Arnat Sakdaronnarong

โซล 25 ม.ค. – กรุงเปียงยางของเกาหลีเหนือประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลา 5 วัน หลังพบผู้มีอาการป่วยเกี่ยวกับทางเดินหายใจไม่ทราบชนิดเพิ่มสูงขึ้น เอ็นเคนิวส์ (NK News) เว็บไซต์ข่าวเกาะติดสถานการณ์ในเกาหลีเหนือของสหรัฐ รายงานอ้างประกาศของรัฐบาลเกาหลีเหนือในวันนี้ว่า กรุงเปียงยางของเกาหลีเหนือได้ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลา 5 วัน หลังพบผู้มีอาการป่วยเกี่ยวกับทางเดินหายใจไม่ทราบชนิดเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นโรคโควิด-19 แต่อย่างใด ประกาศดังกล่าวยังสั่งให้ชาวเกาหลีเหนืออยู่แต่ในบ้านตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันอาทิตย์ และต้องส่งผลตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายทุกวัน เอ็นเคนิวส์รายงานเมื่อวันอังคารว่า ชาวกรุงเปียงยางพากันไปซื้อกักตุนสินค้าเพื่อรับมือกับมาตรการเข้มงวดของทางการ แต่ไม่มีความชัดเจนว่าเมืองอื่น ๆ ของเกาหลีเหนือได้ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ด้วยหรือไม่ ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือเคยออกมาเผยว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายแรกในประเทศเมื่อปีก่อน และประกาศชัยชนะเหนือโควิดในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน อย่างไรก็ดี เกาหลีเหนือไม่เคยยืนยันยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดในประเทศว่ามีจำนวนเท่าใด เนื่องจากขาดแคลนอุปกรณ์ตรวจหาเชื้อโควิด แต่กลับรายงานยอดผู้ป่วยรายวันที่มีไข้สูงแทน โดยมียอดผู้ป่วยไข้สูงสะสมราว 4.77 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 25 ล้านคน และหยุดรายงานตัวเลขดังกล่าวมาตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค. ปีก่อน.-สำนักข่าวไทย

โตเกียว 25 ม.ค. – หน่วยยามฝั่งของญี่ปุ่นได้ช่วยเหลือลูกเรือ 4 คนหลังเกิดเหตุเรือบรรทุกสินค้าล่มนอกชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่นเมื่อคืนที่ผ่านมา และยังคงเดินหน้าค้นหาลูกเรือที่สูญหายอีก 18 คน โฆษกหน่วยยามฝั่งของญี่ปุ่นเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่สามารถช่วยชีวิตลูกเรือ 4 คนจากเหตุเรือบรรทุกสินค้าล่มนอกชายฝั่งของเกาะดันโจ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น ห่างออกไปราว 110 กิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกลและทำให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าปฏิบัติการค้นหาลูกเรือที่สูญหายอีก 18 คน ตอนนี้มีเครื่องบิน 1 ลำเดินทางถึงจุดเกิดเหตุแล้ว และมีเรืออีก 2 ลำที่กำลังมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้ เรือที่ประสบเหตุล่มเป็นเรือบรรทุกสินค้าชื่อ ‘จินเทียน’ (Jintian) สามารถบรรทุกสินค้าได้หนัก 6,651 ตัน และได้รับการจดทะเบียนในฮ่องกง โฆษกยังระบุว่า เรือลำดังกล่าวได้แจ้งขอความช่วยเหลือเมื่อเวลา 23.15 น. ของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น โดยมีลูกเรือชาวจีน 14 คนและลูกเรือเมียนมา 8 คนอยู่บนเรือ เอเอฟพีระบุว่า เหตุเรือล่มในครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับสภาพอากาศหนาวฉับพลันที่ทำให้มีหิมะตกหนักในหลายพื้นที่ ส่วนหลายเกาะของญี่ปุ่นที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุเรือล่มก็มีอุณหภูมิกลางวันต่ำสุดถึง 3 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

เคียฟ 24 ม.ค. – นายคีริโล ไทโมเชนโก รองหัวหน้าทำเนียบประธานาธิบดียูเครน ประกาศว่า เขาได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งต่อประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เมื่อวันจันทร์ แต่ไม่ได้เปิดเผยถึงสาเหตุที่ลาออก ขณะที่สื่อยูเครนรายงานว่าเขามีส่วนพัวพันกับปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในยูเครน นายไทโมเชนโกระบุผ่านเทเลแกรม แอปพลิเคชั่นสนทนาออนไลน์แบบเข้ารหัส ในวันนี้ว่า เขาได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งต่อประธานาธิบดีเซเลนสกีเมื่อวันจันทร์ และกล่าวขอบคุณผู้นำยูเครนสำหรับความเชื่อมั่นและโอกาสในการทำงานเพื่อรับใช้ประเทศชาติ อย่างไรก็ดี นายไทโมเชนโกไม่ได้เปิดเผยถึงสาเหตุที่ตัดสินใจลาออก ขณะที่สื่อของยูเครนรายงานว่า นายไทโมเชนโกอาจมีชื่ออยู่ในบัญชีปรับเปลี่ยนตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของยูเครนตามที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีประกาศไว้ ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีเซเลนสกีเผยเมื่อวันจันทร์ว่า เขาจะปรับเปลี่ยนตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของยูเครนภายในสัปดาห์นี้ ได้แก่ เจ้าหน้าที่รัฐบาล เจ้าหน้าที่ระดับภูมิภาค และเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความปลอดภัย หลังจากที่มีข้อกล่าวหาเกี่ยวกับปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นในขณะที่ยูเครนถูกรัสเซียบุกโจมตีมาเป็นเวลาเกือบปี ทั้งนี้ นายไทโมเชนโก วัย 33 ปี ได้ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าทำเนียบประธานาธิบดียูเครนมาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีหน้าที่ดูแลเรื่องนโยบายระดับภูมิภาค และยังเคยทำงานกับประธานาธิบดีเซเลนสกีในช่วงหาเสียงเลือกตั้งมาแล้ว โดยรับหน้าที่ดูแลเรื่องสื่อมวลชนและเนื้อหาเชิงสร้างสรรค์ อย่างไรก็ดี สื่อของยูเครนรายงานว่า นายไทโมเชนโกตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จากเรื่องอื้อฉาวหลายประเด็นที่เชื่อมโยงกับการใช้รถยนต์ส่วนตัวราคาแพงหลายคันนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกโจมตียูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน ขณะที่นายไทโมเชนโกได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย

วอร์ซอ 24 ม.ค. – โปแลนด์จะส่งรถถัง ‘เลปเพิร์ด’ (Leopard) ที่เยอรมนีเป็นผู้ผลิต ให้แก่ยูเครน โดยที่โปแลนด์จะขออนุญาตจากเยอรมนีก่อน แต่ถ้าเยอรมนีไม่อนุมัติ ก็จะส่งรถถังดังกล่าวให้ยูเครนอยู่ดี นายกรัฐมนตรีมาแตอุช มาราวีแยตสกี ของโปแลนด์ กล่าวเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า โปแลนด์จะส่งรถถัง ‘เลปเพิร์ด’ ที่เยอรมนีเป็นผู้ผลิต ให้แก่ยูเครน โดยที่โปแลนด์จะขออนุญาตจากเยอรมนีก่อน แต่ถ้าเยอรมนีไม่อนุมัติ โปแลนด์ก็จะส่งรถถังดังกล่าวให้ยูเครน ขณะที่โฆษกรัฐบาลโปแลนด์กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ของทางการโปแลนด์ในเวลาต่อมาว่า รัฐบาลโปแลนด์จะส่งหนังสือแจ้งเรื่องนี้ต่อรัฐบาลเยอรมนีในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ก่อนหน้านี้ นางอันนาเลนา แบร์บอค รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของเยอรมนี เผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า เยอรมนีจะไม่ขัดขวาง หากรัฐบาลโปแลนด์ต้องการส่งรถถัง ‘เลปเพิร์ด’ ให้แก่ยูเครน ด้านสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ประเทศในทวีปยุโรปได้เห็นพ้องที่จะมอบเงินอีก 500 ล้านยูโร (ราว 17,800 ล้านบาท) เพื่อสนับสนุนด้านอาวุธให้ยูเครนนำไปใช้ป้องกันตัวเองจากรัสเซีย ในขณะที่ยูเครน ซึ่งยังคงใช้รถถังสมัยสหภาพโซเวียตเป็นส่วนใหญ่ ได้ออกมาเรียกร้องให้ชาติพันธมิตรเร่งส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่ยูเครนโดยด่วน.-สำนักข่าวไทย

เจนีวา 24 ม.ค. – องค์การอนามัยโลกเรียกร้องทั่วโลกช่วยกันปกป้องเด็กให้พ้นจากยาน้ำแก้ไอที่ปนเปื้อนสารเคมี ขณะที่มีเด็กกว่า 300 คนเสียชีวิตหลังรับประทานยาน้ำแก้ไอเปื้อนสารเคมีเมื่อปีก่อน องค์การอนามัยโลกระบุในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ตามเวลาในสวิตเซอร์แลนด์ว่า ในปี 2565 มีเด็กกว่า 300 คน ซึ่งส่วนใหญ่อายุต่ำกว่า 5 ปี ในประเทศแกมเบีย อินโดนีเซีย และอุซเบกิสถาน เสียชีวิตจากภาวะไตวายเฉียบพลันที่เชื่อมโยงกับการรับประทานยาน้ำแก้ไอที่ปนเปื้อนสารไดเอทีลีนไกลคอลและเอทิลีนไกลคอลในปริมาณสูง สารทั้งสองชนิดนี้เป็นสารเคมีเป็นพิษที่ใช้เป็นตัวทำละลายและเป็นสารต้านการแข็งตัว ซึ่งไม่ควรนำมาใช้ในยา นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลกยังระบุว่า ฟิลิปปินส์ ติมอร์-เลสเต เซเนกัล และกัมพูชา อาจได้รับผลกระทบจากยาที่ปนเปื้อนสารเคมี เพราะประเทศเหล่านี้อาจมียาน้ำแก้ไอจำพวกนี้วางขายอยู่ในท้องตลาด และเรียกร้องให้สมาชิกขององค์การอนามัยโลก 194 ประเทศช่วยกันป้องกันอันตรายถึงชีวิตจากการรับประทานยาดังกล่าว ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลกได้ประกาศแจ้งเตือนในเดือนตุลาคมปีก่อนและต้นเดือนนี้ให้ประเทศต่าง ๆ ยกเลิกการขายยาน้ำแก้ไอที่ผลิตโดยไมเดน ฟาร์มาซูติคัลส์ (Maiden Pharmaceuticals) และมาเรียน ไบโอเทค (Marion Biotech) ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของอินเดีย ที่เชื่อมโยงกับการเสียชีวิตของเด็กในแกมเบียและอุซเบกิสถาน นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลกยังแจ้งเตือนให้ระวังอันตรายจากยาน้ำแก้ไอที่ผลิตโดย 4 บริษัทเวชภัณฑ์ของอินโดนีเซีย ได้แก่ พีที ยารินโด ฟาร์มาทามา […]

นิวเดลี 19 ม.ค. – ชาวอินเดีย 8 คน ซึ่งมีเด็ก 3 คนรวมอยู่ด้วย เสียชีวิตหลังถูกเชือกว่าวเคลือบแก้วบาดคอในงานเทศกาลว่าวประจำปีของอินเดียเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักข่าวเพรส ทรัสต์ ออฟ อินเดีย หรือพีทีไอ รายงานอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นว่า มีชาวอินเดีย 8 คน ซึ่งมีเด็ก 3 คนรวมอยู่ด้วย เสียชีวิตหลังถูกเชือกว่าวบาดคอในงานเทศกาลว่าวประจำปีที่รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 176 คนที่ได้รับบาดเจ็บจากการตกลงมาจากดาดฟ้าที่พักอาศัยและถูกเชือกว่าวรัดคอ ทั้งนี้ มีชาวอินเดียหลายร้อยคนแห่ขึ้นไปบนดาดฟ้าที่พักอาศัยเพื่อร่วมเล่นว่าวในงานเทศกาลว่าวดังกล่าว พีทีไอยังรายงานว่า มีผู้เล่นว่าวบางคนที่ใช้เชือกว่าวเคลือบแก้วเพื่อหวังตัดเชือกว่าวของคู่แข่งในขณะที่ว่าวลอยอยู่บนท้องฟ้าทั้งที่ทางการท้องถิ่นได้สั่งห้ามใช้เชือกดังกล่าวตั้งแต่ปี 2559 แต่ก็ไม่เป็นผล เด็ก 3 คนที่เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว ได้แก่ เด็กหญิงวัย 2 ขวบที่ถูกเชือกว่าวบาดคอในขณะที่เธอนั่งรถจักรยานยนต์ที่มีพ่อเป็นคนขับเมื่อวันอาทิตย์ เด็กหญิงวัย 3 ขวบที่ถูกเชือกว่าวบาดคอในขณะที่กำลังเดินกลับบ้านกับแม่ และเด็กชายวัย 7 ขวบที่ถูกเชือกบาดคอในขณะที่นั่งรถจักรยานยนต์กับพ่อแม่ นอกจากนี้ เชือกว่าวเคลือบแก้วดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อนกหลายร้อยตัวที่บินอยู่บนท้องฟ้า โดยมีรายงานว่านกหลายตัวได้รับบาดเจ็บจากการถูกเชือกบาดปีก อาการบาดเจ็บทางเส้นประสาท กระดูกหัก ข้อเคลื่อน และตายเป็นจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย

ลอนดอน 19 ม.ค. – กรุงลอนดอนของอังกฤษคิดค้นวิธีแก้ปัญหาคนปัสสาวะรดกำแพงในที่สาธารณะด้วยการพ่นสเปรย์กันน้ำเคลือบบนกำแพง ซึ่งจะทำให้น้ำปัสสาวะกระเด็นใส่ผู้ที่ยืนปัสสาวะ เจ้าหน้าที่ของย่านโซโฮ ซึ่งเป็นแหล่งที่ตั้งของร้านอาหารชั้นเลิศ บาร์ โรงละคร และสถานบันเทิงชื่อดัง รวมถึงอพาร์ตเมนต์และที่พักอาศัย ในเขตเวสต์มินสเตอร์ของกรุงลอนดอน เผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ทางการท้องถิ่นกำลังใช้วิธีพ่นสเปรย์กันน้ำแบบพิเศษเคลือบกำแพงในย่านนี้เพื่อแก้ปัญหาคนปัสสาวะรดกำแพง โดยที่วิธีดังกล่าวจะทำให้น้ำปัสสาวะกระเด็นใส่ผู้ที่ยืนปัสสาวะ เนื่องจากได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหานี้จากประชาชนราว 3,000 คน เจ้าหน้าที่ยังระบุว่า ประชาชนหลายคนร้องเรียนว่ารู้สึกไม่พอใจที่มีคนปัสสาวะรดกำแพง บางคนบอกว่าต้องทนดมกลิ่นเหม็นของปัสสาวะในขณะที่ก้าวเท้าออกจากบ้านในยามเช้า ทางการท้องถิ่นจึงจำเป็นต้องใช้วิธีดังกล่าวในการแก้ปัญหานี้เพื่อให้ประชาชนได้อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สะอาดและปลอดภัย โดยตั้งเป้าใช้วิธีพ่นสเปรย์กันน้ำแบบพิเศษตามกำแพงในย่านโซโหทั้งหมด 10 จุด นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จะติดป้ายที่มีข้อความว่า ‘กำแพงนี้ไม่ใช่ที่ปัสสาวะ’ บริเวณกำแพงเหล่านี้อีกด้วย ก่อนหน้านี้ ทางการเขตเวสต์มินสเตอร์ต้องใช้งบประมาณสูงเกือบปีละ 1 ล้านปอนด์ (ราว 40.7 ล้านบาท) เพื่อทำความสะอาดพื้นที่เหล่านี้ ซึ่งรวมถึงปัญหาคนปัสสาวะเรี่ยราดข้างถนน โดยหวังว่าแนวทางดังกล่าวจะช่วยลดงบประมาณที่ต้องใช้ในการทำความสะอาด.-สำนักข่าวไทย

อะแลสกา 19 ม.ค. – หมีขาวจู่โจมเข้าทำร้ายสองแม่ลูกเสียชีวิตในพื้นที่ชนบทของรัฐอะแลสกา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากและคาดว่าอาจเป็นผลมาจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตำรวจของรัฐอะแลสกาเผยว่า หมีขาวตัวดังกล่าวได้บุกเข้ามาที่เมืองเวลส์ ซึ่งเป็นชุมชนขนาดเล็กในรัฐอะแลสกา และวิ่งไล่ตามชาวบ้านมาแล้วหลายราย จนกระทั่งก่อเหตุทำร้ายซัมเมอร์ ไมโอมิค มารดาวัย 24 ปี และไคลด์ อองโตวอสรัก ลูกชายวัย 1 ขวบ ในพื้นที่ใกล้โรงเรียนของชุมชนแห่งนี้ ชาวบ้านได้ใช้ปืนยิงและฆ่าหมีขาวตัวนี้ในขณะที่มันกำลังทำร้ายสองแม่ลูก แต่ทั้งสองคนเสียชีวิตในเวลาต่อมาเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว เมืองเวลส์เป็นชุมชนขนาดเล็กที่มีประชากรราว 150 คน และมีพื้นที่ติดช่องแคบเบริงที่เป็นพรมแดนธรรมชาติกั้นสหรัฐกับรัสเซีย รวมถึงอยู่ภายใต้การควบคุมของสภาปกครองท้องถิ่น ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของชุมชนคนพื้นเมืองที่นิยมล่าหมีขาวเพื่อยังชีพตามธรรมเนียมดั้งเดิม ภาพถ่ายจากดาวเทียมแสดงให้เห็นว่าชุมชนแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลรกร้างและมีบ้านเรือนที่ไม่สูงตั้งเรียงรายอยู่เพียงไม่กี่สิบหลังบนพื้นที่ติดชายฝั่งทะเล.-สำนักข่าวไทย