กทม.ย้ำสิทธิบัตรทองถือบัตร ปชช.ไปรับบริการหน่วยปฐมภูมิได้ทุกที่

กรุงเทพฯ 9 พ.ค. – สำนักอนามัย กทม. ชี้นโยบายยกระดับบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกที่ทั่วประเทศ ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนใน กทม. และประชาชนในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงที่ทำงานใน กทม. ย้ำตอนนี้สิทธิบัตรทองถือบัตรประชาชนใบเดียวไปรับบริการในหน่วยบริการปฐมภูมิได้ทุกที่ทั้งศูนย์บริการสาธารณสุขและคลินิกชุมชนอบอุ่นโดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว


พญ.ป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร กล่าวถึงภาพรวมการดำเนินงานตามนโยบายยกระดับบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกที่ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นของขวัญปีใหม่ 2565 ที่รัฐบาลมอบแก่ประชาชนโดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.65 ว่า ในส่วนของพื้นที่ กทม. มีการนำร่องมาตั้งแต่ปี 2564 ให้ผู้ใช้สิทธิบัตรทองสามารถไปรับบริการในหน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ในบางพื้นที่อยู่แล้ว ซึ่งในช่วงแรกประชาชนยังยึดติดกับระบบเดิมและการประชาสัมพันธ์อาจยังไปไม่ถึงมากนัก แต่เมื่อดำเนินการไประยะหนึ่งพบว่าประชาชนมีความพึงพอใจมาก เพราะสามารถไปรับบริการที่ไหนก็ได้

“ลักษณะคน กทม. พักอาศัยอยู่พื้นที่หนึ่งแต่ไปทำงานอีกพื้นที่หนึ่ง ไม่สะดวกไปรับบริการในหน่วยบริการใกล้ที่พัก ก็สามารถไปรับบริการในศูนย์บริการสาธารณสุขหรือคลินิกชุมชนอบอุ่นที่อยู่ใกล้ที่ทำงานได้ ทำให้สะดวกสามารถเข้าถึงบริการได้มากขึ้น” พญ.ป่านฤดี กล่าว


อย่างไรก็ดี เนื่องจากในปี 2564 ยังอยู่ในระยะนำร่อง การรับบริการข้ามเขตที่ไหนก็ได้จึงยังมีจำนวนหนึ่งแต่ยังไม่มากนัก ส่วนในปี 2565 หลังจากมีการประกาศนโยบายยกระดับบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกที่ทั่วประเทศแล้ว ในส่วนของ กทม.เอง ได้ขยายให้ประชาชนที่มีบ้านอยู่จังหวัดรอบ ๆ พื้นที่ กทม.และเข้ามาทำงานใน กทม. แบบไปกลับ สามารถเข้ามารับบริการจากศูนย์บริการสาธารณสุขหรือคลินิกชุมชนอบอุ่นได้ด้วย จากเดิมอยู่ที่ไหนก็ต้องรักษาที่นั่นหรือถ้าจะมารับบริการใน กทม. ต้องย้ายสิทธิมาหรือใช้ใบส่งตัว แต่ปัจจุบันไม่ต้องใช้แล้ว สามารถเข้าสู่ระบบบริการได้เลย ถือเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้สิทธิบัตรทองในพื้นที่เหล่านี้มากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ จากสถิติการรับบริการในศูนย์บริการสาธารณสุขพบว่าจำนวนผู้รับบริการมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี โดยปี 2562 ใช้บริการ 1.38 ล้านคน ปี 2563 เพิ่มเป็น 1.5 ล้านคน ส่วนปี 2564 มีการระบาดของโควิด-19 จำนวนผู้รับบริการลดเหลือ 1.3 ล้านคน แต่คาดว่าปี 2565 จำนวนผู้รับบริการน่าจะกลับมาเพิ่มขึ้นเพราะการระบาดของโควิด-19 เริ่มน้อยลง ประชาชนต่างจังหวัดก็อาจกลับเข้ามาทำงานใน กทม. จำนวนผู้รับบริการก็น่าจะเพิ่มขึ้นตามสถานการณ์ ซึ่งสำนักอนามัยจะได้ประเมินสถานการณ์ต่อไป

พญ.ป่านฤดี กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน กทม. มีศูนย์บริการสาธารณสุขทั่ว กทม.รวม 69 แห่ง มีบุคลากรทั้งแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร ฯลฯ ถือเป็นหน่วยบริการที่ค่อนข้างครบถ้วนอยู่แล้ว และยังมีการอบรมเพิ่มเติมในเรื่องแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวเพื่อดูแลประชาชนในโรคที่พบบ่อย ไม่ซับซ้อน และเน้นเรื่องการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันควบคุมโรค นอกจากนี้ยังขยายคลินิกพิเศษต่างๆ เช่น คลินิกกายภาพบำบัด คลินิกยาเสพติด เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เป็นต้น ช่วยให้ประชาชนไม่ต้องเดินทางไปแออัดที่โรงพยาบาล โรงพยาบาลก็สามารถดูแลผู้ป่วยที่มีความซับซ้อนได้ดีขึ้น ในส่วนของประชาชนสิทธิบัตรทองที่ต้องการเข้ามารับบริการ แม้จะไม่ได้ลงทะเบียนหน่วยบริการประจำในพื้นที่นั้นๆ ก็สามารถถือบัตรประชาชนมาเพียงใบเดียวไปรับบริการที่ศูนย์บริการสาธารณสุขได้ทุกที่ เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบสิทธิแล้วให้บริการได้เลย


ขณะเดียวกัน นอกจากศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่งแล้ว ในแต่ละเขตแต่ละพื้นที่ยังมีหน่วยบริการปฐมภูมิที่เป็นคลินิกชุมชนอบอุ่นที่ผู้ใช้สิทธิบัตรทองสามารถเข้ารับบริการได้เช่นกัน โดยทางศูนย์บริการสาธารณสุขจะทำงานร่วมกับคลินิกชุมชนอบอุ่นในลักษณะเครือข่าย คอยสนับสนุนคลินิกชุมชนอบอุ่นให้ดำเนินการไปได้ตามที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กำหนด ตามสิทธิที่ประชาชนต้องได้รับ รวมทั้งมีบริการรับส่งต่อ เช่น ถ้าคลินิกชุมชนอบอุ่นไม่มีคลินิกพิเศษ อาทิ คลินิกกายภาพบำบัด คลินิกทันตกรรม ก็สามารถส่งต่อมารับบริการที่ศูนย์บริการสาธารณสุขได้ อีกทั้งยังร่วมมือกันทำงานด้านการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคแก่ประชาชนในพื้นที่ด้วยเช่นกัน. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เต้นฮากา

สส.เต้นฮากา ประท้วงในสภานิวซีแลนด์

ที่ประชุมสมาชิกรัฐสภานิวซีแลนด์เมื่อวานนี้ต้องระงับชั่วคราว หลังจากที่สมาชิกสภาหลายคนซึ่งเป็นชนเผ่าเมารี ได้ลุกขึ้นเต้นฮากา (haka) ขัดขวางการลงนามในกฎหมาย

“เจ๊พัช” ขอโทษรัฐมนตรีน้ำ ยืนยันไม่รู้จักส่วนตัว

“กฤษอนงค์” โพสต์ขออภัยรัฐมนตรีน้ำและคุณพ่อ ปมคลิปเสียงแอบอ้าง พร้อมขอน้อมรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว แจงเป็นการสนทนาแนวทางส่งเสริมอาชีพเท่านั้น

จ่อชงหลักการเข้า คกก.กระตุ้นเศรษฐกิจ จ่ายเงินหมื่นกลุ่ม 60 ปีขึ้นไป

รมว.คลัง รับเตรียมเสนอหลักการเข้า คกก.กระตุ้นเศรษฐกิจ จ่ายเงินหมื่นคนอายุ 60 ปีขึ้นไป หลัง “ทักษิณ” เปรยบนเวทีปราศรัย จ.อุดรธานี ชี้ใช้งบไม่มาก ยืนยันไม่ทับสิทธิกลุ่มเปราะบางเฟสแรก บอกมีเฟส 2-3

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

ข่าวแนะนำ

พะยูนตัวแรกของฤดูกาลท่องเที่ยวโผล่

นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลท่องเที่ยว 1 ตุลาคมที่ผ่านมา เพิ่งพบพะยูนบริเวณหน้าเกาะลิบง จังหวัดตรัง เป็นตัวแรก สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างมาก

“เจ๊พัช” ขอโทษรัฐมนตรีน้ำ ยืนยันไม่รู้จักส่วนตัว

“กฤษอนงค์” โพสต์ขออภัยรัฐมนตรีน้ำและคุณพ่อ ปมคลิปเสียงแอบอ้าง พร้อมขอน้อมรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว แจงเป็นการสนทนาแนวทางส่งเสริมอาชีพเท่านั้น

“หนุ่ม กรรชัย” งดเคลียร์ “ฟิล์ม” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด

“หนุ่ม กรรชัย” ประกาศตัดสัมพันธ์ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด งดเคลียร์ ซัดเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี ชี้เรื่องนี้ไม่ต้องเตือน ให้ย้อนไปดูที่บ้านได้สั่งสอนหรือไม่