กรุงเทพฯ 24 พ.ค.- บล. โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทย Sideway จากความกังวลผลกระทบเงินเฟ้อส่งผลให้เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่เงินเฟ้อไทยมีโอกาสแตะระดับสูงสุดรอบ 14 ปี ให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนี 1,600 – 1,650 จุด พร้อมแนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์ ศบค. ปรับโซนสีคุมโควิด-เปิดสถานบันเทิง AOT- AAV-BA-BEM-ERW-CENTEL-MINT-AWC-ASAPน่าลงทุน
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีโอกาสแกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway โดยนักลงทุนยังกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพื่อสกัดเงินเฟ้ออีก 0.5% ในการประชุม FOMC กลางเดือนมิถุนายน โดยข้อมูลจากริฟินิทีฟ ลิปเปอร์ (Refinitiv Lipper) บ่งชี้ว่านักลงทุนทั่วโลกปรับลดการลงทุนในกองทุนพันธบัตรและกองทุนหุ้นรายสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 18 พ.ค. เนื่องจากมีความวิตกว่า ภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย ส่วนศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ ระบุว่า เงินเฟ้อไทยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปี 2565 จะเร่งตัวขึ้นถึง 4.9% เป็นอัตราเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในรอบ 14 ปี
อย่างไรก็ตามทาง ศบค. มีมติปรับลดพื้นที่สีหรือแบ่งโซนในการควบคุมโรคโควิด ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว พร้อมเฝ้าระวังโรคฝีดาษลิงจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในหลายพื้นที่ทั่วโลกหลัง WHO อยู่ระหว่างการยกระดับการเฝ้าระวังไปในหลายประเทศที่ไม่เคยพบการระบาดของโรคดังกล่าวมาก่อน จำนวนผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิง (Monkeypox) ที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐและยุโรปบ่งชี้ว่าไวรัสดังกล่าวได้แพร่กระจายไปทั่วชุมชนต่าง ๆ เป็นวงกว้าง จึงคาดการณ์การเคลื่อนของดัชนีอยู่ในกรอบ 1,600-1,650 จุด
ส่วนปัจจัยที่ยังคงต้องจับตาต่อเนื่อง อาทิ กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค การประชุม”เวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม“หัวข้อในการประชุมคือ “History at a Turning Point: Government Policies and Business Strategies“ อียูรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ค. สหรัฐ รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ค. และยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย. สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุม สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตัวเลข GDP 1Q65 (ประมาณการครั้งที่ 2) และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนเม.ย. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก ศบค. มีมติปรับลดพื้นที่สีหรือแบ่งโซนในการควบคุมโรคโควิด-19 พร้อมทั้งเคาะปลดล็อกเปิดบริการสถานบันเทิงโดนเริ่มวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ได้แก่ AOT, AAV, BA, BEM, ERW, CENTEL, MINT, AWC และ ASAP
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำในสัปดาห์นี้ต้องจับตาเงินเฟ้อส่วนบุคคลหรือ Core PCE ของเดือนเมษายนและรายงานการประชุมFOMC ครั้งที่ผ่านมาว่าจะมีมุมมองเชิงลบเพิ่มเติมหรือไม่ อีกทั้งมุมมองของเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ซึ่งสนับสนุนให้พาวเวลเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่ระดับ 0.5% แต่หากพิจารณาแนวโน้มเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคมอาจเร่งตัวสูงกว่าเดือนเมษายน เนื่องจากราคาน้ำดิบที่ทรงตัวเหนือกว่าระดับ 105 เหรียญต่อบาร์เรลและสูงกว่าเดือนเมษายน ดังนั้นฝ่ายวิจัยประเมินว่าเฟดมีแนวโน้มเร่งใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดต่อไป เพื่อสะท้อนผ่านทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรและดัชนีดอลลาร์ที่ทรงตัวระดับสูง จึงให้กรอบการซื้อขายทองคำที 1,800-1,890$/oz หากราคาทองคำไม่สามารถเบรคเหนือแนวต้านที่ 1,860$/oz คำแนะนำทยอยเทขายทำกำไร.-สำนักข่าวไทย