ศิษย์เก่าราชินี เสนอเปิดพื้นที่รับฟังความเห็นเด็ก

พระนคร24 ส.ค.-ตัวแทนศิษย์เก่าโรงเรียนราชินี นำ 999 รายชื่อ ยื่นจดหมายเปิดผนึกต่อผู้บริหารโรงเรียน รับฟัง และเปิดพื้นที่ให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นในมาตรฐานเดียวกัน หลังออกประกาศห้ามใช้โรงเรียนเคลื่อนไหวทางการเมือง ตัวแทนศิษย์เก่าโรงเรียนราชินี กล่าวภายหลังเดินทางเข้าพบผู้บริหารโรงเรียนราชินี เพื่อยื่นหนังสือเกี่ยวกับความกังวลต่อประกาศโรงเรียนราชินี ห้ามใช้โรงเรียนเป็นพื้นที่เคลื่อนไหวทางการเมือง ว่า ที่มาวันนี้ไม่ได้เป็นการมาชุมนุม แต่มายื่นจดหมายเปิดผนึก ทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน จำนวน 999 รายชื่อ เพื่อแสดงจุดยืนตามที่ระบุไว้ในจดหมายทุกประกาศ และโรงเรียนได้รับข้อจดหมายและมีการพูดคุยตามปกติ โดยทางศิษย์เก่าได้เสนอแนวทางการพูดคุย ให้ความรู้กับเด็ก ๆ ในอายุขนาดนี้ ทางโรงเรียนยินดีรับฟังแนวทางที่เราเสนอ พร้อมยอมรับว่า ทำได้เท่านี้ในฐานะศิษย์เก่า ส่วนหลังจากนี้โรงเรียนจะมีแนวทางอย่างไรคงต้องเคารพสิทธิของโรงเรียนเช่นกัน สำหรับท่าทีของโรงเรียนวันนี้ เป็นปกติ เพราะเรามาในฐานะศิษย์เก่า นักเรียน กับคุณครู ไม่ได้มาเพื่อจะปะทะใคร แต่มาเพื่อพูดคุยอย่างสันติ และมีหลายๆเรื่องที่พูดคุย แต่ขอไม่เปิดเผยเพราะเป็นการภายใน สำหรับเนื้อหาในจดหมายเปิดผนึก ระบุว่าตามที่โรงเรียนราชินีมีประกาศ เรื่อง ‘การเรียกร้องทางการเมืองโดยอ้างประชาธิปไตย’ ออกจดหมายเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2563 ฉบับที่ สผ.จ035/2563 ที่ผ่านมา ก่อให้เกิดความไม่สบายใจของศิษย์เก่าราชินีจำนวนมาก ถึงวัตถุประสงค์ของโรงเรียนในการออกประกาศฉบับนี้ ในประเด็นดังต่อไปนี้ ประการที่ […]

ศิษย์เก่าราชินียื่นหนังสือ กังวลต่อประกาศของโรงเรียน

พระนคร 24 ก.ย.-ศิษย์เก่าโรงเรียนราชินี ยื่นหนังสือพร้อมรายชื่อกว่า 900 รายชื่อต่อโรงเรียน กังวลต่อประกาศเรื่องการห้ามนักเรียนเคลื่อนไหวทางการเมือง ขณะที่โรงเรียนขอคุยเป็นการภายใน ห้ามทำข่าว เมื่อเวลา 08.00 น.ตัวแทนศิษย์เก่าโรงเรียนราชินีประมาณ 5 คน เดินทาง เข้าพบผู้บริหารโรงเรียนราชินี เพื่อยื่นหนังสือเกี่ยวกับความกังวลต่อประกาศของโรงเรียน ห้ามใช้โรงเรียนเป็นพื้นที่เคลื่อนไหวทางการเมืองในลักษณะที่เสี่ยงต่อความผิดทางกฎหมาย และการก้าวล่วงสถาบัน หากผู้ปกครองคนใดไม่พอใจ โรงเรียนยอมรับสิทธิ์ของผู้ปกครองที่จะนำนักเรียนลาออกไปเรียนที่โรงเรียนอื่น ซึ่งจากประกาศฉบับดังกล่าว ก่อให้เกิดความไม่สบายใจของศิษย์เก่าราชินีจำนวนมาก ล่าสุดศิษย์เก่าสามารถรวบรวมรายชื่อได้กว่า900 รายชื่อมายื่นหนังสือเปิดผนึกในวันนี้ (24ส.ค.) เพื่อขอให้โรงเรียนแสดงจุดยืนที่จะเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับนักเรียนในการแสดงความคิดเห็นและแสดงออก โดยเชื่อมั่นว่าโรงเรียนจะเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นของนักเรียนเฉกเช่นที่นักเรียนได้รับฟังและปฏิบัติตามกฎของโรงเรียนมาโดยตลอด ซึ่งจะเป็นการแลกเปลี่ยนความเห็น ลดช่องว่างทางความคิดและนำไปสู่ความเข้าใจและร่วมมือกันแก้ปัญหาได้ในที่สุด ทั้งนี้ ทางโรงเรียนราชินีแจ้งว่า เมื่อศิษย์เก่าประสานมาขอเข้าพบจึงเปิดพื้นที่ให้พูดคุยกัน แต่เนื่องจากเป็นการภายในทางโรงเรียนจึงไม่อนุญาต ให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าว แต่สามารถให้สังเกตการณ์อยู่ด้านหน้าโรงเรียนได้ ขณะที่มีนักเรียนบางส่วนยังคงผูกโบว์ขาวที่กระเป๋า เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทางการเมือง และเข้าแถวเคารพธงชาติตามปกติ .-สำนักข่าวไทย

หลังผ่อนปรนเฟส 6 เริ่มหย่อนมาตรการโควิด

สธ. 22 ส.ค.-สธ.เผยผลสำรวจหลังผ่อนปรนเฟส 6 ประชาชนเริ่มหย่อนมาตรการป้องกันโควิด-19 อาจเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้เกิดระบาดรอบใหม่ได้ตามคำเตือน WHO แนะเข้มสวมหน้ากาก ล้างมือ ใช้ช้อนกลาง เว้นระยะ ห่าง -หลีกเลี่ยงเข้าไปอยู่ที่แออัด และลงทะเบียนแพลตฟอร์มไทยชนะ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ในหลายประเทศทั่วโลกขณะนี้ยังมีการระบาดเป็นวงกว้าง ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกมีจำนวนถึง 23,108,105 ราย ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุดคือสหรัฐอเมริกา 5,796,727 ราย รองลงมาคือ บราซิล 3,536,488 ราย และอินเดีย 2,973,368 ราย นอกจากนี้มีหลายประเทศที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้วและกลับมาระบาดระลอกใหม่ เช่น ประเทศเมียนมาในรัฐยะไข่ ทำให้องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาเตือนว่าการที่ประชาชนผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ไม่ใส่ใจต่อการดูแลตนเอง เป็นสาเหตุหนึ่งที่อาจทำให้เกิดการระบาดรอบใหม่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตามถือเป็นบทเรียนสำคัญให้ประเทศไทยได้เกิดการศึกษาเรียนรู้ จากข้อมูลผลสำรวจการรับรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนเรื่องโรคโควิด-19 โดยกรมควบคุมโรค (DDC Poll) ออนไลน์ครั้งที่ 15 เมื่อวันที่ 4-18 สิงหาคม 2563 […]

“อนุทิน” ขอบคุณ อสม.ดูแลประชาชนช่วงโควิด-19

สธ.22 ส.ค.-“อนุทิน”ขอบคุณ อสม.ทำงานหนัก ลงพื้นที่เข้าถึงประชาชนในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 เป็นพลังสำคัญ ช่วยให้ผ่านพ้นวิกฤติ จนเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศทั่วโลก ย้ำแม้ตอนนี้ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศ ขอให้การ์ดอย่าตก เฝ้าระวังและให้ความรู้คนในพื้นที่ต่อไป วันนี้ (22ส.ค.)ที่หน่วยไตเทียม ศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวกับอสม.ก่อนเปิดหน่วยไตเทียม ศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลเมืองชัยภูมิ ว่า นายกรัฐมนตรีและตน ขอขอบคุณ อสม.ทั่วประเทศกว่า 1,040,000 คน ด้วยใจจริง ที่ทำงานอย่างหนักตลอดช่วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งการลงพื้นที่เคาะประตูบ้าน เฝ้าระวังประชาชนกลุ่มเสี่ยง คัดกรอง และให้ความรู้แก่คนในชุมชน ช่วยให้คนไทยปลอดภัยจากโรคโควิด 19 ประเทศพ้นวิกฤติมาจนเป็นที่ชื่นชม และได้รับการยอมรับจากนานาประเทศทั่วโลก “การทำงาน อสม.สมกับเป็นหมอคนแรกของครอบครัว ดูแลสุขภาพคนในชุมชนเชิงรุกเคาะประตูบ้าน ที่ไม่มีประเทศใดในโลกทำได้ ผลจากการทำงานอย่างเสียสละ นายกรัฐมนตรีจึงได้อนุมัติค่าเสี่ยงภัยให้แก่ อสม. รายละ 500 บาทเป็นเวลา 7 เดือน เพราะเข้าใจการทำงานของ อสม.หากสถานการณ์โรคโควิด 19 ยังมีอยู่ ก็จะไม่ทอดทิ้งและดูแลเรื่องค่าเสี่ยงภัยต่อไป” นายอนุทิน กล่าว นายอนุทิน […]

แพทย์เผย “มะเร็งปอด” รู้เร็ว รักษาทัน

กรมการแพทย์ 22 ส.ค.-สถาบันมะเร็งฯ เผยคนไทยป่วยมะเร็งปอดเพิ่มขึ้นวันละ 42คน แนะผู้มีปัจจัยเสี่ยง “สูบหรือรับควันบุหรี่-พันธุกรรม-สัมผัสสารก่อมะเร็ง” เข้ารับตรวจคัดกรอง พบระยะเริ่มต้น เข้ารับการรักษาตั้งแต่แรกๆ ช่วยลดความเสี่ยง-ลดการเสียชีวิตลงได้ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)กล่าวว่า โรคมะเร็งเป็นปัญหาสำคัญทางสาธารณสุขของทุกประเทศทั่วโลก สำหรับประเทศไทยโรคมะเร็งปอดเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับที่ 2 ในเพศชาย และอันดับ 5 ในเพศหญิง สถาบันวิจัยมะเร็งนานาชาติ องค์การอนามัยโลก รายงานว่ามีผู้ป่วยรายใหม่ทั่วโลก 2 ล้านคนต่อปีและเสียชีวิต 1.7 ล้านคนต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติพบคนไทยป่วยเป็นมะเร็งปอดเพิ่มขึ้นวันละ 42 คน (Cancer in Thailand Vol. IX 2013-2015) ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคมะเร็งปอด คือการสูบหรือรับควันบุหรี่ พันธุกรรม และการสัมผัสสารก่อมะเร็ง อาทิ ก๊าซเรดอน แร่ใยหิน รังสี ควันธูป ควันจากท่อไอเสีย และมลภาวะทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 นพ.จินดา […]

สปสช.เปิดออนไลน์ รับฟัง-พัฒนา ‘ระบบหลักประกันสุขภาพ’

กทม.22ส.ค.-สปสช.จัดเวทีรับฟังความเห็นระดับประเทศเปิดแพลตฟอร์มออนไลน์ “เว็บไซต์-ไลฟ์สด” เพิ่มช่องทางการเข้าถึง หลากหลายภาคส่วนร่วมให้ข้อเสนอพัฒนา “ระบบหลักประกันสุขภาพ” เสนอขยายสิทธิยา นอกบัญชี-พัฒนาระบบส่งต่อ-เพิ่มบริการฉุกเฉิน สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นทั่วไประดับประเทศ ประจำปี 2563 เมื่อวันที่ 21 ส.ค.63 โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธานเปิดงาน ซึ่งมีการถ่ายทอดสดและรับฟังความเห็นผ่านช่องทางเฟสบุ๊คและเว็บไซต์ นายอนุทิน กล่าวว่า ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติของไทย ได้ดำเนิน การดูแลประชาชนผู้มีสิทธิกว่า 48 ล้านคน ได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึงมาตลอดเวลากว่า 18 ปี จนได้รับการยอมรับจากนานาชาติที่ยกย่องให้เป็นต้นแบบของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งนอกจากนโยบายรัฐบาลที่ให้การสนับสนุนอย่างจริงจังแล้ว อีกปัจจัยหนึ่งคือการมีส่วนร่วมที่เข้มแข็งจากทุกภาคส่วน ซึ่งจากการจัดรับฟังความเห็นมาอย่างต่อเนื่องของ สปสช. ได้เกิดข้อเสนอที่นำมาสู่การปรับปรุงและพัฒนาระบบในด้านต่างๆ ทั้งการเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่จำเป็น การเพิ่มสิทธิประโยชน์ ค่ารักษาโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง รวมถึงการเข้าถึงยาบัญชี จ(2) รายการยาสำหรับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นเฉพาะที่มีราคาแพง เป็นต้น ด้าน นพ.เจษฎา โชคดำรุงสุข ประธานคณะอนุกรรมการสื่อสารและรับฟังความเห็นฯ กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ได้มีการพัฒนาการประชุมในรูปแบบออนไลน์เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงการรับฟังและร่วมให้ความคิดเห็นที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้น […]

โควิด-19 รายใหม่ในไทยวันนี้เป็นศูนย์

กทม.22 ส.ค.-ศบค.เผยประเทศไทยวันนี้ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ทั้งในประเทศและใน State Quarantine ยอดสะสมผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 3,390 ราย รักษาหายกลับบ้านเพิ่มอีก 1 ราย วันนี้ (22ส.ค.) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ ทั้งในประเทศและในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ State Quarantine โดยไม่มีผู้ป่วยที่สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า ไม่มีผู้ป่วยมีประวัติเสี่ยงจากไปทำงานในสถานที่ชุมชน และไม่มีผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุกใดๆ สำหรับยอดผู้ป่วยสะสมยืนยันในเวลานี้อยู่ที่ 3,390 คน แบ่งเป็นติดเชื้อ ในประเทศ 2,444 คน และจากสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 453 คน ส่วนที่รักษาหายป่วยวันนี้มีเพิ่มอีก 1ราย รวม 3,220 คน คิดเป็น ร้อยละ 94.99 เหลือที่ยังคงรักษาในโรงพยาบาลอีก 112 ราย และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต รวมเสียชีวิต 58 คน ด้านสถานการณ์ทั่วโลก วันนี้ ณ เวลา […]

โพล ประชาชนทุกคน คือผู้ที่ต้องออกมาปกป้องสถาบัน

กทม.22ส.ค.-โพลประชาชนกว่าร้อยละ 94 ระบุประชาชนทุกคนคือผู้ที่ต้องออกมาปกป้อง เทิดทูน สถาบันหลักของชาติ และเห็นด้วยอย่างยิ่งประเทศไทยมีดีกว่าหลายประเทศทั่วโลก , เป็นประเทศที่มีโครงการพระราชดำริสร้างประโยชน์สุขแก่ประชาชนทุกหมู่เหล่า และเป็นประเทศที่คนในชาติช่วยแก้วิกฤติโควิดได้คำชมอันดับต้นๆ ของโลก ฯลฯ ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL ) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง “ประเทศกูมี” กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการ ทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผ่าน “เสียงประชาชนในโลกโซเชียล”(Social Media Voice) ด้วยระบบ Net Super Poll จำนวน 35,273ตัวอย่างในโลกโซเชียล และ “เสียงประชาชนในสังคมดั้งเดิม”(Traditional Voice) จำนวน 1,409 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 16 – 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 94.9 ระบุว่า ประชาชนทุกคนคือผู้ที่ต้องออกมาปกป้อง […]

วิถีใหม่!!! กทม.บริการเจาะเลือดผู้ป่วยถึงบ้าน

กทม.22 ส.ค.-กทม.เริ่มแล้วบริการเจาะเลือดผู้ป่วยถึงบ้าน พร้อมระบบการแพทย์วิถีใหม่ด้วยการตรวจรักษาออนไลน์และจัดส่งยารักษาทางไปรษณีย์ถึงบ้าน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กผู้ว่าฯอัศวิน ว่า กทม.ได้ทดลองนำร่องให้บริการเจาะเลือดถึงบ้านในกลุ่มผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในความดูแลของโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ สังกัดสำนักการแพทย์ กทม. เพื่ออำนวยความสะดวกและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยและญาติในการเดินทางมาโรงพยาบาล ทั้งยังช่วยลดความแออัดของโรงพยาบาลและลดโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อโรคอื่นๆ จากโรงพยาบาลอีกด้วย ซึ่งผู้ป่วยและญาติต่างก็พอใจกับโครงการนี้อย่างมาก เพราะสะดวก ไม่ต้องหอบหิ้วข้าวของทั้งยา อาหาร และอุปกรณ์ของใช้จำเป็นต่างๆ รวมถึงจ้างรถรับ-ส่งเพื่อเตรียมตัวมาโรงพยาบาลในแต่ละครั้ง ไม่ต้องอดข้าวอดน้ำนานๆ กว่าจะถึงคิวเจาะเลือด และไม่ต้องรอพบแพทย์เพื่อฟังผลเลือด ซึ่งจะต้องใช้เวลาอยู่ที่โรงพยาบาลเกือบจะทั้งวัน ขณะเดียวกัน กทม.ได้พัฒนาระบบ Telemedicine หรือบริการตรวจรักษาออนไลน์และจัดส่งยาถึงบ้าน ผ่านแอปพลิเคชัน MorBMA (หมอกทม.) ซึ่งขณะนี้โรงพยาบาลในสังกัด กทม.ทุกแห่ง เริ่มใช้ระบบนี้ในการตรวจรักษาและติดตามอาการของผู้ป่วยในแผนกต่างๆ ที่มีความพร้อมแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ป่วยและญาติโดยไม่ต้องเดินทางมาโรงพยาบาล ซึ่งก่อนใช้บริการตรวจรักษาแบบออนไลน์นี้ โรงพยาบาลจะมีแบบแสดงความยินยอมเข้ารับบริการในระบบ Telemedicine รวมถึงให้คำแนะนำ ในการใช้บริการ ขั้นตอนการให้บริการ และการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน รวมถึงการส่งยาให้ถึงบ้าน เพื่อให้การรักษาต่อเนื่องและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับระบบตรวจรักษาออนไลน์นี้จะเน้นในกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องได้รับยาต่อ เนื่อง 3 กลุ่ม คือกลุ่มผู้ป่วยกลุ่มโรค NCDs ได้แก่ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง […]

รร.ราชินี ออกประกาศถึงผู้ปกครอง ลงชื่อรับทราบ

กทม. 21 ส.ค.-รร.ราชินี ออกประกาศถึงผู้ปกครองให้เรียกอ่านจดหมายจากนักเรียนที่ทางโรงเรียนส่งไปให้เพื่อลงชื่อรับทราบ และส่งคืนครูประจำชั้นในวันจันทร์นี้ ขณะที่เพจชมรมนักเรียนเก่าฯ เผยแพร่รายละเอียดของประกาศ โดยระบุว่า ไม่อนุญาตให้นักเรียนก้าวล่วงสถาบันและกระทำการใดๆ ที่ขัดต่อระเบียบโรงเรียน ทั้งการเคารพธงชาติ การข่มขู่นักเรียนอื่น หากฝ่าฝืนโรงเรียนจะลงโทษตามกฎระเบียบ หากผู้ปกครองคนใดไม่พอใจเรื่องที่โรงเรียนแจ้งนี้โรงเรียนยอมรับ “สิทธิ์ของผู้ปกครอง” ที่จะนำนักเรียนลาออกไปเรียนที่โรงเรียนอื่น ขณะที่ รร.มาแตร์เดอีวิทยาลัย ชี้แจงปฏิเสธทุกข้อความที่ปรากฏผ่านสื่อออนไลน์ไม่ใช่ของโรงเรียน ไม่ว่าจะ “โรงเรียนจะไม่อนุญาตให้เด็กชู 3 นิ้วและถ้าไม่พอใจ ให้พาผู้ปกครองมาลาออกได้” โรงเรียนราชินี ออกประกาศผ่านหน้าเวบไซต์ของโรงเรียน www.rajini.ac.th เรียนผู้ปกครอง เนื่องด้วยทางโรงเรียนได้มีจดหมายสำคัญส่งถึงผู้ปกครองนักเรียนทุกชั้น ลงวันที่ 21สิงหาคม 2563 ขอให้ผู้ปกครองได้เรียกอ่านจดหมายฉบับดังกล่าว จากนักเรียน ลงชื่อรับทราบ ท้ายจดหมาย และส่งคืนครูประจำชั้น ในวันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม 2563 จึงเรียนมาเพื่อทราบ โรงเรียนราชินี ลงวันที่ 21 สิงหาคม 2563 ขณะที่เพจ “ชมรมนักเรียนเก่าราชินี” ได้โพสต์ขอแสดงจุดยืนชัดเจนตามประกาศ “เรื่องการเรียกร้องทางการเมืองโดยอ้างประชาธิปไตย” พร้อมประกาศของโรงเรียน โดยมีรายละเอียดว่า ตามที่ผู้ปกครองทราบกันดีว่า ในขณะนี้มีการเรียกร้องทางการเมืองโดยอ้างประชาธิปไตยโดยนักเรียนนิสิต […]

“หมอยง” ชี้การพบซากเชื้อโควิดในหญิงไทย ไม่ใช่ระบาดรอบ2

“นพ.ยง” ชี้ขาดการพบซากไวรัสในหญิงจังหวัดเลย มีประวัติกลับจากดูไบไม่ใช่การระบาดในประเทศ และเป็นการติดเชื้อจากต่างประเทศ พร้อมย้ำนี่ไม่ใช่การระบาดระลอก 2 พร้อมคาดปลายปีนี้ทั่วโลกน่าจะมีผู้ป่วยพุ่งสูง 50 ล้านคน ตาย 1-5 ล้านคน หลังสถานการณ์ในปัจจุบัน พบเฉลี่ย 4 วันมีผู้ป่วย 1 ล้านคน

รณรงค์ไม่ทน “บูลลี่”

ท่าพระจันทร์21ส.ค.-มูลนิธิเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน ร่วมกับภาคีเครือข่าย รณรงค์จะไม่ทน “บูลลี่” เพื่อยุติปัญหาการกลั่นแกล้งในสังคมไทย ชี้กลุ่มที่มีอัตลักษณ์ทางเพศแตกต่างถูกบูลลี่มากสุด นักวิชาการ นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน กลุ่มคนข้ามเพศ มูลนิธิเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน เครือข่ายผู้ปกครองที่มีบุตรหลานหลากหลายเพศ นางแบบและนักกิจกรรมต้านบูลลี่ รวมถึงอินฟลูเอนเซอร์ชื่นดัง ร่วมเสวนา ในหัวข้อ “เราจะไม่ทน :บูลลี่ :อำนาจนิยมในสังคมไทย “ โดยได้ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ถูกเลือกปฏิบัติ ถูกกลั่นแกล้ง หรือ”บูลลี่ “ และสะท้อนปัญหาการกลั่นแกล้งในสังคมไทย ผู้ร่วมเสวนาส่วนใหญ่สะท้อนตรงกัน ว่า พวกเขาและคนใกล้ชิดล้วนถูกบูลลี่จากคนรอบข้างมาแล้วทั้งสิ้น ทั้งบูลลี่ด้วยคำพูด การกระทำ หรือกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์หรือไซเบอร์ บูลลี่ ซึ่งเกิดขึ้นทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ ส่งผลให้ผู้ที่ถูกบูลลี่ได้รับผลกระทบทางจิตใจ ขาดความมั่นใจและบางรายส่งผลกระทบในการดำเนินชีวิต โดยการถูกบูลลี่ส่วนใหญ่มาจากความหลากหลายทางเพศ หรือความแตกต่างทางอัตลักษณ์ทางเพศ และยังมีมิติอื่นๆที่สามารถถูกล้อเลียนได้ด้วย เช่น ลักษณะทางสภาพของร่างกาย ความสูงของร่างกาย หรือสีผิว ผศ.ดร.รณภูมิ สามัคคีดารมย์ ประธานมูลนิธิเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และอาจารย์ประจำคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ปัญหาการกลั่นแกล้งหรือบูลลี่ เกิดขึ้น มานานแล้วในสังคมไทย เกิดขึ้นได้ในทุกระดับตั้งแต่ระดับเพื่อน ครอบครัว ระดับโรงเรียนหรือในวงการทำงาน คนส่วนใหญ่เป็นทั้งผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ ซึ่งการกระทำหรือล้อเลียนที่จะเข้าข่ายว่าเป็นการบูลลี่หรือไม่ต้องดูที่ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ที่ถูกกระทำเป็นหลัก […]

1 220 221 222 223 224 236