บอร์ด สปสช.เห็นชอบร่วมเดินหน้าปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิ กทม.

สปสช. 25 ก.ค.- บอร์ด สปสช. เห็นชอบเดินหน้าร่วมปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิ กทม. เห็นชอบข้อเสนอเร่งพัฒนาระบบบริการ หนุนผู้ว่าฯ กทม.รุกนโยบายดูแลสุขภาพคน กทม. พร้อมมอบ สปสช.เพิ่มหน่วยบริการปฐมภูมิในพื้นที่ ประสาน กทม.ร่วมขับเคลื่อนขยายการให้บริการ ระบุกลไกกองทุนบัตรทองพร้อมรองรับ


พญ.ลลิตยา กองคำ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น ทั้งประชากรในพื้นที่และประชากรแฝงมีจำนวนกว่า 7.8 ล้านคน จากข้อมูลระบบสุขภาพพบว่า เป็นผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) มากที่สุด จำนวน 3.59 ล้านคน รองลงมาเป็นสิทธิประกันสังคม 3.4 ล้านคน สิทธิข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ 640,000 คน และสิทธิสวัสดิการพนักงานส่วนท้องถิ่น 6,700 คน แม้ว่าจะมีความครอบคลุมในสิทธิประกันสุขภาพแล้ว แต่การเข้าถึงบริการ โดยเฉพาะในระดับปฐมภูมิยังค่อนข้างจำกัด ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

ดังนั้น ที่ผ่านมาจึงมีข้อเสนอจากภาคส่วนต่างๆ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิและจัดการบริหารกองทุนบริการปฐมภูมิในพื้นที่ กทม. ที่ช่วยเพิ่มการเข้าถึงบริการให้ประชาชน โดยได้มีการนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2565 ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ซึ่งได้รับทราบและเห็นชอบดำเนินการ โดยข้อเสนอเพื่อพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิฯ มีดังนี้


ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อการปฏิรูประบบบริการปฐมภูมิใน กทม. ที่เป็นข้อสรุปจากการประชุมรับฟังความคิดเห็นข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อการปฏิรูประบบบริการปฐมภูมิในกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 8-9 มิถุนายน 2565 ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ สปสช. โดยให้ บอร์ด สปสช.สนับสนุนงบประมาณและออกแบบระบบการเงินที่ส่งเสริมศักยภาพของระบบบริการปฐมภูมิ ที่มุ่งเน้นบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค พร้อมพัฒนารูปแบบการจ่ายเงินผู้ให้บริการอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

ข้อเสนอจากคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิ ได้แก่ การจัดเครือข่ายบริการให้คลินิกชุมชนอบอุ่น โรงพยาบาลของรัฐหรือเอกชนสามารถขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการประจำ, การปรับงบสนับสนุนบริการปฐมภูมิ ทั้งในส่วนของงบบริการผู้ป่วยนอก งบสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค และงบค่าบริการสาธารณสุขเพิ่มเติมสำหรับบริการระดับปฐมภูมิ ให้จ่ายตามกิจกรรมบริการแก่หน่วยบริการปฐมภูมิที่ผ่านเกณฑ์การขึ้นทะเบียนทุกแห่ง

นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอจากคณะอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับพื้นที่ (อปสข.) กทม. ในการเพิ่มบทบาทการพิจารณาเห็นชอบการจ่ายงบประมาณบัตรทองในพื้นที่ กทม. ได้แก่ บริการผู้ป่วยนอกทั่วไป บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคระดับพื้นที่ (PPA) และบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคสำหรับบริการพื้นฐาน (P&P Basic service)


“บอร์ด สปสช.มีมติรับทราบข้อเสนอการบริหารกองทุนบริการปฐมภูมิ เขตพื้นที่ กทม.ข้างต้นแล้ว พร้อมกันนี้ได้มอบให้ สปสช.เร่งกระบวนการขยายหน่วยบริการทุกรูปแบบ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการให้ประชาชน และประสาน กทม. ในการขับเคลื่อนระบบบริการปฐมภูมิ อีกทั้งกำกับควบคุมคุณภาพบริการ เพิ่มกลไกและเร่งรัดการตรวจสอบการจ่าย”

พญ.ลลิตยา กล่าวต่อว่า จากนโยบายของทางผู้ว่าฯ กทม. สปสช.จะมีการปรับกลไกการเบิกจ่าย เพื่อสนับสนุนการจัดบริการปฐมภูมิให้คน กทม. ซึ่งจากที่ได้พิจารณาในหลายๆ ประเด็นพบว่าระบบการจ่ายค่าบริการของ สปสช.มีความสอดคล้องกับนโยบายของผู้ว่าฯ กทม. และดำเนินการได้เลย สำหรับส่วนของการสนับสนุนการเพิ่มหรือขยายศักยภาพศูนย์บริการสาธารณสุขต้องมีการหารือกันอีกครั้ง

“ที่จริงเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เป็นข้อสังเกตของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) แล้วก็กระทรวงการคลังมานานแล้ว สำหรับงบประมาณว่าจะทำยังไงให้ประชาชนใน กทม. เข้าถึงบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้มากที่สุด เพราะ กทม.มีคนเกือบ 8 ล้านคน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ สปสช.เอง เราเชื่อมั่นว่าระบบที่เราออกแบบการจ่ายตามประกาศ สปสช.เพียงพอต่อการขับเคลื่อนระบบปฐมภูมิ กทม. ภายใต้ทิศทางการปฏิรูประบบบริการปฐมภูมิ กทม. และพร้อมจะมีการปรับรูปแบบการจ่าย เพื่อให้เกิดการเข้าถึงบริการของประชาชน กทม.เพิ่มมากขึ้น ภายใต้ความร่วมมือกับ กทม. และทุกภาคส่วน” รองเลขาธิการ สปสช.กล่าว

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ทั้งไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เอกภพ” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับ

“เอกภพ สายไหมต้องรอด” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับปมพยานเท็จดิไอคอน ยันบริสุทธิ์ใจ หากช่วยเหลือประชาชนแล้วโดนจับก็พร้อมรับ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่