มูลนิธิป่ารอยต่อ 3 ส.ค.-“ประวิตร”เร่งแก้”มลพิษ-ขยะ” สั่งใช้แผนปฏิบัติการ “พื้นที่สีเขียวปี66-70” เห็นชอบ EIA 2 โครงการ เสริมช่องทางเดินรถ ให้สัญจรสะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ โดยที่ประชุม ได้รับทราบการดำเนินงานที่สำคัญ อาทิ ความก้าวหน้าการติดตามการแก้ไขปัญหามลพิษ กรณีโรงงานของ บริษัท วิน โพรเสส จำกัด อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ซึ่ง ทส.ได้ดำเนินการประสานงานกับ อัยการ จ.ระยอง และยังอยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการทางกฎหมาย และรับทราบความคืบหน้าผลการดำเนินงานเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติภัย สารเคมี บทเรียนจากเหตุเพลิงไหม้ กรณี โรงงานผลิตเม็ดโฟมและพลาสติกบริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด จ.สมุทรปราการ โดย ทส. ,มท. และ อก.ได้ร่วมกันพิจารณา มาตรการป้องกันเพื่อลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต ทั้งนี้ ทส.ได้จัดทำข้อเสนอแนะไปยัง 4ภาคส่วน ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้ประกอบการ ,หน่วยงานรัฐ(กำกับดูแล) ,หน่วยงานรัฐ(สนับสนุน) และภาคประชาชน
จากนั้น ที่ประชุมได้มีการพิจารณา ด้านการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) จำนวน 2โครงการ ได้แก่ 1)โครงการต่อเชื่อม ถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 กับสะพานพระราม 8 ของสำนักการโยธา กทม. เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัด รวมระยะทาง 3.5 ก.ม. 2)โครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา – ต.จองถนน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ของกรมทางหลวงชนบท เพื่อเพิ่มช่องทาง ความสะดวกในการสัญจร ข้ามทะเลสาบสงขลา รวมระยะทาง 7ก.ม. รองรับการส่งเสริมเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวในพื้นที่
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบ นโยบายการบริหารงานที่สำคัญ คือ(ร่าง)แนวทางปฎิบัติงานเพื่อขับเคลื่อนการจัดการ “พื้นที่สีเขียว”อย่างยังยืน ระยะที่ 2 (พ.ศ.2566-2570) ซึ่งประกอบด้วย 4 แนวทางได้แก่ 1)ให้ทุกภาคส่วนมีจิตสำนึกและหน้าที่ในการจัดการพื้นที่สีเขียว 2)ให้เมืองมีความมั่นคงทางอาหาร สามารถรองรับภัยพิบัติและมีฐานทรัพยากร เพื่อเอื้อต่อการดำรงชีวิตของประชาชน 3)มีเครื่องมือ กลไกเพื่อเอื้อต่อการเพิ่มและการจัดการพื้นที่สีเขียว และ 4)ให้ตระหนักในภูมิปัญญาท้องถิ่นและส่งเสริมนวัตกรรม เพื่อสร้างพลังทางสังคม รวมทั้งเห็นชอบ(ร่าง)แผนปฏิบัติการด้านการจัดการ”ขยะ”ของประเทศ ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2565-2570) ประกอบด้วย 3มาตรการ ได้แก่ 1)การจัดการขยะที่ต้นทาง 2)การเพิ่มประสิทธิภาพระบบกำจัดขยะ และ 3)การพัฒนาเครื่องมือ การบริหารจัดการขยะ
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้ ทส.และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เร่งติดตามโครงการที่ยังดำเนินการล่าช้าและกำกับ ขับเคลื่อนโครงการที่ผ่านความเห็นชอบแล้ว ให้เป็นไปตามมาตรการฯในรายงาน EIA อย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม ของประเทศ และเพื่อส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิต และสุขอนามัยของประชาชน อย่างทั่วถึง และยั่งยืน พร้อมทั้ง ต้องสร้างการรับรู้ให้ประชาชนได้ทราบเพื่อให้การดำเนินงานมีความเข้าใจและเกิดประโยชน์ร่วมกันต่อไป.-สำนักข่าวไทย