กรมชลฯ เตรียมรับน้ำท่วม-หลาก 16 จว. พร้อมเฝ้าระวังน้ำโขงล้นตลิ่ง

กรุงเทพฯ 10 ส.ค. – อธิบดีกรมชลประทาน สั่งการโครงการชลประทานทั่วประเทศพร้อมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากจากฝนตกหนัก 12-18 ส.ค.นี้ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง 16 จังหวัดต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ขณะที่ 8 จังหวัดริมน้ำโขงต้องเฝ้าระวังระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นและอาจล้นตลิ่งบางพื้นที่ โดยเฉพาะ จ.นครพนม ย้ำประสานทุกหน่วยงานพร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชน


นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า สั่งการให้โครงการชลประทานทั่วประเทศเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำจากฝนตกหนักในช่วงวันที่ 12-18 ส.ค.นี้ สาเหตุจากร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านตอนบนของประเทศไทย เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ตามการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาและตามประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)

จากการประเมินปริมาณน้ำฝนคาดการณ์พบพื้นเสี่ยงน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากมี 61 อำเภอใน 16 จังหวัด ประกอบด้วย


1.ภาคเหนือได้แก่

– จังหวัดเชียงราย (อำเภอแม่จัน แม่สาย และแม่ฟ้าหลวง)

– จังหวัดเชียงใหม่ (อำเภออมก๋อย)


– จังหวัดตาก (อำเภอท่าสองยาง แม่สอด แม่ระมาด และอุ้มผาง)

– จังหวัดน่าน(อำเภอเมืองน่าน บ่อเกลือ ปัว เชียงกลาง ทุ่งช้าง เฉลิมพระเกียรติ และสองแคว) โดยเฉพาะจังหวัดน่านซึ่งปัจจุบันมีน้ำท่วมขังอยู่ในพื้นที่อำเภอเวียงสา อำเภอท่าวังผา และอำเภอแม่จริม ระดับน้ำจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก 

2. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้แก่

– จังหวัดหนองคาย (อำเภอเมืองหนองคาย เฝ้าไร่ โพนพิสัย และรัตนวาปี)

– จังหวัดบึงกาฬ (อำเภอเมืองบึงกาฬ ปากคาด บุ่งคล้า เซกา ศรีวิไล พรเจริญ โซ่พิสัย และบึงโขงหลง)

– จังหวัดนครพนม (อำเภอเมืองนครพนม ท่าอุเทน ศรีสงคราม บ้านแพง นาทม และโพนสวรรค์)

– จังหวัดสกลนคร (อำเภอบ้านม่วง และอากาศอำนวย)

3. ภาคตะวันออกได้แก่

– จังหวัดระยอง (อำเภอเขาชะเมา บ้านค่าย แกลง และบ้านฉาง)

– จังหวัดจันทบุรี (อำเภอเมืองจันทบุรี ขลุง เขาคิชฌกูฏ และท่าใหม่)

– จังหวัดตราด (อำเภอเมืองตราด คลองใหญ่ บ่อไร่ แหลมงอบเขาสมิง เกาะกูด และเกาะช้าง)

4. ภาคใต้ได้แก่

– จังหวัดระนอง (อำเภอเมืองระนอง กะเปอร์ และกระบุรี)

– จังหวัดพังงา (อำเภอคุระบุรี และท้ายเหมือง)

– จังหวัดภูเก็ต (อำเภอเมืองภูเก็ต กะทู้ และถลาง)

– จังหวัดสตูล (อำเภอละงู)

– จังหวัดตรัง (อำเภอกันตัง สิเกา และปะเหลียน)

ดังนั้นจึงสั่งการให้เตรียมพร้อมดำเนินการตามแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก โดยพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษคือ พื้นที่ที่มีรายงานประสบอุทกภัย 6 จังหวัดประกอบด้วย ภาคเหนือได้แก่ จังหวัดตากและน่าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้แก่ จังหวัดอำนาจเจริญ นครพนม อุดรธานี และอุบลราชธานี

นายประพิศกล่าวว่า กำชับให้โครงการชลประทานทุกแห่งติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบสภาพอาคารชลประทาน และจัดเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ในพื้นที่เสี่ยง หากมีกรณีฝนตกหนัก หรือลมกระโชกแรงจนส่งผลกระทบต่ออาคารชลประทาน และทรัพย์สินของทางราชการให้เข้าไปดำเนินการแก้ไขสถานการณ์โดยเร็ว บริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ เตรียมความพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ รถแบคโฮ/รถขุด รถเทรลเลอร์ เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ เครื่องผลักดันน้ำในพื้นที่เสี่ยงให้สามารถนำไปช่วยเหลือได้ทันที

พร้อมกันนี้เน้นย้ำให้กักเก็บน้ำจากฝนที่ตกลงมาให้ได้มากที่สุดซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำส่งผลดีต่อสถานการณ์น้ำในภาพรวม ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการน้ำอย่างประณีต ให้มีน้ำต้นทุนสำรองไว้ใช้อย่างเพียงพอไปจนกว่าจะถึงฤดูแล้ง

นายประพิศกล่าวว่า ได้สั่งการให้โครงการชลประทานใน 8 จังหวัดริมแม่น้ำโขงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตามที่กอนช. ออกประกาศเตือนเนื่องจาก มีปริมาณฝนตกหนักสะสมในลุ่มน้ำโขงตอนล่างและบริเวณแขวงบอลิคำไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทำให้ระดับน้ำแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและประเทศจีนตอนใต้ ทำให้ประเทศไทยโดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่งผลให้ระดับน้ำในจังหวัดแม่น้ำโขงตอนล่าง มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงวันที่ 10 – 15 ส.ค. ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี

สำหรับจุดเฝ้าระวังพิเศษคือ ในเขตพื้นที่จังหวัดนครพนม ปัจจุบันมีระดับน้ำต่ำกว่าระดับตลิ่ง 2.50 เมตร คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 2.50 – 3.50 เมตร และคาดการณ์ระดับน้ำจะมีแนวโน้มล้นตลิ่ง ในช่วงวันที่ 11 – 15 ส.ค.

ส่วนที่สถานีเชียงแสน จังหวัดเชียงรายระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 0.40 – 0.60 เมตร สถานีเชียงคาน จังหวัดเลย คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น ประมาณ 2.00 – 2.50 เมตร สถานีหนองคาย จังหวัดหนองคาย คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 2.50 – 3.50 เมตร สถานีมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร และสถานีโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 1.00 – 1.50 เมตร

ทั้งนี้กรมชลประทานเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจมีผลกระทบต่อพื้นที่ในเขตสำนักงานชลประทานที่ 2 5 และ 7 ที่มีพื้นที่อยู่ติดกับแม่น้ำโขง เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยจัดเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ตรวจสอบอาคารชลประทานให้พร้อมใช้งาน บริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ และเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ รถแบคโฮ/รถขุด รถเทรลเลอร์ เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ เครื่องผลักดันน้ำในพื้นที่เสี่ยงให้สามารถนำไปช่วยเหลือได้ทันท่วงที รวมถึงกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ

พร้อมทั้งบูรณาการร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำโขงได้รับทราบสถานการณ์อย่างต่อเนื่องและเตรียมพร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชนทันที หากเกิดสถานการณ์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ