ไทยส่ง ลีเมอร์และเต่าบก 4 ชนิด กว่า 900 ชีวิต คืนมาดากัสการ์

กรุงเทพฯ 27 พ.ย. – ไทยส่งมอบลีเมอร์และเต่าบก 4 ชนิด กว่า 900 ชีวิต คืนมาดากัสการ์ ครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ รมว.ทส.ยันเผยตรวจยึดครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ เดินหน้านโยบายต่อต้าน ขบวนการค้าสัตว์ป่าข้ามชาติเข้มข้น ด้านอธิบดีกรมอุทยานฯ ระบุราคาสูงถึง 3 แสนบาท/ตัว เร่งขยายผลผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการ


กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จัดพิธีส่งมอบสัตว์ป่าของกลางไปยังสาธารณรัฐมาดากัสการ์ โดยมี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นผู้ส่งมอบ มี Mr. Max Andonirina FONTAINE รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน สาธารณรัฐมาดากัสการ์ เป็นตัวแทนรับมอบ ณ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม

นายเฉลิมชัย กล่าวว่า การดำเนินการส่งมอบสัตว์ป่าของกลาง เป็นนโยบายที่มุ่งเน้นการปราบปรามอาชญากรรมเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะการต่อต้านการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย ให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพของสัตว์ป่าที่ถูกยึด โดยการดูแลอย่างเหมาะสม และส่งเสริมคุณค่าการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่าในระดับสูงสุด ทั้งนี้ปัญหาการค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมายจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อรับมือกับอาชญากรรมข้ามชาติที่ซับซ้อนและมีผลกระทบในวงกว้าง การร่วมมือกันในระดับสากล จึงถือเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความยั่งยืนให้กับทรัพยากรธรรมชาติของโลก


สำหรับสัตว์ป่าของกลางที่จะส่งคืนในครั้งนี้ เป็นสัตว์ป่าที่กรมอุทยานฯ ได้รับมอบจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ซึ่งเป็นปฏิบัติการตรวจยึดสัตว์ป่าของกลางจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย โดยจับกุมได้ที่ จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 จำนวนรวม 1,117 ตัว/ซาก เป็นสัตว์ป่ามีชีวิต จำนวน 1,109 ตัว ซากสัตว์ จำนวน 8 ซาก ประกอบด้วย ลีเมอร์หางวงแหวน (Lemur catta) มีชีวิตจำนวน 16 ตัว ลีเมอร์สีน้ำตาล (Eulemur fulvus) มีชีวิตจำนวน 32 ตัว เต่าแมงมุม (Pyxis arachnoides) มีชีวิตจำนวน 877 ตัว ซากจำนวน 6 ซาก และเต่าลายรัศมี (Astrochelys radiata) มีชีวิตจำนวน 184 ตัว ซากจำนวน 2 ซาก หลังการจับกุมนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สั่งการให้นำสัตว์ป่ามีชีวิตไปดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงนกน้ำบางพระ จ.ชลบุรี และมอบหมายให้สัตวแพทย์ของสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานฯ ดูแลตามหลักวิชาการอย่างดี มีการตรวจสุขภาพพร้อมทั้งจัดทำประวัติ และมีการฝังไมโครชิพเพื่อระบุตัวตนต่อมาสาธารณรัฐมาดากัสการ์ ได้ประสานงานขอข้อมูลคดีและขอความอนุเคราะห์ขอคืนลีเมอร์และเต่าบก เนื่องจากสัตว์ป่า ทั้ง 4 ชนิดนี้ เป็นชนิดเฉพาะถิ่น (Endemic species) ที่พบตามธรรมชาติเฉพาะในสาธารณรัฐมาดากัสการ์ มีสถานะใกล้สูญพันธุ์ และเป็นสัตว์ในบัญชีหมายเลข 1 ของอนุสัญญา CITES การลักลอบค้าสัตว์ป่าชนิดดังกล่าวในปริมาณมากส่งผลกระทบต่อการอนุรักษ์เป็นอย่างยิ่ง จึงได้หารืออย่างไม่เป็นทางการกับฝ่ายไทย ซึ่งไทยยินดีส่งคืนสัตว์ป่าของกลางโดยดำเนินการให้สอดคล้องตามระเบียบกรมอุทยานฯ ว่าด้วยการดำเนินการแก่สัตว์ป่า ซากสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่า และค่าใช้จ่ายในการดูแลสัตว์ป่า พ.ศ.2565  

ระหว่างนั้นเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2567 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน สาธารณรัฐมาดากัสการ์ มาเยือนประเทศไทยและเข้าเยี่ยมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อหารือกรณีการส่งคืนสัตว์ป่า และเข้าเยี่ยมชมสัตว์ป่าของกลาง รวมถึงหารือกับผู้แทนหน่วยงานของประเทศไทยเร่งรัดการดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานและส่งคืนสัตว์ป่าของกลางโดยเร็ว ฝ่ายไทยจึงจัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีมติคืนสัตว์ป่าของกลางที่มีชีวิตให้แก่สาธารณรัฐมาดากัสการ์โดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเสียหายแก่สัตว์ป่าจากการตายลง คณะกรรมการดำเนินการแก่สัตว์ป่า ซากสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าฯ มีมติเห็นชอบการส่งคืนสัตว์ป่าของกลางที่มีชีวิต

ส่วนซากสัตว์ป่าให้ทำลาย ทั้งนี้เนื่องจากคดีนี้จัดเป็นคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศด้านสัตว์ป่า บก. ปทส. จึงได้โอนความรับผิดชอบคดีไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เป็นคดีพิเศษ แต่เนื่องจากคดียังไม่สิ้นสุดดีเอสไอและสถานีเพาะเลี้ยงนกน้ำบางพระ จึงร่วมกันเก็บตัวอย่างทางชีววิทยาของสัตว์ป่าของกลางเพื่อใช้เป็นพยานหลักฐาน จากนั้นมอบให้กรมอุทยานฯ พิจารณาดำเนินการคืนสัตว์ป่าของกลางได้ตามระเบียบของกรมอุทยาน ฯ ที่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการและจัดการกับสัตว์ป่าของกลางได้ก่อนสิ้นสุดคดี


กรมอุทยานฯ จึงได้ประสานกับสาธารณรัฐมาดากัสการ์เพื่อส่งคืนสัตว์ป่าของกลางที่มีชีวิตจำนวนรวม 961 ตัว ประกอบด้วย ลีเมอร์หางวงแหวน (Lemur catta) จำนวน 16 ตัว ลีเมอร์สีน้ำตาล (Eulemur fulvus) จำนวน 31 ตัว เต่าแมงมุม (Pyxis arachnoides) จำนวน 759 ตัว และเต่าลายรัศมี (Astrochelys radiata) จำนวน 155 ตัว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปริมาณสัตว์ป่ามีจำนวนมากทำให้ไม่สามารถขนส่งพร้อมกันได้ในคราวเดียว จึงได้กำหนดแบ่งการขนส่งออกเป็น 3 รอบ โดยรอบแรกเริ่มวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567

นายอรรถพล กล่าวเพิ่มเติมว่า เส้นทางลักลอบขนสัตว์ป่าเป็นเส้นทางประจำที่จะเข้ามาทางจังหวัดสตูล ซึ่งเป็นเส้นทางสุ่มเสี่ยงที่จะมีการกระทำความผิดอยู่แล้ว ต้องขอบคุณทุกหน่วยงานทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ รวมถึงเครือข่ายนานาชาติข้ามภูมิภาค ภายใต้อนุสัญญาไซเตส ล่าสุดได้มีการพูดคุยกับอัยการเพิ่มเติมถึงการขยายผลสืบสวนสอบสวน รวมถึงความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงินที่เป็นฐานความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ป่าด้วย โดยอัยการเจ้าของคดีได้เดินทางไปที่มาดากัสการ์ เพื่อไปสอบปากคำและหาข้อมูลเพิ่มเติมทางคดี สิ่งสำคัญคือการหาหลักฐานให้ได้มากที่สุดเพื่อนำไปสู่บุคคลที่อยู่เบื้องหลังขบวนการ และบุคคลที่เป็นผู้สั่งซื้อสัตว์เหล่านี้เข้ามา โดยพบว่ามีทั้งใช้ไทยเป็นจุดปล่อยสินค้า และส่งยังประเทศที่สาม ส่วนใหญ่ในเอเชีย พบว่าบางตัวมีราคาสูงถึง 300,000 บาท เนื่องจากลิเมอร์เป็นสัตว์ที่พบได้เฉพาะมาดากัสการ์ที่เดียวในโลก รวมถึงเต่าดาวรัศมีและเต่าดาวแมงมุมด้วย จึงทำให้มีราคาแพง เพราะหายาก .-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% ไม่พอใจเข้มปราบแก๊งคอลฯ

กระทรวงวัฒนธรรม 26 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดใจ ขอคนไทยรักกัน หันไปทะเลาะกับคนนอกประเทศก่อน ชี้ขัดแย้งกันเองยังรอได้ แฉกัมพูชาไม่พอใจไทยร่วมมือลาว – เมียนมา ปราบคอลเซ็นเตอร์ เผยสื่อนอกยังตั้งข้อสังเกต “กพช.” สั่งปิด รร.ยิงวันแรก เหมือนรู้ล่วงหน้าจะมีการรบ ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมติดตามมาตรการการรับมือ และช่วยช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 4 จังหวัด ที่กระทรวงวัฒนธรรม โดยนางสาวแพทองธารได้ยืนยันแถลงการณ์ของรัฐบาล ตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้แถลงไปเมื่อวานนี้ ที่ระบุว่ากัมพูชาถือว่าเป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง วิธีการต่าง ๆ ขัดต่อหลักสันติวิธีของกฎหมายระหว่างประเทศ และขัดหลักมนุษยธรรมที่ได้ปฏิบัติมาตลอด สถานการณ์ความรุนแรง เป็นสิ่งที่รัฐบาลได้ย้ำตลอดว่าไม่อยากให้เกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่สุด คือชีวิตของประชาชน เป็นสิ่งที่เรายึดถือ และพยายามไม่ให้เกิดการเสียเลือดเสียเนื้อ จนฝ่ายกัมพูชาได้ยิงก่อน ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา นางสาวแพทองธารยังกล่าวว่า มีสำนักข่าวต่างประเทศตั้งข้อสังเกตว่า จริงๆ แล้วเรามีหลักฐาน มีดิจิทัลฟุตปริ้นท์ที่สามารถทำให้เห็นว่าใครเป็นคนเริ่มก่อน และมีการตั้งข้อสังเกตว่าในวันนั้นนักเรียนของเราที่อยู่ชายแดนไปโรงเรียนตามปกติ […]

“เสธ.เบิร์ด” ชี้เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” ถือเป็นภัยคุกคาม

26 ก.ค.- “เสธ.เบิร์ด” ชี้ เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” วิถีไกล 130 กม. ถือเป็นภัยคุกคาม มองไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากกรณีกองทัพภาคที่ 2 เตือนเฝ้าระวังกัมพูชายิงขีปนาวุธ PHL-03 วิถีไกล 130 กม. เพื่อพุ่งเป้าหมายพื้นที่ยุทธศาสตร์และที่ตั้งทหารนั้น ล่าสุด พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวว่า การขยับขีปนาวุธ PHL-03 เป็นการขู่ และถือเป็นภัยคุกคาม ดังนั้นถ้าไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากการที่กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยใช้ปฏิบัติการทางอากาศเกินกว่าเหตุนั้น เราไม่ทำเกินกว่าเหตุ แต่สิ่งที่เราทำนี้เป็นเหตุผล เพราะฝ่ายกัมพูชา เคลื่อนกำลังจำนวนมากมาประชิดชายแดน ใช้อาวุธยิงระยะไกลทำร้ายประชาชนของไทย ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีบริการน้ำมัน ทำให้ประชาชนชาวไทยบาดเจ็บ และเสียชีวิต จากการมีภาพข่าวการเคลื่อนอาวุธยิงระยะไกล ถือว่าเป็นการข่มขู่คุกคามความมั่นคงของไทยอย่างชัดเจน ดังนั้นการปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อลดการสูญเสีย สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้การปฏิบัติการทางอากาศของไทยทำลายเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และมีความแม่นยำ -สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านลดต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย

น่าน 26 ก.ค.- สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองน่าน ลดลงต่อเนื่อง ส่วนอีกหลายจุดยังอ่วม ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย ย่านการค้าและเศรษฐกิจสำคัญของเมืองน่าน บริเวณถนนสุมณเทวราช ซึ่งเคยน้ำท่วมสูงเกือบถึงคอ แต่ตอนนี้น้ำลดลงเหลือประมาณหน้าขา เท่ากับลดไปราว 1 เมตร แต่บริเวณโดยรอบยังมีน้ำท่วมเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำ ยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจความเสียหายของโรงแรงแห่งหนึ่งกลางเมืองน่าน ซึ่งสภาพภายในเต็มไปด้วยคราบโคลน รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ที่จอดไว้เสียหายจำนวนมาก ขณะที่เจ้าของร้านค้าย่านนี้ เริ่มสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือที่โรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมสูงเต็มพื้นที่ 40 ไร่ บางจุดท่วมเกือบมิดหัว ตอนนี้น้ำลดแล้ว แต่ตามอาคารต่างๆ น้ำทะลักท่วมยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ได้รับความเสียหาย แต่ผู้ป่วยใน ราว 3 ร้อยคน ยังปลอดภัย คุณหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาด เพื่อให้โรงพยาบาลกลับมาเปิดบริการตามปกติให้เร็วที่สุด ช่วงสายที่ผ่านมา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายใจกลางเขตเศรษฐกิจเมืองน่านด้วย -สำนักข่าวไทย