![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2020/09/12631195052202-1-685x360.jpg)
“พล.อ.ประวิตร” สั่งการ ส.ส. ช่วยเกษตรกรระบายสินค้า
พลเอกประวิตร สั่งการให้ ส.ส.ช่วยเกษตรกรระบายสินค้าทางการเกษตร จำหน่ายที่ตลาด อ.ต.ก. ระหว่างวันที่ 11-20 กันยายนนี้
พลเอกประวิตร สั่งการให้ ส.ส.ช่วยเกษตรกรระบายสินค้าทางการเกษตร จำหน่ายที่ตลาด อ.ต.ก. ระหว่างวันที่ 11-20 กันยายนนี้
รมว.ท่องเที่ยวฯ ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต รับฟังปัญหาผลกระทบต่อธุรกิจจากการระบาดของโควิด-19
นครนายก 5 ก.ย.63 – วราวุธ ตรวจเยี่ยมการให้บริการประชาชนช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ย้ำการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ที่ยังปฏิบัติหน้าที่ให้บริการประชาชนช่วงเทศกาลวันหยุดยาวชดเชยวันสงกรานต์ ในพื้นที่จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี นครราชสีมา และสระบุรี พร้อมทั้งได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จังหวัดนครนายก เพื่อสนับสนุนโครงการพระราชดำริสวนผลไม้ภาคใต้ ในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ ซึ่งมีความก้าวหน้า และสามารถนำไปใช้แก้ปัญหาให้เกษตรพัฒนาการเพาะปลูกให้เหมาะสมกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ยังได้เดินทางตรวจเยี่ยมศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 1 จังหวัดนครนายก ติดตามการดำเนินงานช่วยเหลือสัตว์ป่าและมอบนโยบายเรื่องการป้องกันโรคติดต่อของสัตว์ป่า และการจัดทำระบบลงทะเบียนเข้าเยี่ยมชมของนักท่องเที่ยวการแก้ไขปัญหาช้างป่าพลัดตกน้ำตกเหวนรก โดยยังได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่ให้บริการประชาชน ที่น้ำตกสาริกา น้ำตกเหวนรก และศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเขาใหญ่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ กล่าวว่า ได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่เรื่องการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องไม่สร้างผลกระทบต่อสัตว์ป่าและทรัพยากรธรรมชาติ โดยช่วงวันหยุดยาวนี้อาจมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการมากกว่าปกติ ให้คำนึงถึงความสะดวกด้านการใช้บริการ ความสะอาดของสถานที่ และความปลอดภัย ซึ่งเจเาหน้าที่ทุกนายมีความพร้อมดูแลนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ อีกทั้งได้เตรียมกำลังช่วยเหลือชีวิตนักท่องเที่ยวหากกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินตลอดเวลา อย่างไรก็ตามแนะนำประชาชนที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวพื้นที่ป่าอนุรักษ์ให้ทำตามกติกาของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะต้องผ่านการคัดกรองวัดไข้นักท่องเที่ยวทุกคน โดยได้เตรียมจุดให้บริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือโดยรอบให้เพียงพอกับความต้องการ ซึ่ฃจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคระบาดได้ นอกจากนี้หากต้องการเข้ามาท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติทุกแห่งสามารถใช้ระบบการจองคิวผ่านแอปพลิเคชัน QueQ ซึ่งจะช่วยกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวไม่ให้เกินปริมาณที่รองรับได้ และไม่เกิดปัญหานักท่องเที่ยวแออัดที่อาจเสี่ยงต่อการติดโรคระบาดได้ สำหรับในวันที่ 6 กันยายน จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมสวนพฤกษศาสตร์ภาคกลาง (พุแค) และอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น จังหวัดสระบุรี เพื่อรับฟังการดำเนินงาน และแนวทางพัฒนาพื้นที่เชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืน เป็นการรักษาสมดุลของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้นักท่องเที่ยวทุกคนได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม ความปลอดภัยจากการมาท่องเที่ยว และได้รับการบริการที่ดีจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว.-สำนักข่าวไทย
ผบ.ทบ. บินด่วนวันหยุด ตรวจภูมิประเทศ เฝ้าระวัง ชายแดนไทย-เมียนมา จุดผ่านแดนถาวร และช่องทางการค้าชายแดน ป้องกันการแพร่ระบาดโควิด 19 ระลอกตามข้อห่วงใยและสั่งการนายกรัฐมนตรี
NIA ประกาศผลรางวัล 6 สตาร์ทอัพแห่งปี ยกระดับระบบนิเวศสตาร์ทอัพไทย สู่การกระตุ้นเศรษฐกิจยุคดิจิทัล สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ NIA กระทรวงการอุกดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) จัดงานStartup Thailand x Innovation Thailand Expo 2020 โชว์ผลงานนวัตกรรมและความก้าวหน้าสตาร์ทอัพไทย พร้อมประกาศ 6 รางวัลสตาร์ทอัพแห่งปี โดยผู้ที่ได้รับรางวัลประเภท Startup of the Year ได้แก่ Ricult สตาร์ทอัพสาขาธุรกิจเป้าหมาย ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง สร้างความเปลี่ยนแปลงใน อุตสาหกรรม รางวัลประเภท Global Tech Startup of the Year ได้แก่ SYNQA สตาร์ทอัพในสาขาธุรกิจเป้าหมาย ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง สร้างความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมในวงกว้าง รางวัลประเภท Evangelist of the Year ได้แก่ นายภาวุธ พงษ์วิทยาภานุ และ น.ส.อรนุช เลิศสุวรรณกิจ บุคคลต้นแบบที่มีศักยภาพ มีส่วนส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาระบบนิเวศของสตาร์ทอัพ สามารถยกระดับการเติบโตระบบนิเวศของสตาร์ทอัพของประเทศไทยสู่ระดับนานาชาติ รางวัลประเภท Investor of the Year ได้แก่ BeaconVenture บริษัทร่วมลงทุนที่มีศักยภาพสร้างการเติบโตให้กับบริษัทสตาร์ทอัพ รางวัลประเภท Best Brotherhood of the Year ได้แก่ ThaiUnion องค์กรขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพสร้างการเติบโตให้กับบริษัทสตาร์ทอัพ มีส่วนส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาระบบนิเวศของสตาร์ทอัพ ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาตอิ กล่าวว่า รางวัล Prime Minister Award เป็นการเชิดชูเกียรติให้แก่ผู้มีส่วนร่วมในการส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาระบบนิเวศสำหรับสตาร์ทอัพของประเทศ ซ่ฃทั้ฝทั้งหมด 6 รางวัล มีส่วนสำคัญในการสร้างความก้าวหน้าให้สตาร์ทอัพไทย มีส่วนในการกระตุ้นเศรษฐได้อย่างมาก สำหรับรางวัล Prime Minister Award: Innovation for Crisis มีทั้งหมด 9 รางวัล ดังนี้ รางวัลประเภทหน่วยงานภาครัฐได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล และ มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช รางวัลประเภทหน่วยงานภาคเอกชน ได้แก่ Thailand COVID19 Digital Group ThaiSafe และ หมอชนะ รางวัลประเภทบุคคลทั่วไป ได้แก่ นายภาคภูมิ เดชหัสดิน หรือ หมอแล็บแพนด้า นายสมโภชน์ อาหุนัยและนายพณชิต กิตติปัญญางาม .-สำนักข่าวไทย
กกต.เบรกคลิป “ครูปรีชา” ช่วยรณรงค์เลือกตั้งท้องถิ่น หวั่นกระทบภาพลักษณ์จัดเลือกตั้งต้องซื่อสัตย์สุจริต
นับจากวันที่ 3 กันยายน 2555 จนถึงวันนี้ ครบรอบ 8 ปีเต็ม ในคดี “บอส อยู่วิทยา” ยังไม่จบง่ายๆ เผยผลรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงล่าสุดในคดีบอสมีความคิดเห็นตรงกันว่าเป็นการทำสำนวนอันเป็นการสมยอมไม่สุจริตร่วมมือกันตามทฤษฎีสมคบคิด ทำให้สำนวนนั้นเสียตั้งแต่ต้นเลย พร้อมเผยชื่อย่ออ้างมีเอี่ยวในคดี บอส อยู่วิทยา
“อนุชา” เผย ต่างชาติในไทยขอให้ช่วยขยายวีซ่า พำนักในไทยต่อ เพื่อเปิดโอกาสท่องเที่ยว ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ บรรเทาวิกฤติโควิด-19
กรุงเทพฯ 3 ก.ย.โกเจ็กกลุ่มธุรกิจด้านเทคโนโลยี เปิดให้ผู้บริโภคไทยดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Gojek Thailand ได้แล้วก่อนให้บริการเต็มรูปแบบ 16ก.ย. หลังจากเก็ท (Get) ได้ประกาศรีแบรนด์และรวมแอพพลิเคชั่นเข้าภายใต้ Gojek ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจระยะยาวของบริษัท โดยเป็นการต่อยอดความสำเร็จของแพลตฟอร์ม GET สำหรับแอพพลิเคชั่น Gojek จะให้บริการด้วยอินเทอร์เฟซฝั่งผู้ใช้ที่ดีและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ อีกมากมาย เพื่อรองรับบริการหลักทั้ง 4 ประเภทได้แก่ บริการส่งอาหาร (GoFood)บริการเรียกรถจักรยานยนต์ (GoRide) บริการขนส่งพัสดุ (GoSend) และ อีวอลเล็ตหรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (GoPay) ทั้งนี้ ผู้บริโภคสามารถใช้บริการผ่านแอพ GET ได้ต่อเนื่องไปจนถึงวันเปิดตัวแอพ Gojek อย่างเป็นทางการ -สำนักข่าวไทย.
กรุงเทพฯ 3 ก.ย.- พีเทค สวทช. ย้ำเพาเวอร์แบงก์ต้องได้มาตรฐาน ขีดเส้นตาย 1 ธ.ค. ไม่มีมาตรฐานโดนแน่ นางเกศวรงค์ หงส์ลดารมภ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พร้อมด้วยนายไกรสร อัญชลีวรพันธุ์ ผู้อานวยการศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (PTEC) สวทช. นำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมศูนย์ทดสอบมาตรฐานแบตเตอรี่ครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทยสามารถทำการทดสอบแบตเตอรี่ทั้งระดับเซลล์ ระดับโมดูลและ ระดับแพ็ค และได้รับมาตรฐาน มอก. 2217 หรือ IEC62133 และมาตรฐาน มอก. 2879 จาก สมอ.พร้อมที่จะดำเนินการให้บริการแก่ผู้ประกอบการที่สนใจจะทดสอบมาตรฐานแบตเตอรี่ เพื่อให้ผู้ใช้งานมีความมั่นใจในการใช้งาน และปัจจุบัน PTEC ยังสามารถทำการทดสอบแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ที่ใช้สาหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และแหล่งเก็บกักพลังงาน (Energy Storage) ขนาดใหญ่ ทั้งในด้านประสิทธิภาพในการชาร์จ-ดิสชาร์จ และด้านความปลอดภัยการใช้งานด้วย นายไกรสร กล่าวว่า ปัจจุบันประชาชนใช้งานแบตเตอรี่ ทั้งในส่วนเพาเวอร์แบงก์ โทรศัพท์มือถือ โน๊ตบุ๊ก แท็บเล็ต หรือกล้องติดรถยนต์ เป็นจำนวนมากภายใต้ความเสี่ยงระเบิดและเกิดเพลิงไหม้ หลังวางไว้อยู่ในรถซึ่งตากแดดเป็นเวลานาน หรือชาร์จทิ้งไว้ในบ้านแล้วเกิดระเบิดจนไฟลุกไหม้สร้างความเสียหาย เพราะส่วนประกอบของแบตเตอรี่ เป็นแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนเป็นสารที่ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนง่าย และอาจเกิดการติดไฟขึ้นได้ ในเวลาที่เจอกับสภาวะร้อนจัด ซึ่งหากใช้แบตเตอรี่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ได้ ดังนั้นเพื่อดูแลและคุ้มครองผู้บริโภคให้ปลอดภัยจากการใช้สินค้า สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) จึงประกาศให้มาตรฐานเพาเวอร์แบงก์เป็นมาตรฐานบังคับ คือมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม แบตเตอรี่สำรองไฟฟ้าสำหรับการใช้งานแบบพกพา คุณลักษณะที่ต้องการด้านความปลอดภัย มอก. 2879-2560 ซึ่งผู้ประกอบการสามารถยื่นขอ มอก.เพื่อรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์ของตนเองได้ โดยจะมีผลบังคับใช้ 1 ธันวาคม 2563 โดยจะส่งผลให้เพาเวอร์แบงก์ในท้องตลาดทุกยี่ห้อ ต้องมีเครื่องหมาย มอก. รับรองตามที่มาตรฐานกำหนด หากละเมิดผู้นำเข้าจะมีความผิดทางอาญา นายไกรสร กล่าวว่า ผู้บริโภคสามารถสังเกตความผิดปกติของแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ โดยดูลักษณะทางกายภาพ หากบวมแตกหรือบิ่น แสดงว่าไม่ปลอดภัย ต้องเช็กและตรวจสอบ ก่อนนำไปใช้งานต่อ เพราะหากชำรุดจะเกิดปัญหา ขณะที่ผู้บริโภคควรเลือกใช้แบตเตอรี่ หรือตัวชาร์จ ที่ผลิตโดยผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน มีตราสัญลักษณ์รับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ เช่น มอก. และควรเลี่ยงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีราคาถูกเกินจริง เพราะมีโอกาสจะเป็นสินค้าไม่ได้มาตรฐาน อาจส่งผลเสียทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ นางเกศวรงค์ กล่าวว่า นักธุรกิจไทยหรือผู้ประกอบการไทยที่จะนำเข้าเพาเวอร์แบงก์เข้ามาจำหน่าย สามารถนำสินค้าเข้ามาใช้บริการศูนย์ทดสอบได้ในราคาพิเศษ โดยใช้เวลาในการทดสอบคุณภาพเพียง 3 สัปดาห์ถึง 1 เดือน เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน สำหรับผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ PTEC สวทช.หมายเลขโทรศัพท์ 0-2117-8625 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป -สำนักข่าวไทย.
“วิชา” ถกปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม คดีบอส นัดแรกระบุต้องปรับปรุงข้อกฎหมายที่ล้าสมัย ให้พ้นจากความเสื่อม คดีบอสครบ 8 ปี ต้องทำความจริงให้กระจ่าง สั่งจับตัวบอสไม่ว่าอยู่ที่ไหน กลับมาดำเนินคดี โต้ข้อครหาว่าตั้งคณะกรรมการแต่ในทางทฤษฎีทำอะไรทางปฏิบัติไม่ได้ บอกขอแค่มีคนเชื่อมั่นแค่ 90% ก็พอแล้ว
กรุงเทพฯ 3 ก.ย. กสทช. ปรับปรุงประกาศโดรนฉบับใหม่ กำหนดให้ผู้ที่ครอบครองโดรนใหม่ หลัง 23 ก.ย. 2563 จะต้องมาขึ้นทะเบียน ภายใน 30 วันหลังจากครอบครอง นายสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน รองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการโทรคมนาคม กล่าวว่า หลังวันที่ 23 กันยายน 2563 ประกาศกสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับอากาศยานซึ่งไม่มีนักบินสำหรับใช้งานเป็นการทั่วไป หรือที่เรียกกันว่า ประกาศโดรน จะมีผลบังคับใช้ ทำให้ผู้ที่มีโดรนไว้ในครอบครองมีหน้าที่ต้องมาขึ้นทะเบียนโดรนภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่ได้ครอบครองเครื่อง สำหรับผู้ที่ได้ขึ้นทะเบียนโดรนกับสำนักงาน กสทช. ไว้แล้วก่อนหน้านี้ ได้รับการยกเว้นไม่ต้องรับใบอนุญาตให้มี ใช้ และนำออกซึ่งวิทยุคมนาคม และใบอนุญาตให้ตั้งสถานีวิทยุคมนาคม ผู้ที่มีหน้าที่ต้องมาขึ้นทะเบียนโดรน ได้แก่ 1.เจ้าของโดรนและผู้ใช้งานทั่วไป 2.นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่นำโดรนเข้ามาใช้ในประเทศไทย 3.ผู้ที่นำโดรนเข้ามาใช้ในภารกิจชั่วคราว เช่น นำมาใช้ถ่ายภาพยนตร์ ใช้ในงานโชว์ 4.หน่วยงานของรัฐทั้งหมด ยกเว้นหน่วยงานความมั่นคง นายสุทธิศักดิ์ กล่าวว่า ประชาชนที่มีโดรนไว้ในครอบครองสามารถยื่นขอขึ้นทะเบียนโดรนได้ที่สำนักงาน กสทช. ส่วนกลางพหลโยธิน 8 (ซอยสายลม) กรุงเทพ หรือ สำนักงาน กสทช. ภาค หรือสำนักงาน กสทช. เขต ตามที่ท่านสะดวก โดยมีค่าธรรมเนียมคำขอ 200 บาทต่อเครื่อง ทั้งนี้ ให้ยื่นขึ้นทะเบียนภายใน 30 วันนับตั้งแต่มีโดรนไว้ในครอบครอง ฝ่าฝืนจะต้องเสียค่าปรับตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถโทรศัพท์สอบถามได้ที่ สำนักงานอนุญาตวิทยุคมนาคม 1 หมายเลขโทรศัพท์ 0 2670 8888 ต่อ 7850 หรือ 7852 หรือ กสทช. Call Center หมายเลขโทรศัพท์ 1200-สำนักข่าวไทย.