เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ยังคงเกินความจุ ระบายน้ำเพิ่ม

กรุงเทพฯ 8 ต.ค.- กรมชลประทานปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เนื่องจากน้ำยังเกินความจุที่ระดับเก็บกักสูงสุด รวมทั้งคาดการณ์ว่า จะมีน้ำจากฝนที่ตกก่อนหน้านี้เข้ามาเติมอย่างต่อเนื่อง แจ้งเตือน 3 จังหวัดด้านท้ายเขื่อนให้เฝ้าระวังและเตรียมรับสถานการณ์จากระดับน้ำที่จะสูงขึ้นอีก 30-50 เซนติเมตร


นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า กรมชลประทานส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยาเพื่อให้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ริมแม่น้ำป่าสักและแม่น้ำเจ้าพระยาเฝ้าระวังระดับน้ำที่จะสูงขึ้น จากการปรับเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

ทั้งนี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องในลุ่มน้ำป่าสัก บริเวณพื้นที่รับน้ำเหนือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนจำนวนมาก วันนี้ (8 ตุลาคม) มีปริมาตรน้ำทั้งหมด 1,091 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อเทียบกับความจุที่ระดับเก็บกักสูงสุด 960 ล้านลูกบาศก์เมตร มีน้ำเกินความจุร้อยละ 113


กรมชลประทานคาดการณ์ปริมาณน้ำที่จะเกิดจากปริมาณฝนตามคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) ว่า จะมีปริมาณน้ำท่าไหลเข้าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ระหว่างวันที่ 8 ถึง 14 ตุลาคม รวม 492 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่จากอัตราการระบาย 900 ลบ.ม./วินาที จะส่งผลให้วันที่ 14 ตุลาคม ปริมาตรน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จะมี 1,031 ล้านลูกบาศก์เมตร แม้ยังคงเกินความจุที่ระดับเก็บกักสูงสุด แต่ลดลงกว่าปริมาตรในปัจจุบัน

ดังนั้น เพื่อเป็นการควบคุมระดับน้ำและปริมาณน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมสอดคล้องกับมติที่ประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลาง กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) วานนี้ (7 ต.ค.) กรมชลประทานจึงปรับเพิ่มการระบายน้ำจากอัตรา 830 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเป็น 900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีตั้งแต่วันนี้ โดยทยอยเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ

น้ำที่ระบายจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จะไหลไปรวมกับน้ำจากคลองชัยนาท-ป่าสัก แล้วจะควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี S.26 ท้ายเขื่อนพระรามหก อำเภอทำเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาในอัตราประมาณ 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที


ทั้งนี้จะส่งให้พื้นที่ริมแม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่ท้ายเขื่อนป่าลักชลสิทธิ์ อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ถึงเขื่อนพระรามหก อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 30-50 เซนติเมตร โดยปริมาณน้ำที่ระบายเพิ่มขึ้นจะส่งผ่านประตูระบายน้ำพระนารายณ์ อำเภอท่าเรือระหว่างอัตรา 80-120 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลำเลียงน้ำลงสู่พื้นที่ตอนล่างตามแนวคลองเหนือใต้ แล้วเร่งระบายออกสู่ทะเลโดยเร็ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

เร่งล่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต

เจ้าหน้าที่เร่งล่าตัวคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต ก่อนเผารถ ฉกปืนพกสั้น 9 มม. หลบหนี ทั้งยังพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดในพื้นที่ยะลาอีกหลายจุด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน