กรุงเทพฯ 10 ต.ค.- กรมอุตุนิยมวิทยาเผย มีหย่อมความกดอากาศต่ำก่อตัวในทะเลจีนใต้ อาจทวีกำลังแรงเป็นพายุดีเปรสชัน ขึ้นฝั่งประเทศเวียดนาม โดยเมื่อเคลื่อนตัวเข้าสู่แผ่นดิน พายุจะอ่อนกำลังลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะนี้มีบริเวณความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ลงมา เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาตัวพายุ ประเทศไทยจึงไม่ได้รับผลกระทบจากพายุลูกนี้โดยตรง แต่ส่งผลให้ฝนตกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือบางพื้นที่ 12-14 ต.ค. นี้
นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยาเฝ้าติดตามหย่อมความกดอากาศต่ำที่ก่อตัวในทะเลจีนใต้ที่อาจทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชันและเคลื่อนขึ้นฝั่งทางด้านตะวันออกของประเทศเวียดนามโดยเมื่อเคลื่อนเข้าสู่แผ่นดิน พายุจะอ่อนกำลังลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะนี้มีบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากจีนแผ่ลงมาปกคลุมบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ซึ่งจะทำให้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ประเทศไทยตอนบนจะเริ่มมีฝนลดลงและอากาศเย็นลง
ทั้งนี้มวลอากาศเย็นดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาตัวของพายุ ดังนั้นโอกาสที่พายุจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยและมีผลกระทบนั้นมีน้อยมาก แต่คาดว่า จะทำให้มีฝนตกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือบางพื้นที่ระหว่างวันที่ 12-14 ตุลาคมนี้
อย่างไรก็ตามมีหย่อมความกดอากาศต่ำก่อตัวในทะเลอันดามันในห้วงเดียวกัน ทำให้เกิดเป็นร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ จึงจะทำให้ภาคใต้มีฝนตกเพิ่มขึ้นได้
อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาย้ำว่า หากมีพายุหมุนเขตร้อนเกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกหรือทะเลจีนใต้และมีแนวโน้มว่าจะเข้าสู่ประเทศไทยหรือส่งผลกระทบต่อประเทศไทย จะประกาศเตือนล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน
ทั้งนี้ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลการพยากรณ์อากาศในระยะนี้อย่างใกล้ชิด ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศร้ายแรงเกิดขึ้น กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศเตือนอย่างเป็นทางการ หากมีสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยสภาพอากาศ สามารถสอบถามได้ที่สายด่วน 1182 ตลอด 24 ชั่วโมง โทร. 02-3664012-3-Facebook กรมอุตุนิยมวิทยา Application Thaiweather และเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th.-สำนักข่าวไทย