ฉะเชิงเทรา 14 ก.ย.-กรมชลประทาน เดินเครื่องสูบน้ำขับเคลื่อนด้วยระบบไฮดรอลิก 4 เครื่อง ซึ่งติดตั้งเพิ่มที่สถานีสูบน้ำท่าถั่วในคลองประเวศน์บุรีรมย์ ตลอดจนขุดร่องน้ำ เร่งระบายน้ำที่รับมาจากพื้นที่ฝั่งตะวันออกของ กทม. ออกทะเล ส่วนที่คลองรังสิตประยูรศักดิ์ ระดมสูบจนระดับน้ำทยอยลดลง
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า เครื่องสูบน้ำขับเคลื่อนด้วยระบบไฮดรอลิก (Hydro flo) 4 เครื่องซึ่งนำไปติดตั้งเพิ่มที่สถานีสูบน้ำท่าถั่วในคลองประเวศบุรีรมย์เดินเครื่องได้แล้วเพื่อเร่งให้น้ำที่รับมาจากฝั่งตะวันออกของกทม. ไหลลงสู่แม่น้ำบางปะกงเร็วขึ้น จากนั้นมีสถานีสูบเร่งสูบน้ำแม่น้ำบางปะกงเพื่อระบายออกทะเลอีกทอดหนึ่ง ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาวะน้ำท่วมขังเนื่องจากฝนตกสะสมติดต่อกันหลายวัน
สำหรับสถานีสูบน้ำท่าถั่ว มีเครื่องสูบน้ำขนาด 6 ลบ.ม./วินาที 6 เครื่องและเครื่องสูบน้ำไฟฟ้าขนาด 3 ลบ.ม./วินาที 4 เครื่อง เมื่อเดินเครื่องสูบน้ำขับเคลื่อนด้วยระบบไฮดรอลิกที่มีขนาดใหญ่ 42 นิ้ว 4 เครื่อง อัตราสูบ 3.5 ลบ.ม./วินาทีต่อเครื่อง จะเสริมประสิทธิภาพการระบายน้ำจาก 48 ลบ.ม./วินาทีเป็น 62 ลบ.ม./วินาที
นอกจากนี้ยังได้รับรายงานจากนายอเนก ก้านสังวร ผู้อำนวยการสำนักเครื่องจักรกลว่า ได้ขุดท้องคลองประเวศบุรีรมย์บริเวณปากทางเข้าด้านหน้าสถานีสูบน้ำให้ลึกลงอีก 3-4 เมตร เพื่อเปิดทางให้น้ำไหลเข้าสถานีสูบน้ำได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ได้ติดตั้งบาน Bulkhead Gate ที่ประตูน้ำ เพื่อเสริมความแข็งแรงอีกชั้นหนึ่ง เตรียมรองรับปริมาณน้ำที่จะไหลลงมาสมทบอีกในระยะต่อไป
ทั้งนี้ การเร่งระบายน้ำดังกล่าว จะทำให้ระดับน้ำในคลองประเวศบุรีรมย์ที่ไหลผ่านเขตลาดกระบังลดต่ำลง ซึ่งจะทำให้น้ำที่ท่วมขังอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำเขตลาดกระบังและพื้นที่ใกล้เคียง ไหลลงสู่คลองประเวศบุรีรมย์ได้สะดวกมากขึ้น ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวกทม. ฝั่งตะวันออก ที่กำลังประสบกับปัญหาน้ำท่วมขังอยู่ในขณะนี้
ส่วนที่คลองรังสิตประยูรศักดิ์ ได้รับรายงานจากนายชุติมันต์ สกุลพราหมณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 11 ว่า ยังคงระดมสูบน้ำด้วยเครื่องสูบน้ำของสถานีสูบน้ำจุฬาลงกรณ์และสถานีสูบน้ำกึ่งถาวรปากคลองรังสิตประยูรศักดิ์ รวมถึงเดินเครื่องผลักดันน้ำทำให้ระดับน้ำทยอยลดลง ทำให้เทศบาลนครรังสิตลดระดับการเตือนภัยจาก “ธงแดง” เป็น “ธงส้ม” โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาระดับน้ำคลองรังสิตประยูรศักดิ์บริเวณเขื่อนสะพานแดงอยู่ที่ 1.58 ม. รทก. เทียบกับวันที่ 9 ก.ย. ซึ่งขึ้นสูงสุดที่ 1.88 ม. รทก. โดยระดับตลิ่งอยู่ที่ 2.30 ม. รทก. ซึ่งช่วยบรรเทาผลกระทบจากฝนตกหนักในจังหวัดปทุมธานีได้
สถานีสูบน้ำจุฬาลงกรณ์เดินเครื่องสูบน้ำ 17 เครื่อง รวมอัตราการสูบ 75 ลบ.ม./วินาที รวมอัตราการสูบ 75 ลบ.ม./วินาที แต่เนื่องจากระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาสูงอยู่ที่ระดับ 2.23 ม.รทก. เมื่อเทียบกับระดับน้ำในคลองซึ่งอยู่ที่ 1.50 ม.รทก. จึงปิดบานระบายของประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์
สำหรับสถานีสูบน้ำกึ่งถาวรปากคลองรังสิตประยูรศักดิ์ เดินเครื่องสูบน้ำ 15 เครื่องและเครื่องสูบน้ำขับด้วยระบบไฮดรอลิก (Hydro flo) ขนาด 2 ลบ.ม./วินาที 2 เครื่อง รวมอัตราการสูบ 78 ลบ.ม./วินาที โดยระดับน้ำในคลองอยู่ที่ 1.90 ม.รทก. ต่ำกว่าระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งอยู่ที่ 1.87 ม.รทก. จึงเปิดบานระบายของประตูระบายน้ำเพื่อให้น้ำไหลออกได้สะดวก
นายประพิศกล่าวถึงระดับน้ำในคลองเปรมประชากรว่า ลดลงต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ที่ 0.72 ม.รทก. โดยสถานีสูบน้ำเปรมใต้เร่งเดินเครื่องเครื่องสูบน้ำ 2 เครื่อง รวมอัตราการสูบ 3.33 ลบ.ม./วินาที เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมขังในกทม. อย่างเต็มที่. – สำนักข่าวไทย