ผบ.ตร. ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับตำรวจดูแลทรัพย์สินประชาชน

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ผบ.ตร. เยี่ยมให้กำลังใจตำรวจบาดเจ็บจากเหตุกัมพูชาโจมตีร้านสะดวกซื้อ พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ดูแลทรัพย์สินประชาชนและเฝ้าระวังบุคคลแปลกหน้าตามแนวชายแดนที่อาจเป็นสายให้ฝ่ายตรงข้าม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปยังโรงบาลศรีสะเกษเพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ ส.ต.อ.วชิระ กุศลพันธ์ อายุ 32 ปี ถูกสะเก็ดระเบิด จากเหตุการณ์กัมพูชาโจมตีเป้าหมายพลเรือน ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ให้กำลังใจและมอบเงินช่วยเหลือส่วนตัว จากนั้นได้เดินทางไปให้กำลังใจประชาชนที่ศูนย์อพยพในวัดแห่งหนึ่งใน อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีประชาชนจากอำเภอกันทรลัอพยพหนีภัยการสู้รบมาอยู่ที่นี่ ทั้งนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกับทีมข่าว สำนักข่าวไทยว่าในวันนี้ตั้งใจเดินทางมาจังหวัดแนวชายแดนโดยก่อนหน้านี้ได้ไปที่อุบลราชธานีก่อนที่จะมาศรีสะเกษซึ่งขณะนี้ภารกิจในส่วนของตำรวจมีด้วยกันสองส่วน คือส่วนแนวหน้าได้แก่ตำรวจตระเวนชายแดนที่มีการสนับสนุนอยู่ในแนวการสู้รบกับทหารและที่อยู่ในแนวส่วนหลังคือการดูแลทรัพย์สินของประชาชนที่ต้องละทิ้งบ้านเรือนและอพยพออกมาอยู่ตามศูนย์อพยพต่างๆ ขณะเดียวกันก็ได้สั่งให้เฝ้าระวังกรณีคนแปลกหน้าซึ่งอาจจะเป็นสายของฝ่ายตรงข้ามและการชี้เป้าหมายหรือยุทธศาสตร์ต่างๆ ในเขตประเทศไทยด้วย .-313-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ฝั่งสุรินทร์

27 ก.ค. – กองทัพไทย ไล่ไทม์ไลน์สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ฝั่ง จ.สุรินทร์ วันที่ 27 ก.ค.68 พลตรีวิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยไทม์ไลน์สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ฝั่ง จ.สุรินทร์ วันที่ 27 ก.ค. 68 04.30–04.40 น. – เสียงปืนดังจากฝั่งกัมพูชา ยิงเข้ามายังพื้นที่ “ปราสาทตาควาย” ฝั่งไทย ยิงตอบโต้เป็นระยะจากทั้งสองฝ่าย และสถานการณ์ขยายไปถึงบริเวณ “ช่องจอม”05.30 น. – BM-21 ยิงใส่ฝั่งไทย / ฝ่ายไทยใช้อาวุธตอบโต้06.40 น. – กระสุนปืนใหญ่ตกใส่บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ จ.สุรินทร์ เกิดเพลิงไหม้07.50 น. – ทางทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ลงมาในพื้นที่ อ.ช่องจอม จ.สุรินทร์ บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย .-313-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ตราด เตรียมตรวจเยี่ยมประชาชน

ตราด 27 ก.ค. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.ตราด รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา เตรียมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนที่ศูนย์อพยพ หลังเหตุเกิดปะทะกัน วานนี้ (26 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางเดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดตราด เพื่อเข้าร่วมประชุมรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยประชุมร่วมกันกับ นายณัฐพงษ์ สงวน ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พลตำรวจโทยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคสอง โดยทางฝั่งของทหารมี นาวาเอกภริศวร์ วงษ์เพ็ญศรี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาริกโยธินตราด หลังจากการประชุมเสร็จสิ้นนายภูมิธรรม เวชยชัย จะเดินทางไปยังศูนย์อพยพ เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ มอบสิ่งของอุปโภคบริโภค และร่วมรับประทานอาหารกับประชาชนต่อไป และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางประชาสัมพันธ์อำเภอบ่อไร่ได้โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า “สถานการณ์ยังมีความเสี่ยง งดการเคลื่อนย้ายกลับเข้าพื้นที่ จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง มีกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่คอยดูแล ความปลอดภัยในทรัพย์สินของท่าน พร้อมกำชับให้ติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำสั่งของทางราชการ หากมีการประกาศเตือน พร้อมส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกนายที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่เสี่ยงอย่างเต็มที่.-420-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลไทยยืนยันนโยบาย ปฏิบัติการสุภาพบุรุษทางการทหาร

ทำเนียบรัฐบาล 27 ก.ค – รัฐบาลไทย ยืนยันนโยบาย “ ปฏิบัติการสุภาพบุรุษทางการทหาร ไม่มีนิสัยเกเรแบบกัมพูชา” ย้ำขณะนี้ยังไม่พร้อมยุติการปฏิบัติการรักษาอธิปไตยของประเทศ หลังพบ “ฮุน มาเนต” โพสต์แขวะไทยอีกรอบบอกตนเองพร้อมหยุดแต่กลัวไทยกลับลำ ขณะที่เช้านี้ ยังเปิดฉากถล่มเป้าหมายพลเรือนของไทย ที่สุรินทร์และหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) เปิดเผยว่าในกรณีที่ นายฮุน มาเนต โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียโดยมีข้อความว่า “กัมพูชา ประกาศตอบรับการหยุด ยินดีไทยเห็นด้วย หวังว่าไทยจะไม่กลับลำจุดยืน มอบ รมว.ตปท.เจรจา” นั้น ขอเรียนให้ทราบว่าคำกล่าวของ นายฮุน มาเนต ในทุกข้อความยังไม่มีความจริงใจยังคงไว้ซึ่งเจตนาพิเศษ แอบแฝงและยังเหน็บแนม ค่อนแคะประเทศไทยต่างๆ นานา ทั้งที่รัฐบาลไทยยืนยันหลายครั้งว่า การเจรจาหยุดยิงกัมพูชาต้องหยุดการโจมตีพื้นที่พลเรือนของไทยทันที ซึ่งเห็นได้ว่ารัฐบาลกัมพูชาใช้เวลาโกหกไปวันๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจในเวทีโลกแต่ในการปฏิบัติทหาร กลับตรงกันข้ามอย่างเห็นได้ชัด โดยเมื่อเวลา 06.01 น. เช้าวันนี้ (27 กรกฎาคม 2568) กองทัพกัมพูชายังมีพฤติกรรมเป็นอาชญากรรมสงคราม ไร้มนุษยธรรม ยิงปืนใหญ่ข้ามฝั่งเข้ามาในพื้นที่พลเรือนของไทยอย่างต่อเนื่อง […]

เพื่อไทยย้ำปัญหาชายแดนไม่เกี่ยว 2 ตระกูล

พรรคเพื่อไทย 27 ก.ค. – เพื่อไทย ย้ำปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นผลพวงจากปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ใช่ปัญหาสองตระกูล ชี้ที่ยิงกันปี 54 ผู้นำรัฐบาลก็ไม่ใช่ตระกูล “ชิน” วอนแกนนำม็อบพักชุมนุม เอางบซื้อข้าว-น้ำไปช่วย ประชาชนชายแดนก่อน นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าพรรคเพื่อไทยขอเคียงข้างประชาชน และขอย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของสองตระกูล แต่เป็นเพราะรัฐบาลพยายามจัดการกับปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านเสียผลประโยชน์ เพราะรัฐบาลตั้งใจที่จะปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หมดไป ที่จะมารบกวนสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งตนได้ติดตามสถานการณ์จากเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาด บางจุดเริ่มคลี่คลายแต่บางจุดก็สุ่มเสี่ยงต่อการปะทะ ซึ่งกองทัพไทยพร้อมที่จะเผชิญเหตุต่างต่าง และช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ และขอย้ำว่าความปลอดภัยของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ นายดนุพร เชื่อว่าเรื่องการปราบปราม อาชญากรรมข้ามชาติ สร้างความไม่พอใจให้กับประเทศกัมพูชา เพราะหากย้อนกลับไปไม่นาน ประเทศไทยได้ขอความร่วมมือ เตรียมการจัดตั้งกลไกไตรภาคี ร่วมกับเมียนมาและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อจัดการปัญหาคอลเซ็นเตอร์ และเราได้เชิญ กัมพูชาเข้าร่วมด้วย ก็ปรากฏว่า กัมพูชาปฏิเสธโดยบอกว่าจะดำเนินการด้วยตนเอง ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าไม่ปกติ เพราะเป็นเรื่องที่ภูมิภาคนี้ควรจะร่วมกันแก้ไข ทั้งนี้ขอย้ำอีกครั้งว่าไม่ใช่เป็นความขัดแย้ง ของสองตระกูลดามที่ถูกกล่าวหา ดังนั้นขอวิงวอนไปยังสื่อมวลชน อินฟลูเอ็นเซอร์ เสนอข่าวอย่างสร้างสรรค์และไม่อยากให้นำเรื่องนี้ไปเป็นประเด็นความขัดแย้ง ปลุกปั่นยุยงให้เกิดความแตกแยก แตกสามัคคี ขณะเดียวกันนอกจากพรรคเพื่อไทยประสานไปยังกองทัพ กระทรวงมหาดไทยแล้วยังประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงานในระดับทวิภาคี […]

สมาคมประกันวินาศภัยไทย พร้อมช่วยเหลือผู้เอาประกันเหตุพายุ “วิภา”

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.- สมาคมประกันวินาศภัยไทย เกาะติดสถานการณ์และเตรียมพร้อมช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบจาก พายุ “วิภา” เผย 4 กรมธรรม์คุ้มครองความเสียหายจากน้ำท่วม ดร.สมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “วิภา” ที่ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันในหลายจังหวัดทั่วประเทศ สมาคมประกันวินาศภัยไทยได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วยความห่วงใยและขอส่งกำลังใจให้ผู้ประสบภัยในทุกพื้นที่ปลอดภัยและสามารถผ่านพ้นสถานการณ์วิกฤติในครั้งนี้ไปได้โดยเร็ว พร้อมแนะนำให้ประชาชนตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัยที่มีว่าคุ้มครองความเสียหายจากภัยน้ำท่วมหรือไม่ เพื่อจะได้ดำเนินการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนมาช่วยบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นและช่วยให้ผู้ประสบภัยสามารถกลับสู่ภาวะการดำเนินชีวิตได้อย่างปกติโดยเร็ว ทั้งนี้ หากสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย ประชาชนที่มีกรมธรรม์ประกันภัยสามารถติดต่อบริษัทประกันภัยของท่านเพื่อแจ้งความเสียหายและเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน โดยกรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายจากภัยน้ำท่วม ได้แก่ นอกจากนี้ สมาคมประกันวินาศภัยไทยยังได้เตรียมความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางประสานงานระหว่างบริษัทประกันภัยและประชาชน เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยหรือภัยพิบัติต่าง ๆ โดยมุ่งอำนวยความสะดวกเรื่องการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน การตรวจสอบข้อมูลในกรณีที่กรมธรรม์สูญหาย รวมถึงให้คำแนะนำด้านการประกันภัยต่าง ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ทาง Facebook: สมาคมประกันวินาศภัยไทย และทางโทรศัพท์หมายเลข 0 2108 8399 ในวันและเวลาทำการ “ในภาวะที่ภัยธรรมชาติเกิดขึ้นบ่อยครั้งและมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกปี การเตรียมความพร้อมโดยการบริหารความเสี่ยงล่วงหน้า รวมถึงการตรวจสอบความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้สามารถรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยระบบประกันภัยถือเป็นกลไกสำคัญของสังคมที่ช่วยบรรเทาผลกระทบในยามเกิดภัย พร้อมทั้งสนับสนุนกระบวนการฟื้นฟูและเยียวยาความเสียหาย เพื่อให้สังคมสามารถกลับคืนสู่ภาวะปกติได้อย่างมั่นคง ทั้งนี้ ภาคธุรกิจประกันวินาศภัยยังคงมุ่งมั่นให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น และพร้อมเคียงข้างประชาชนและผู้เอาประกันภัยในทุกสถานการณ์” นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าว.-516-สำนักข่าวไทย

รมว.ท่องเที่ยวฯ เล็งถกบอยคอต ห้ามกัมพูชาลุยซีเกมส์

25 ก.ค. – รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมหารือร่วมกับมนตรีซีเกมส์ ถึงการ “บอยคอต” ห้ามนักกีฬาจากกัมพูชามาแข่งขันซีเกมส์ ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ หลังเกิดเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงสถานการณ์การปะทะกันบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ซึ่งอาจจะเป็นเหตุให้มีปัญหาต่อเนื่องมาถึงช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม นายสรวงศ์ กล่าวว่า ถือเป็นข้อห่วงใย ซึ่งตนในฐานะรัฐมนตรี ต้องดูแล และได้ประสานไปยังประธานมนตรีซีเกมส์แล้ว เรื่องนี้ต้องมีการหารือกันแน่นอน โดยต้องดูว่า จะเข้าไปแทรกแซงได้อย่างไร หรือจะบอยคอตอย่างไร เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากมีความสูญเสียของพี่น้องประชาชนเกิดขึ้น แม้แต่การจะเดินทางมาแข่งขันของนักกีฬากัมพูชาเอง บางทีอาจจะไม่ปลอดภัยด้วยซ้ำ ดังนั้น มองว่า ต้องให้เวลาเยียวยา ขณะนี้เหลืออีก 5 เดือนจะถึงซีเกมส์ ถ้าสถานการณ์ไม่บานปลาย ตนในฐานะรัฐมนตรี ไม่มีอำนาจอะไรไปห้ามเขามาแข่ง แต่เป็นเรื่องของคณะมนตรีซีเกมส์ นายสรวงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังเกิดเหตุขึ้น โอลิมปิกกัมพูชายังไม่ได้ติดต่อมาคุยเรื่องนี้ ล่าสุดที่มีการติดต่อกันคือ รัฐมนตรีกีฬากัมพูชา ได้ทำหนังสือขอโทษมายังมนตรีซีเกมส์แล้วเรื่องใช้โลโก้ซีเกมส์ผิด.-สำนักข่าวไทย

กกท. เตรียมพื้นที่รองรับเหตุปะทะ 4 จังหวัดชายแดน

กทม. 25 ก.ค. – ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย มอบนโยบาย กกท. สุรินทร์ อุบลฯ ศรีสะเกษ และบุรีรัมย์ เตรียมพื้นที่รองรับให้การสนับสนุนกรณีเหตุปะทะพื้นที่จังหวัดชายแดน ตามที่กองทัพบก ได้รายงานสถานการณ์เกิดการปะทะในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา, ปราสาทตาเมือนทม จ.สุรินทร์, ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์, ด่านสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์, เขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลฯ มีการยิงอาวุธใส่พื้นที่ชุมชน บริเวณศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า กกท. ขอส่งกำลังใจให้พี่น้องทหาร ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังอยู่ในขณะนี้ทุกนาย สำหรับ กกท. พร้อมให้การสนับสนุนในเรื่องสถานที่ ได้แก่ อาคารโรงยิมส์อเนกประสงค์ และสนามกีฬาจังหวัดที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของ กกท. ทั้ง 4 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะ ทั้งจังหวัดสุรินทร์, บุรีรัมย์, ศรีสะเกษ และ อุบลราชธานี หากทางจังหวัดมีความประสงค์จะใช้สถานที่ภายในสนามกีฬากลางจังหวัด […]

นักกีฬาไทย ส่งกำลังใจทหาร-ประชาชน แนวชายแดน

25 ก.ค. – บรรดานักกีฬาชื่อดังของไทย ต่างออกมาโพสต์ข้อความให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารและประชาชน ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา จนทำให้เจ้าหน้าที่ทหาร และประชาชนไทย เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ บรรดานักกีฬาชื่อดังของไทยและบุคคลวงการกีฬา ต่างออกมาโพสข้อความผ่านสื่อโซเชียล เพื่อให้กำลังใจพี่ทหาร และประชาชนในพื้นที่ พร้อมติดแฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ มิดฟิลด์ทีมชาติไทย จากบีจี ปทุม ยูไนเต็ด โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เป็นภาพประชาสัมพันธ์ของกองทัพบก พร้อมข้อความ “ขอส่งกำลังใจให้กับทหารไทย ทุกคนครับ และพี่น้องประชาชนไทยในพื้นที่ครับ” “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายทีมชาติไทย จากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โพสต์ภาพทหารไทย พร้อมข้อความ “แนวหน้ายึดมั่น แนวหลังส่งใจ ขอบคุณที่ยืนหยัดเพื่อแผ่นดินไทย ทุกตารางนิ้ว” และติดแฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด และ #กัมพูชายิงก่อน “แนน” ทัดดาว นึกแจ้ง และ “บุ๋มบิ๋ม” ชัชชุอร โมกศรี สองนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย […]

ตัวเมืองน่านยังจมบาดาล บางจุดท่วมสูง 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – ชาวเมืองน่านที่เจอกับมหาอุทกภัยครั้งใหญ่สุดยังเดือดร้อนหนัก เพราะแม้น้ำจะเริ่มทรงตัวและลดลงช้าๆ แต่เกือบทั้งเมืองยังจมน้ำ บางจุดท่วมสูงเกือบ 2 เมตร เจ้าหน้าที่ยังต้องเข้าไปช่วยผู้ป่วยและผู้สูงอายุออกจากพื้นที่ สถานการณ์น้ำท่วมเมืองน่านยังวิกฤติ แม้น้ำจะเริ่มลดลง แต่เป็นไปอย่างช้าๆ ทำใหบ้านเรือนอาคารร้านค้ายังจมน้ำ บางจุดยังสูงเกือบ 2 เมตร ถนนที่มุ่งหน้าเข้าเขตเศรษฐกิจตัวเมืองน่านยังมีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ตลอดแนวถนนยาวหลายกิโลเมตร ต้องใช้เรือสัญจรเพียงอย่างเดียว ภาพมุมสูงของทีมข่าวสำนักข่าวไทย ทำให้เห็นว่าตัวเมืองน่านตอนนี้ในรัศมีเกือบสิบกิโลเมตรจากริมน้ำน่านยังจมบาดาลมาเป็นวันที่ 3 แล้ว รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ หลายร้อยคันยังจมน้ำ ส่วนชาวบ้านยิ่งเดือดร้อนหนักเพราะเสบียงที่ตุนไว้เริ่มหมดลงและการช่วยเหลือเข้าไปไม่ถึง หลายชุมชน รวมทั้งย่านเศรษฐกิจของเมืองน่านยังมีน้ำท่วมสูง เกือบ 2 เมตร และน้ำบางจุดยังไหลเชี่ยว ชาวบ้านบางส่วนยังต้องอยู่บนชั้นสองของบ้านรอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่หลายหน่วยยังพยายามน้ำอาหารน้ำดื่มเข้าไปแจกจ่าย และช่วยนำกลุ่มเปราะบางทั้งคนแก่และผู้ป่วยออกมา แต่เป็นไปอย่างยากลำบากเพราะบางจุดน้ำยังไหลเชี่ยว บิณท์ บรรลือฤทธิ์ และทีมมูลนิธิร่วมกตัญญู นำเรือท้องแบนฝ่ากระแสน้ำเข้าไปช่วยคุณยายวัยกว่า 80 ปี ออกมาจากบ้านที่น้ำท่วมสูงออกมาอยู่ในที่ปลอดภัย รวมทั้งยังได้รับการขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านอีกหลายจุด อย่างไรก็ตามระดับน้ำน่านที่ไหลผ่านตัวเมืองน่านลดลงชั่วโมงละ 3 เซนติเมตร ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 9 เมตร สูงกว่าจุดวิกฤติ […]

ชาวบ้านในศูนย์พักพิงกังวลต่อสถานการณ์สู้รบ

อุบลราชธานี 25 ก.ค. – ชาวบ้านในศูนย์พักพิง จ.อุบลฯ นอนไม่หลับ กังวลต่อสถานการณ์ยิงปะทะไทย-กัมพูชา ส่วนจุดเสี่ยง อ.น้ำยืน ชาวบ้านยังได้ยินเสียงปืนใหญ่ต่อเนื่อง ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศในศูนย์อพยพของจังหวัดอุบลราชธานี พบว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่นอนไม่หลับ เนื่องจากแปลกที่ และยุงกัด สิ่งที่อยากได้เพิ่มเติมคือมุ้งกันยุง และที่นอน และในช่วงเช้า ทางบ้านได้โทรศัพท์มาแจ้งว่า ยังได้ยิงเสียงปืนใหญ่ต่อเนื่องในพื้นที่ ส่วนในพื้นที่เสี่ยง อำเภอนำยืน ช่วงเช้าที่ผ่านมา ชาวบ้านตำบลโดมประดิษฐ์ ได้ร่วมตัวกันอยู่ในที่ปลอดภัย เนื่องจากได้ยินเสียงปืนใหญ่ ดังตั้งแต่เช้า ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย แต่ก็ต้องทำหน้าที่ดูแลหมู่บ้าน ส่วนข้อมูลล่าสุด มีระเบิดตกลงในพื้นที่ จำนวน 4 ลูก นายอำเภอและผู้นำชุมชนกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย นอกจากนี้ พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี เดินทางมายังพื้นที่ จังหวัดอุบลราชธานี โดยในวันนี้องคมนตรีได้เชิญสิ่งของพระราชทานมอบแก่เจ้าหน้าที่ และประชาชน พร้อมทั้งตั้งโรงครัวพระราชทาน จากนนั้นไปตรวจเยี่ยมประชาชนในศูนย์อพยพและศูนย์พักพิงกลุ่มเปราะบาง รวมถึงทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนพลทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุชายแดน ได้จดทะเบียนสมรสบนเตียงผู้ป่วยพลทหารภรรยาท้อง 8 เดือน ใกล้คลอดบาดเจ็บจากแรงระเบิดร้องขอนายทะเบียนจดทะเบียนสมรสทั้งที่อยู่บนเตียงผู้ป่วย โดยมีสิบเอกผู้บังคับบัญชาที่ได้รับบบาดเจ็บจากแรงระเบิดเหตุการณ์เดียวกันร่วมเป็นสักขีพยานรักลูกน้อง.-สำนักข่าวไทย

1 22 23 24 25 26 1,183