นายกฯ ตรวจมาตรการคัดกรองนักท่องเที่ยว เกาะสมุย

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่เกาะสมุย สุราษฎร์ธานี ตรวจมาตรการคัดกรองนักท่องเที่ยวตั้งแต่สนามบิน จนเข้าพัก State Quarantine เยี่ยมชมระบบติดตามผู้เดินทางเข้าออก ภายในเกาะสมุย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชน ในการป้องกันโควิด-19 และฟื้นฟูเศรษฐกิจควบคู่กันไป

ปธน. ฟิลิปปินส์เตรียมสำรวจพื้นที่ประสบภัยพายุโคนี

ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์เตรียมสำรวจทางอากาศพื้นที่ประสบภัยหลังพายุไต้ฝุ่นโคนีพัดถล่มฟิลิปปินส์ ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 คน

เอ็ตด้าเผยสถิติเรื่องร้องเรียนเพิ่มสูงเว็บหลอกขายของออนไลน์ครองแชมป์

กรุงเทพฯ 2 พ.ย. ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนฯ รายงานสถิติปี 63 พบปัญหาออนไลน์พุ่งสูงเฉลี่ย 3,742 ครั้งต่อเดือนมากสุดคือ ปัญหาซื้อขายออนไลน์-เว็บไซต์ผิดกฎหมาย นายชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ (เอ็ตด้า) กล่าวว่า ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนปัญหาออนไลน์ 1212 OCC หรือ Online Complaint Center ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางรับเรื่องร้องเรียนปัญหาออนไลน์ รายงานการรับเรื่องร้องเรียนพบว่า มีผู้บริโภคเข้ามาร้องเรียนผ่านช่องทางสายด่วน 1212, อีเมล 1212@mdes.go.th , เว็บไซต์www.1212occ.com และแช็ตบอต m.me/1212occ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ร้อยละ 13 จำนวนรวมกว่า 44,907 ครั้ง เฉลี่ย3,742 ครั้งต่อเดือน  โดยปัญหาออนไลน์ที่พบมากที่สุดคือ ปัญหาการซื้อขายทางออนไลน์ จำนวน 20,300 ครั้ง รองลงมาคือ ปัญหาเว็บไซต์ผิดกฎหมาย 24,209 ครั้ง ปัญหาภัยคุกคามทางไซเบอร์ 90 ครั้ง ข้อสงสัยด้านกฎหมายไอซีที  57 ครั้ง และปัญหาอื่น อาทิ สอบถามข้อสงสัย 251 ครั้ง “หากพิจารณาประเด็นที่ร้องเรียนในปัญหาในแต่ละประเภท พบว่า ปัญหาการซื้อขายทางออนไลน์ เรื่องที่แจ้งหรือสอบถามเข้ามามากที่สุดคือ การสอบถามเกี่ยวกับขั้นตอนและหลักฐานการแจ้งเรื่องร้องเรียน รองลงมาคือ ปรึกษาความน่าเชื่อถือของผู้ขาย, ไม่ได้รับสินค้า ถูกหลอกลวง ขณะที่ ปัญหาเว็บไซต์ผิดกฎหมาย ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับเนื้อหาหมิ่นเบื้องสูง, ขอคำปรึกษาขั้นตอนการแจ้งเบาะแสเรื่องร้องเรียน, เนื้อหาลามกอนาจาร ปัญหาภัยคุกคามทางไซเบอร์ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องโปรแกรมไม่พึงประสงค์, ความพยายามบุกรุกเจาะระบบ, ความพยายามรวบรวมข้อมูลของระบบ ข้อสงสัยด้านกฎหมาย ICT ส่วนใหญ่เป็นเรื่องกฎหมายต่างๆ, พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์, พ.ร.บ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์” ผู้อำนวยการเอ็ตด้า กล่าว  นายชัยชนะ กล่าวอีกว่า ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบทำให้ห้างร้าน ศูนย์การค้าถูกปิดกิจการชั่วคราว เพื่อลดปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้พ่อค้าแม่ค้าต่างนำสินค้ามาขายบนโลกออนไลน์แทน ไม่เว้นแม้แต่สินค้าชุมชน การเกษตร จึงก่อให้เกิดปัญหาการซื้อขายทางออนไลน์มากขึ้น ทั้งจากความตั้งใจของผู้ขาย อันเนื่องจากมาจากพิษเศรษฐกิจ ที่ต้องหวังผลกำไรเป็นที่ตั้ง และความไม่ตั้งใจ จากความไม่ถนัด ขาดทักษะในการขายของออนไลน์ของผู้ขาย จากปัจจัยข้างต้นนับเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้เอ็ตด้าโดย ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนฯ1212 OCC ยกระดับการรับเรื่องร้องเรียนให้มากขึ้น โดยการพัฒนากรอบการทำงานเชิงรุก ให้เกิดเชื่อมโยงข้อมูลแลกเปลี่ยนข้อมูลที่สำคัญร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การคุ้มครองเป็นไปได้ด้วยความรวดเร็ว พร้อมนำเทคโนโลยีในการวิเคราะห์ข้อมูล หรือ Social Listening มาใช้เป็นเครื่องมือในการฟังเสียงสะท้อน ความเคลื่อนไหว ข้อร้องเรียน หรือปัญหาบนสื่อสังคมออนไลน์จากผู้ใช้บริการและผู้บริโภคออนไลน์ เพื่อให้การเฝ้าระวังภัยมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น-สำนักข่าวไทย.

เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดนจะขอสัญชาติรัสเซีย

เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ผู้เปิดโปงปฏิบัติการสอดแนมของทางการสหรัฐ และหนีออกนอกประเทศไปลี้ภัยอยู่ในรัสเซียตั้งแต่กลางปี 2556 จะยื่นขอสัญชาติรัสเซีย

ญี่ปุ่นเปิดศูนย์ตรวจโควิดที่สนามบินนาริตะ

ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ ซึ่งเป็นสนามบินใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เปิดศูนย์ตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 เพื่อรองรับการเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศอีกครั้ง หลังใช้มาตรการจำกัดการเดินทางมาเป็นเวลาหลายเดือน

วิจารณ์สนั่นโซเชียล คลิปจีนมุงดูผัวตีเมียตายกลางถนน

คลิปและภาพชายคนหนึ่งทำร้ายภรรยาจนเสียชีวิตริมทางเท้าในจีน โดยที่คนยืนดูไม่เข้าไปช่วยแต่อย่างใด จุดกระแสไม่พอใจอย่างรุนแรงและมีการตั้งคำถามเรื่องทัศนคตินิ่งเฉยต่อความรุนแรงในครอบครัว

เอไอเอสจับมือกรมสนับสนุนบริการสุขภาพอัพเกรดแอปอสม.ออนไลน์ตรวจเชคสุขภาพจิตได้

กรุงเทพฯ 2 พ.ย. เอไอเอสผนึกกำลังกรมสุขภาพจิตและกรมสนับสนุนบริการสุขภาพอัปเกรดอาวุธอสม. นักรบเสื้อเทาเปิดฟีเจอร์ใหม่รายงานคัดกรองสุขภาพจิตบนแอป นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ เอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอส และ กระทรวงสาธารณสุข มีความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลลเพื่อสนับสนุนการให้บริการกับประชาชนล่าสุด ได้ร่วมกับกรมสุขภาพจิต กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ พัฒนาคุณสมบัติใหม่ในแอปพลิเคชั่น อสม. ออนไลน์เพื่อให้อสม. ที่ดูแลสุขภาพประชาชนที่ใกล้ชิดที่สุลนำเครื่องมือดังกล่าวไปทำการคัดกรองประชาชนที่ตนเองดูแลทำให้อสมและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสามารถทราบสถานะสุขภาพจิตของประชาชนในพื้นที่ได้แบบทันทีในขณะเดียวกันหน่วยบริการสาธารณสุขระดับตำบลสาธารณสุขอำเภอและสาธารณสุขจังหวัดสามารถเข้าถึงข้อมูลการคัดกรองได้แบบเรียลไทม์ทำให้การดูแลและเฝ้าระวังเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด นางพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวว่า สัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติในปีนี้นั้นกรมสุขภาพจิตได้ใช้ธีมที่มีชื่อว่า Working Together สุขภาพจิตไทยก้าวไปพร้อมกันนั้นคือการสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือด้านสุขภาพจิตกับทุกภาคส่วนในสังคมหนึ่งในความร่วมมือที่สำคัญในวันนี้คือความร่วมมือระหว่างกรมสุขภาพจิตกรมสนับสนุนบริการสุนภาพและ เอไอเอส ในการกระจายองค์ความรู้ข้อมูลและข่าวสารด้านสุขภาพจิตต่างๆลงไปถึงประชาชนในพื้นที่ผ่านกลไกการทำงานของพี่น้องอสม. และสส. ทั่วประเทศเมื่อของถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ในประเทศไทยขณะนี้ถือว่ามีการควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมากซึ่งการทำงานได้เช่นนี้เกิดจากความร่วมมือของพี่น้องประชาชนและบุคลากรสาธารณสุขโดยเฉพาะหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อน ได้แก่ พี่น้องอสม. และอสส. ทั่วประเทศ แต่การดูแลเพียงสุขภาพกายอาจไม่เพียงพอเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด -19 นั้นส่งผลกระทบต่อสังคมในรอบด้านซึ่งส่งผลกระทบต่อมายังสุขภาพจิตของคนไทยโดยรวมเพราะฉะนั้นการเฝ้าระวังและการรับมือในระดับพื้นที่จึงเป็นช่องทางที่สำคัญที่จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงและการสูญเสียจากปัญหาด้านสุขภาพจิตที่จะเกิดขึ้นได้ “ทันตแพทย์อาคมประดิษฐสุวรรณรองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพกล่าวว่า“ ในปัจจุบันบทบาทของอสม. และอสส. เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Change agents) พฤติกรรมด้านสุขภาพอนามัยของประชาชนในชุมชนจะต้องได้รับการเสริมสร้างอาวุธทางปัญญาเพื่อสามารถถ่ายทอดความรู้สู่ครอบครัวบุคคลใกล้ชิดและชุมชนเป็นเกราะป้องกันตนเองและมีส่วนช่วยลดการระบาดของโรคในชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพการพัฒนาความรู้สาธารณสุขในมิติสุขภาพจิตจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่สามารถช่วยการดำเนินงานให้กับพี่น้องอสม. และอสส. ในการฟื้นฟูจิตใจของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ของประเทศในขณะนี้การลงนามความร่วมมือมีวัตถุประสงค์ในการเสริมสร้างความรู้ข่าวสารด้านสุขภาพให้อสม. และอสส. มีความรอบรู้ด้านสุขภาพ (Health Literacy) ในมิติสุขภาพจิตโดยดำเนินการผ่านแอปพลิเคชัน“ อสม. ออนไลน์” ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ด้านสาธารณสุขรองรับความเป็นสังคมเมืองสังคมผู้สูงอายุความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีให้ประชาชนสุขภาพดีเจ้าหน้าที่มีความสุขระบบสุขภาพยั่งยืนกรมสนับสนุนบริการสุขภาพยินดีส่งเสริมให้อสม. หรืออสส. ดำเนินการส่งเสริมสุขภาพจิตและทำให้ระบบสาธารณสุขไทยมีความเข้มแข็งในทุกมิติสุขภาพการเสริมสร้างศักยภาพในประเด็นสุขภาพจิตให้นักรบเสื้อเทาให้สามารถทำงานได้อย่างสะดวกคล่องแคล่วและมีประสิทธิภาพถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในการนำพาประเทศก้าวผ่านวิกฤตและเกิดความเข้มแข็งของทุกภาคส่วน” ฟีเจอร์“ รายงานคัดกรองสุขภาพจิต “สามารถใช้งานได้แล้ววันนี้เพียงทำการอัปเดตแอปพลิเคชันอสม. ออนไลน์เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดโดยอสม. ทุกเครือข่ายสามารถใช้งานแอปฯ ดังกล่าวได้ฟรีสำหรับอสม. ที่ใช้งานเครือข่ายเอไอเอสสามารถใช้ได้โดยฟรีค่าอินเทอร์เน็ต-สำนักข่าวไทย.

พลเอกประวิตรกำชับดีอีเอโปรโมทบรอดแบนด์สาธารณะภูเก็ต

ภูเก็ต 2  พ.ย. รองนายกฯ  แนะดีอีเอส โปรโมทโครงการบรอดแบนด์สาธารณะภูเก็ต ส่งเสริมแผนปั้นสมาร์ทซิตี้ พล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปตรวจราชการ และประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 3/2563 ที่จังหวัดภูเก็ต โดยในโอกาสนี้ได้มีการติดตามความคืบหน้าของโครงการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสาธารณะ Smart City จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญในยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาโครงข่ายบรอดแบนด์ให้ครอบคลุมพื้นที่สาธารณะ พื้นที่ท่องเที่ยว และพื้นที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดภูเก็ต ปัจจุบันมีผู้ใช้งานเชื่อมต่อโครงข่ายบรอดแบนด์สาธารณะดังกล่าวเฉลี่ยต่อวัน 22,983 คน โดยสามารถใช้บริการอินเทอร์เน็ตเข้าถึงข้อมูลและบริการที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาอาชีพ สร้างธุรกิจ และเพิ่มรายได้ในชุมชน ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล รวมทั้งการได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียมในการเข้าถึงข้อมูล ที่เป็นประโยชน์ในการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนผ่านบริการดิจิทัลต่างๆ ทั้งการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับ ประชาชนทุกคน และการเข้าถึงบริการสุขภาพภาครัฐที่ทันสมัยอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ใช้บริการอินเทอร์เน็ตในการทำกิจกรรมออนไลน์ต่างๆ  พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า โครงการนี้ยังมีบทบาทในการผลักดันและส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมถึงช่วยสร้างบรรยากาศและเพิ่มแรงจูงใจในการลงทุนทำธุรกิจในจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้มีโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น พร้อมที่จะรองรับการใช้งานเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น Internet of Things (IoT) และนวัตกรรมอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตให้เป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) “กระทรวงดิจิทัลฯ ควรจัดให้มีเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเรื่องการบริหารข้อมูล และนำข้อมูลประชาสัมพันธ์โครงการเผยแพร่ให้ประชาชนรับรู้ โดยให้มีการดำเนินการโครงการอย่างต่อเนื่องและสอดคล้องกับกิจกรรมของเมืองภูเก็ต” พล.อ.ประวิตรกล่าว นายภูเวียง ประคำมินทร์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า กระทรวงฯ ได้ดำเนินการให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสาธารณะด้วยเทคโนโลยีไร้สาย Wi-Fi (Hi-speed Wi-Fi) สำหรับประชาชน นักท่องเที่ยว และชาวต่างชาติ ณ พื้นที่สาธารณะ พื้นที่ท่องเที่ยว และพื้นที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดภูเก็ตจำนวนไม่น้อยกว่า 100 สถานที่และมีจุดให้บริการทั้งสิ้นกว่า 1,000 จุด ความเร็วในการรับ/ส่งข้อมูล 100/25 Mbps ผ่านโครงข่ายใยแก้วนำแสง  “เรามองถึงการสร้างโครงข่ายประสิทธิภาพสูงให้ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดภูเก็ต รวมถึงพื้นที่เกาะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในจังหวัดภูเก็ต และเพื่อให้มีช่องทางในการช่วยส่งเสริมศักยภาพด้านการสื่อสาร และเป็นศูนย์กลางในการให้ข้อมูลสำหรับ นักท่องเที่ยว ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว ประชาชนทั่วไป รวมไปถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้านข้อมูลข่าวสารของรัฐ และการท่องเที่ยวในพื้นที่ ผ่านทางอุปกรณ์ Digital Signage พร้อมระบบที่เกี่ยวข้องจำนวนไม่น้อยกว่า 21 จุด” นายภูเวียงกล่าว นอกจากนี้ กระทรวงดิจิทัลฯ ยังเตรียมขยายผลโครงการตามนโยบายของนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ  โดยจะสร้างความร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และจังหวัดอื่นๆ เพื่อผลักดันโครงการให้ครอบคลุมทั้งประเทศ และใช้โครงการนี้ เป็นกลยุทธ์สำคัญในการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจในภูมิภาค สร้างงานสร้างอาชีพในท้องถิ่น โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่มีการจ้างงานสูง ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าจะสามารถดำเนินการตามเป้าหมายนี้ได้รวดเร็ว เนื่องจากเป็นโครงการที่มีความพร้อม-สำนักข่าวไทย.

เอไอเอสชี้ไฮเทคมาถึงเวลาคนปรับตัว

กรุงเทพฯ 2 พ.ย. เอไอเอสชี้ถึงเวลากฎเกณฑ์ด้านทรัพยการมนุษย์เปลี่ยน เทคโนโลยีจะมีบทบาทมากขึ้น แนะคนปรับตัวเรียนรู้ใหม่ตลอดเวลา นางสาวกานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล เอไอเอส และกลุ่มอินทัช กล่าวในแบรนด์อินไซด์ ฟอรั่ม 2020 New Work Force ว่า โลกที่จะเปลี่ยนไปข้างหน้าไม่ใช่โลกที่จะกำหนดโดยผู้นำยุคปัจจุบันการเติบโตของคนในยุคใหม่เกิดขึ้นเร็วกว่าที่เราคาดคิด ปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอมีบทบาทสำคัญต่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัล เอไอพูดกันมาตั้งแต่ 1956 แต่เวลานั้นยังไม่มีความพร้อม ปัจจุบันเทคโนโลยีมีความพร้อม คนที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงและเรียนรู้ใหม่คือคนที่ ดิจิทัลทรานฟอร์มจะเป็นคำที่ล้าสมัย เพราะเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้าไปในชีวิตแล้ว กระแสดิจิทัลจะมาเร็วขึ้นและแรงขึ้น ทุกอย่างส่งผ่านกันด้วยดิจิทัล  “สิ่งที่ยากในช่วงเปลี่ยนผ่านคือการไม่ยอมเจ็บ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ คนที่ถูกฝึกให้รับกับความยากลำบากได้จะพร้อมกว่าการทำงานแบบใหม่ไม่ได้สุดที่ work from home วิถีชีวิตใหม่ที่จะเคลื่อนไปข้างหน้าได้ คือ การเปลี่ยนไปสู่วิถีใหม่จริงๆ work from enywhere กำลังเกิด กำลังสำคัญขององค์กรไม่ได้อยู่ในองค์กรเอง ผู้นำองค์กรยุคใหม่จึงต้องตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องแม่นยำเพราะสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การเปลี่ยนแปลงยังไม่จบและต้องไปอีกไกล ผู้บริหารยุคใหม่จะคิดอยู่กับกรอบเดิมไม่ได้ เพราะโลกเปลี่ยนไป ลูกค้าเปลี่ยนจากเจนเนอเรชั่นหนึ่งไปอีกเจนเนอเรชั่นหนึ่ง ผู้บริหารใช้ประสบการณ์ที่เคยใช้แก้ปัญหาด้วยบริบทเดิมมาแก้ปัญหาใหม่ไม่ได้ “ นางสาวกานติมา กล่าว นางสาวกานติมา กล่าวอีกว่า เทคโนโลยีหลายอย่างทำงานได้ดีกว่าคน องค์กรต้องปรับตัวเอง องค์กรจะคงโครงสร้างองค์กรแบบเดิมไม่ได้ พนักงานเคารพผูบริหารที่ประสบการณ์และสิ่งที่จะให้กับพรักงานได้ ความเชื่อมั่นไม่ได้อยู่ที่ลำดับขั้นการบริหาร  แนวโน้มการทำงานที่น่าจะเกิดขึ้นคือการจับมือระหว่างบริษัทที่มีบริการคล้ายดันมาร่วมมือกันมาทำงานให้องค์กร การทำงานอิสระจะเป็นเรื่องธรรมดา  คนที่มีคุณค่าคือคนที่เรียกหาพัฒนาการตลอดเวลา คนจากนี้ไป สิ่งที่คนต้องการจากองค์กรคือการพัฒนา คนต้องการความเสมอภาคในการเข้าถึงโอกาส เทคโนโลยีสามารถช่วยให้ความเสมอภาคและการเข้าถึงเกิดขึ้นได้ นายจ้างต้องทำความเข้าใจกลุ่มคนที่ทำงานใหม่ เข้าใจความเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างออกไป การจ้างงานจะเกิดการแข่งขันที่เปลี่ยนไปสู่การจ้างงานข้ามองค์กร ถ้าเราอยากช่วยองค์กรด้วยการให้เป้าหมายความชัดเจนว่าองค์กรต้องการอะไร องค์กรต้องทำใด้พนักงานสามารถเข้าถึงการพัฒนาตัวเองได้ ผู้บริหารต้องทิ้งอัตตาของตัวเองและลงมาจากหิ้ง ต้องเข้าใจคนรุ่นใหม่เพราะคนรุ่นใหม่มีความอดทนไม่มากเขาต้องการการตอบแทนในระยะเวลาสั้นๆ  กฏเกณฑ์ด้านทรัพยากรมนุษย์ต้องมีความยืดหยุ่นและเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลง งานทรัพยากรมนุษย์ต้องเข้าใจการทำงานขององค์กรในอนาคตแล้วไปหาคนมาทำงาน สิ่งทึ่ดีที่สุดคือการเตรียมความพร้อมรับคว่มเปลี่ยนแปลงทักษะที่สำคัญต่อการเปลี่ยนแปลง ความเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นต่อเนื่องทุกวัน เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นบทจึงต้องเข้าใจเทคโนโลยีและเข้าใจความเปลี่ยนแปลง ต้องเตรียมตัวให้พร้อม -สำนักข่าวไทย.

เอสซีบีชี้ผู้นำไฮเทคปี2021ต้องมองไกลเข้าใจความเปลี่ยนแปลง

กรุงเทพฯ 2 พ.ย. ชี้บทบาทผู้นำยุคใหม่ต้องมองไกล รับข้อผิดพลาด เปลี่ยนแปลงเร็ว เข้าใจเทคโนโลยี นายธนา เถาวรอัจฉริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานการตลาด ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวในแบรนด์อินไซด์ ฟอรั่ม 2020 New Work Force ว่า บทบาทและคุณสมบัติของผู้นำยุคใหม่ในปี 2021 ว่า ผู้นำยุคใหม่ต้องทำให้คนเชื่อและเดินตามได้ การเป็นผู้นำจึงไม่ใช่เรื่องอารมณ์ไม่ใช่ศาสตร์ในยุคผันผวน ไม่มีใครรู้ว่าจะเป็นอย่างไร มีความซับซ้อน มีความไม่ชัดเจน การแข่งขันในปัจจุบันเราคงตั้งเป้าจะอยู่ระดับกลางๆไม่ได้ การแข่งขันต้องเป็นเบอร์หนึ่งเท่านั้น มาตรฐานของโลกธุรกิจเปลี่ยนไป ประเทศไทยต้องฝึกฝนและพร้อมที่จะแข่งขันในระดับที่เรายังไปไม่ถึง ผู้นำตอนนี้ต้องทำ 5 ฟังก์ชั่น คือ แก้ไข มองเห็นความผิดพลาดและรู้ว่าต้องแก้ไขอย่างไร  มีความยืดหยุ่น มีความคิดสร้างสรรที่จะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วสามารถเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของธุรกิจได้ และเปลี่ยนแปลงธุรกิจไปสู่แนวทางใหม่ที่ยั่งยืนได้  นายธนา กล่าวอีกว่า องค์กรยุคใหม่อยากได้ผู้นำที่สร้างบรรยากาศให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมกันได้ เสียสละ ทำเพื่อส่วนรวม สร้างบรรยากาศให้เกิดการทีส่วนร่วมให้เกิดนวัตกรรมใหม่ได้ หัวหน้าในวันนี้ต้องทำให้คนฮึกเหิมที่จะทำสิ่งใหม่ได้ ไม่ต้องรับผิดชอบที่จะทำผลงานตามเป้าแต่รับผิดชอบเพื่อให้คนทำงานตามเป้าหมายได้ ผู้นำการเปลี่ยนแปลงต้องเปลี่ยนก่อนจะให้พนักงานหรือลูกค้าเปลี่ยนแปลง “ผู้นำคือนักเล่าเรื่องให้ทุกคนเห็นภาพใหญ่ เอาเรื่องราวของคนตัวเล็กมาเล่า เรื่องที่ดีๆต้องถูกแบ่งปัน ยุทธศาสตร์ที่จะทำต้องทำง่ายๆ พนักงานเข้าใจง่าย สิ่งทำต้องวัดออกมาได้ว่าทำได้ตามจุดประสงค์หรือไม่เมื่อวัดออกมาแล้วทำให้ทุกคนเห็นตรงกัน ในสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงต้องสร้างสะพานไม่ใช่สร้างกำแพง ผู้นำต้องทำผิดได้แต่ต้องกล้ายอมรับความจริงและแก้ไข ต้องเรียนรู้จากบทเรียน ต้องให้กำลังใจพนักงาน และระลึกเสมอว่าทุกคนในองค์กรเท่ากัน  ผู้นำต้องออกเดินไปให้ถึงทุกคนในองค์กร ฟังให้มาก เวลาคุนกันมองให้เห็นหน้าทุกคน และผู้นำจงพูดคนสุดท้ายผู้นำมีหน้าที่วัฒนาองคกร สร้างบรรยากาศและความน่าเชื่อถือ ผู้นำยุคใหม่ต้องอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นน้ำครึ่งแก้วยอมรับว่าตัวเองไม่รู้ เป็นคนตัวเล็กๆ ที่เข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจคน เข้าไปในใจได้ทั้งลูกน้องและลูกค้า และต้องพร้อมเสียสละ ต้องกล้าหาญที่จะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา” -สำนักข่าวไทย.

เลดี้ กาก้า ปะทะคณะหาเสียงทรัมป์

เลดี้กาก้า นักร้องนักแสดงชาวอเมริกันเชื้อสายอิตาลีปะทะคารมผ่านสื่อสังคมออนไลน์กับคณะหาเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่กล่าวหาเธอเป็นพวกต่อต้านการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซจากชั้นหินใต้ดินลึก

1 105 106 107 108 109 440