กรุงเทพฯ 27 ก.พ. – “รัฐมนตรีธรรมนัส” ระบุ กรมแผนที่ทหารนำผลสำรวจแนวเขตที่ดินพิพาทระหว่างส.ป.ก. กับกรมอุทยานแห่งชาติฯ เสนอต่อนายกรัฐมนตรีแล้ว ชี้ชัดบริเวณที่ปักหมุดส.ป.ก. และออกเอกสารส.ป.ก. 4-01 อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน แม้อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน หากมีสภาพป่า ไม่สามารถจัดสรรให้เกษตรกรเข้าทำกินได้ ชื่นชม “ชัยวัฒน์” และหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่มีความกล้าหาญในการปกป้องผืนป่า
ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า กรมแผนที่ทหารสรุปผลการตรวจสอบแนวเขตที่ทับซ้อนระหว่างเขตปฏิรูปที่ดินซึ่งรับผิดชอบโดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ซึ่งรับผิดชอบโดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชแล้ว โดยเสนอต่อนายกรัฐมนตรีแล้ว
ผลการตรวจสอบปรากฏว่า พื้นที่บริเวณบ้านเหวปลากั้ง หมู่ที่ 10 ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาซึ่งสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมารังวัด ปักหมุดส.ป.ก. และออกเอกสารส.ป.ก. 4-01 นั้น อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน ไม่ใช่เขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยเมื่อนายกรัฐมนตรีทราบแล้ว สั่งการให้ร้อยเอกธรรมนัสและพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแถลงผลการตรวจสอบดังกล่าว
ร้อยเอกธรรมนัสระบุว่า ทั้งส.ป.ก. และกรมอุทยานแห่งชาติฯ ไม่มีใครผิดใครถูกเนื่องจากถือแผนที่คนละฉบับ อีกทั้งไม่มีเจตนาจะทำลายทรัพย์สินส่วนราชการของส.ป.ก.
ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวชื่นชมนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานแห่งชาติและนายไชยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ รวมถึงคณะเจ้าหน้าที่ที่กล้าหาญ ลุกขึ้นมาปกป้องป่า
แม้พื้นที่ที่มีข้อพิพาทจะอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน แต่เนื่องจากมีสภาพป่า การออกส.ป.ก. 4-01 จึงผิดระเบียบและส่อเจตนาทุจริต ดังนั้นจึงสั่งการให้นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการส.ป.ก. ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่การลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง พร้อมกับที่มอบหมายให้ที่ปรึกษากฎหมายเข้าแจ้งความดำเนินคดีตามมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวย้ำว่า เห็นด้วยกับนายชัยวัฒน์ที่ว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดต้องมีจิตสำนึก โดยพื้นที่ที่มีสภาพป่า ไม่สมควรออกส.ป.ก. 4-01 ซึ่งตามระเบียบการจัดสรรที่ดินไม่ให้นำไปจัดสรรเป็นพื้นที่เกษตรอยู่แล้ว ดังนั้นจึงลงนามในคำสั่งให้ตรวจสอบพื้นที่รอยต่อของเขตปฏิรูปที่ดินกับป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติทั่วประเทศว่า จัดสรรที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ผู้ครอบครองที่ดินส.ป.ก. เป็นเกษตรกรหรือไม่ หากพบว่า เป็นนายทุน หรือไม่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตร แต่นำมาทำเป็นรีสอร์ตและโรงแรมจะเพิกถอนและยึดคืนให้หมด
สำหรับพื้นที่รอยต่อดังกล่าว จะทำเป็นพื้นที่กันชน (Buffer Zone) โดยจัดทำเป็นป่าชุมชนเพื่อให้เกษตรกรได้ใช้ประโยชน์ ควบคู่กับการรักษาป่าและป้องกันการบุกรุกเข้าไปในป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ
ร้อยเอกธรรมนัสยืนยันว่า ไม่มีความบาดหมางกับพล.ต.อ. พัชรวาท โดยตนเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นน้อง เปรียบเสมือนเป็นเด็ก ต้องเคารพนับถือผู้ใหญ่ ตลอดจนผู้บริหารทั้งสองกระทรวงไม่มีนโยบายให้ผู้ปฏิบัติงานขัดแย้งกัน จากนี้ไปจะจับมือกันพิทักษ์รักษาป่าทั้งประเทศ.-512-สำนักข่าวไทย