่มขึ้นในเวลา 09.30 น. ที่วัดแห่งหนึ่ง ต.ไพรบึง อ.ไพรบึง โดยนายอนุทินได้พบปะพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ สอบถามความเป็นอยู่ และให้กำลังใจแก่ชาวบ้านที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ตึงเครียดจากเหตุความไม่สงบ พร้อมยืนยันว่าประชาชนจะไม่ถูกทอดทิ้ง ทุกภาคส่วนจะอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด จากนั้นเดินทางต่อไปยังวัดอีกแห่งหนึ่งใน ต.ไพรบึง เช่นกัน โดยระหว่างการพบปะชาวบ้าน นายอนุทิน กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกคนที่เสียสละและร่วมแรงร่วมใจกันดูแลพี่น้องประชาชนอย่างดีที่สุด วันนี้สิ่งที่เราต้องทำคือเดินหน้าช่วยเหลือโดยไม่รีรอ พรรคภูมิใจไทยพร้อมเป็นสะพานเชื่อมประสานทุกหน่วยงาน เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ และฟื้นฟูชีวิตของประชาชนให้กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายอนุทิน และคณะ มีกำหนดการเยี่ยมเยียนพื้นที่เสี่ยงภัยและจุดอพยพอีกหลายแห่งใน จ.ศรีสะเกษ ตลอดทั้งวัน พร้อมให้กำลังใจประชาชนทุกจุดที่เดินทางไปถึง โดยมีการพูดคุย รับฟังข้อเสนอแนะจากชาวบ้านในแต่ละชุมชน เพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการผลักดันนโยบายหรือมาตรการช่วยเหลือที่ตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริง.-319-สำนักข่าวไทย

1 15 16 17 18 19 1,325