ฝนตกหนักปทุมฯ-กทม. 1-15 ก.ย. มีน้ำส่วนเกินรอระบายอีก 188 ล้าน ลบ.ม.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.- รองอธิบดีกรมชลประทาน เผยฝนที่ตกหนักต่อเนื่องบริเวณคลองรังสิตประยูรศักดิ์ จ.ปทุมธานี และ กทม.ฝั่งตะวันออก ระหว่าง 1-15 ก.ย. ทำให้มีปริมาณน้ำท่ามากถึง 764 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่ปริมาณการระบายน้ำที่ดำเนินการเต็มกำลัง 576 ล้าน ลบ.ม. จึงมีน้ำส่วนเกินที่รอระบาย 188 ล้าน ลบ.ม. หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าจะระบายน้ำที่ท่วมขังพื้นที่ต่างๆ ได้หมด และทำให้ระดับน้ำที่ล้นคลองกลับสู่ระดับตลิ่งในอีก 4 วัน


นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า กรมชลประทานเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี และกรุงเทพฯ ออกสู่ทะเลอย่างเต็มกำลัง ยืนยันว่า น้ำเหนือที่ระบายผ่านเขื่อนเจ้าพระยาไม่ได้ไหลลงมากระทบต่อจังหวัดปทุมธานี และกรุงเทพฯ โดยควบคุมการรับน้ำเข้าสู่ฝั่งตะวันออก ผ่านประตูระบายน้ำมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท เข้าสู่คลองชัยนาท-ป่าสัก เพียง 50 ลบ.ม./วินาที ขณะที่ฝั่งตะวันตกรับน้ำเข้าแม่น้ำท่าจีน ผ่านประตูระบายน้ำพลเทพ เพียง 20 ลบ.ม./วินาที

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมขังบางพื้นที่ของเทศบาลนครรังสิต จังหวัดปทุมธานี และกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก เกิดจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง โดยกรมชลประทานคำนวณปริมาณน้ำท่าจากฝนที่ตกลงมา ระหว่างวันที่ 1-15 ก.ย.65 พบว่า มากถึง 764 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่ปริมาณการระบายรวม 188 ล้าน ลบ.ม. ดังนั้นจึงมีปริมาณน้ำส่วนเกินรอระบาย 188 ล้าน ลบ.ม. หากฝนไม่ตกลงมาเพิ่ม คาดว่าจะระบายได้หมดจนน้ำกลับเข้าสู่ระดับตลิ่งในอีก 4 วัน


ทั้งนี้ ยืนยันว่า กรมชลประทานเร่งระบายน้ำช่วยพื้นที่จังหวัดปทุมธานี และกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก อย่างเต็มกำลัง โดยระบายน้ำออกทางคลองแนวขวาง ทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตก ผ่านสถานีสูบน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำนครนายก และแม่น้ำบางปะกง ประกอบด้วย 

– คลองรังสิตประยูรศักดิ์ ระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านสถานีสูบน้ำกึ่งถาวรปากคลองรังสิต และระบายน้ำลงสู่แม่น้ำนครนายก ผ่านสถานีสูบน้ำเสาวภาผ่องศรี 

– คลองหกวาสายล่าง ระบายน้ำลงสู่แม่น้ำบางปะกง ผ่านสถานีสูบน้ำสมบูรณ์


– คลองบางขนาก (คลองแสนแสบ) ระบายสู่แม่น้ำบางปะกง ผ่านสถานีสูบน้ำบางขนาก

– คลองนครเนื่องเขต ระบายสู่แม่น้ำบางปะกง ผ่านสถานีสูบน้ำท่าไข่

– คลองประเวศน์บุรีรมย์ ระบายสู่แม่น้ำบางปะกง ผ่านสถานีสูบน้ำท่าถั่ว 

– คลองสำโรง ระบายสู่แม่น้ำบางปะกง ผ่านสถานีสูบน้ำท่าปากตะคลอง 

ในการบริหารจัดการน้ำในคลองประเวศบุรีรมย์ ซึ่งเป็นคลองหลักที่ใช้ระบายน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่กรมชลประทานสูบระบายน้ำออกทางสถานีสูบน้ำประเวศบุรีรมย์ ลงสู่คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ก่อนจะสูบระบายออกทางแม่น้ำบางปะกง ผ่านทางสถานีสูบน้ำท่าถั่ว ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่โดยเร็ว 

นอกจากนี้ยังขุดลอกตะกอนดินบริเวณด้านเหนือของสถานีสูบน้ำท่าถั่วให้กว้างและลึกขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้สามารถรองรับปริมาณน้ำได้มากขึ้น พร้อมกับติดตั้งบาน Bulkhead Gate ที่ประตูน้ำ เพื่อเสริมความแข็งแรงอีกชั้นหนึ่ง เตรียมรองรับปริมาณน้ำที่จะไหลลงมาสมทบอีกในระยะต่อไป ปัจจุบันระดับน้ำในคลองประเวศบุรีรมย์ที่ไหลผ่านเขตลาดกระบังลดต่ำลง ซึ่งจะทำให้น้ำที่ท่วมขังอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำเขตลาดกระบังและพื้นที่ใกล้เคียง ไหลลงสู่คลองประเวศบุรีรมย์ได้สะดวกมากขึ้น ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ที่กำลังประสบกับปัญหาน้ำท่วมขังอยู่ในขณะนี้  

ส่วนในระยะยาว กรมชลประทานวางแผนดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำสถานีสูบน้ำท่าถั่ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง หากแล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำจากพื้นที่ออกสู่แม่น้ำบางปะกงให้เร็วขึ้นอีกด้วย 

กรมชลประทานยังใช้คลองแนวตั้งฝั่งตะวันออกของลุ่มน้ำเจ้าพระยาแบ่งรับน้ำจากทางตอนบนของกรุงเทพฯ ระบายน้ำผ่านคลองพระองค์ไชยานุชิต ก่อนจะใช้สถานีสูบน้ำที่ตั้งอยู่ริมคลองชายทะเล ได้แก่ สถานีสูบน้ำตำหรุ สถานีสูบน้ำบางปลาร้า สถานีสูบน้ำบางปลา สถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ สถานีสูบน้ำเจริญราษฎร์ สถานีสูบน้ำคลองด่าน 2 สถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร 1-2-3 สถานีสูบน้ำนางหงษ์ สถานีสูบน้ำพระยาวิสูตร และสถานีสูบน้ำเทพรังสรรค์ เร่งระบายน้ำลงสู่อ่าวไทย

นายทวีศักดิ์ ย้ำว่า กรมชลประทานได้เสริมศักยภาพการระบายน้ำ โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม รวมถึงเครื่องสูบน้ำขับเคลื่อนด้วยระบบไฮดรอลิก และเครื่องผลักดันน้ำ ซึ่งปัจจุบันสามารถระบายน้ำได้รวมกันประมาณวันละ 63 ล้าน ลบ.ม. เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในกรุงเทพฯ ที่ประสบภาวะน้ำท่วมขังให้คลี่คลายโดยเร็ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้เสียหายรวมตัวถามความคืบหน้าซื้อขายทอง จากร้านดังแล้วไม่ได้ทอง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 30 ราย บุกทวงถามความคืบหน้าคดีซื้อขายทอง จากร้านชื่อดังแล้วไม่ได้ทอง ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 700 ล้านบาท พ้อเดือดร้อนอย่างหนัก ผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำรายย่อยจากทั่วประเทศกว่า 30 ราย จากการซื้อขายกับร้านทองชื่อดัง ย่านเยาวราช พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เข้าติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงซื้อขายทองคำ ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง นายปานเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้รวมมูลค่าความเสียหายจาการซื้อขายทองคำกับร้านทองชื่อดัง พุ่งไปกว่า 700 ล้านบาทแล้ว โดยกลุ่มผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งกลุ่มที่ซื้อทอง กลุ่มที่ฝากเงิน และกลุ่มที่ซื้อทองและฝากเงิน นอกจากนี้จะยื่นคำร้องขอให้สอบสวนเพิ่มเติมสอบกับ 8 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและบริษัทในเครือ พิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัทดังกล่าว และต้องการให้ออกหมายจับผู้กี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากกลัวจะมีการหลบหนี ส่วนการอ้างโฆษณาว่า ร้านรับซื้อทองคำให้ราคาสูงกว่าร้านอื่น การซื้อขายแต่ไม่ได้ทอง มองว่ามีเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว การอ้างขาดสภาพคล่อง แต่ยังเปิดแอปพลิเคชั่นให้ประชาชนมาซื้อขายทองคำต่อได้อย่างไร ส่วนที่ผ่านมาทางร้านมีความพยายามเคลียร์กับผู้เสียหายรายย่อย มีการจ่ายเงินคืนไปแล้วบางรายไม่ถึงล้านบาท และตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว มองว่าเป็นแทคติกที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่งแทน […]

ทรูประกาศชดเชยลูกค้าจากเหตุขัดข้อง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ทรูประกาศชดเชยสำหรับลูกค้า กรณีเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายในวันนี้ ทรูแจ้งว่าขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้บริการต่างๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ บริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบ กสทช.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต. -511- สำนักข่าวไทย

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย

สุราษฎร์ธานี 22 พ.ค.- จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย ตร.เค้นสอบ สารภาพก่อเหตุจริงก่อนขโมยรถผู้ตายหนี ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าเปลือยพยาบาลสาววัย 36 ปี ในหอพัก 2 ชั้น พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และขโมยรถยนต์ผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งผู้ต้องสงสัยคือแฟนของผู้ช่วยพยาบาลที่อยู่ห้องติดกับผู้เสียชีวิต โดยศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้ออกหมายจับนายสุวัฒน์ อายุ 30 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ล่าสุด มีรายงานว่าชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว เบื้องต้นรับว่า เป็นบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขับรถยนต์ของพยาบาลสาวไปจอดในห้างฯ และก่อเหตุฆ่าพยาบาลสาวก่อนขโมยรถยนต์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนถึงเหตุจูงใจ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น้ำสายทะลักท่วมหลายชุมชน อ.แม่สาย จ.เชียงราย

เชียงราย 24 พ.ค.-ฝนตกหนักเกือบทั้งคืน แม่น้ำสายทะลักท่วมหลายชุมชน อ.แม่สาย จ.เชียงราย กลางดึก บางจุดสูงถึง 1 เมตร ส่วนบริเวณใต้สะพานพรมแดนไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 น้ำล้นบิ๊กแบ็กทะลักท่วมชุมชนริมน้ำเช่นกัน ฝนตกหนักเกือบทั้งคืน ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายสูงขึ้น จนล้นพนังกั้นน้ำเข้าท่วมหลายชุมชน เช่น บ้านถ้ำผาจม ตลาดสายลมจอย ตลาดน้อยเหมืองแดง ชุมชนเหมืองแดง ชุมชนไม้ลุงขน ชุมชนเกาะทราย โดยน้ำจากแม่น้ำสายได้เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนเป็นวงกว้าง บางจุดสูง 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร น้ำได้ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนกลางดึกแบบไม่ทันตั้งตัว หลายหลังเข้าท่วมภายในบ้าน จนต้องตื่นมาขนของมีค่าหนีน้ำกลางดึก ขณะที่บริเวณใต้สะพานพรมแดนไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 ระดับน้ำในแม่น้ำสายสูงขึ้นจนล้นพนังกั้นน้ำจากกระสอบทรายบิ๊กแบ็กบนถนนลอดใต้สะพาน ทะลักไหลเข้าพื้นที่ชั้นในขยายเป็นวงกว้างออกไปหลายชุมชนที่อยู่ริมแม่น้ำสาย และเป็นพื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วมอย่างหนักเมื่อปีที่ผ่านมา ล่าสุดระดับน้ำยังคงท่วมสูง และมีแนวโน้มว่าน้ำจะยังคงสูงขึ้นได้อีก เนื่องจากพื้นที่ต้นน้ำในประเทศเมียนมาฝนยังตกหนัก.-สำนักข่าวไทย

เร่งระบายน้ำหลุมเสาเข็ม หากไม่มีฝนจะนำร่างขึ้นมาได้วันนี้

กทม. 24 พ.ค.-เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำออกจากหลุมเสาเข็ม และเพิ่มแผ่นชีทไพล์ชั้นที่ 4 คาดหากไม่มีฝน จะนำร่างคนงานขึ้นมาได้วันนี้ นายเพช็ร ภุมมา ผอ.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ให้ข้อมูลความคืบหน้า โดยเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่พยายามนำเครื่องสูบน้ำมาระบายน้ำออกจากหลุมเสาเข็ม เนื่องจากเมื่อวานฝนตกหนักทำให้มีน้ำท่วมภายในหลุมและบริเวณรอบ และทำให้แผ่นชิทไพล์ที่ทำไว้ 3 ชั้น แตก ในวันนี้จึงต้องกั้นใหม่เป็นชั้นที่ 4 โดยกั้นลึกกว่าเดิม 2 เมตรเป็น 9.5 เมตร จากเดิม 7.5 เมตร หากวันนี้ไม่มีฝนตกคาดว่าจะนำร่างขึ้นมาได้ โดยเมื่อวานนี้มีสัญญาณดี คือเจอถุงมือที่มีชิ้นเนื้อติดขึ้นมาด้วย แต่ยังไม่เจอร่างทั้งหมด แต่คาดว่าร่างจะอยู่ในกรอบที่เรากำหนดไว้ ถ้าวันนี้ไม่มีอุปสรรคอะไรก็จะสามารถนำร่างขึ้นมาได้ โดยในช่วงบ่ายวันนี้ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะเดินทางมาติดตามสภานการณ์ด้วย.-420.-สำนักข่าวไทย

เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 24 พ.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฉบับที่ 7 ทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก ถึง 27 พ.ค.นี้ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 7 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 24-27 พฤษภาคม 2568) ในช่วงวันที่ 24-27 พฤษภาคม 2568 ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับจะมีร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้วันที่ 24 พฤษภาคม 2568ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ […]

ศาลพิพากษาคดีแตงโม จบไหม… หรือไปต่อ ?

23 พ.ค. – วันนี้มีความเคลื่อนไหวของคดีที่หลายๆ คนติดตามกัน คือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ที่ศาลจังหวัดนนทบุรียกฟ้อง หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปอีก จะจบลงแค่นี้หรือไม่ ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย