“จุรินทร์”ยัน ปชป.ไม่โกงเลือกตั้ง‘สงขลา-ชุมพร’

กรุงเทพฯ 17 ม ค.- “จุรินทร์” ยัน ปชป.ไม่โกง ขอบคุณเสียงสวรรค์ของประชาชน ทำให้ชนะเลือกตั้งซ่อม สงขลา-ชุมพร บอกยังไม่ได้คุย “นายกฯ-ประวิตร” เตือนแล้วแข่งกันเองได้ไม่คุ้มเสีย ไม่มีใครได้อะไรทุกอย่าง


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ขอบคุณชาวจังหวัด ชุมพรและสงขลา ที่ให้ความไว้วางใจกับผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 2 คน ที่สำคัญขอขอบคุณผู้สนับสนุนที่หลั่งไหลมาจากหลายพื้นที่ทั่วประเทศที่เป็นกำลังใจให้กับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเสียงสวรรค์ของประชาชนคือปัจจัยที่มีความสำคัญและเป็นรูปธรรมที่สุดซึ่งต้องขอขอบคุณด้วยความซาบซึ้งใจ และจะทำให้พรรคทำงานหนักขึ้นและทำงานหนักต่อไป ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ ได้พิสูจน์ให้ ชาวสงขลาและชุมพร รวมทั้งคนไทยทั้งประเทศเห็น คือ การลงมือทำทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ได้จริง ทั้งงานของพรรค ที่มีความก้าวหน้าพัฒนาขึ้น มีผู้สมัครใหม่ๆ มีคนหน้าใหม่เลือดใหม่ มาร่วมอุดมการณ์กับพรรคมากขึ้น หรืองานในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ที่ปรากฏผลสัมฤทธิ์ให้เห็นชัดเจนเป็นรูปธรรม เช่น โครงการประกันรายได้เกษตรกร หรือในเรื่องของการเข้ามาดูแลกลุ่มเปราะบางต่างๆทั่วประเทศ รวมทั้งการทำงานร่วมกับภาคธุรกิจ ที่ทำให้การส่งออกสามารถเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไปได้และอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ส่วนประเด็นที่มีการกล่าวหาว่าโกงการเลือกตั้ง ตนไม่ขอวิจารณ์ แต่ยืนยันประชาธิปัตย์ไม่โกงการเลือกตั้ง ทุกคะแนนเสียงเรามั่นใจว่าได้มาด้วยความบริสุทธิ์และเป็นเสียงสวรรค์จากประชาชนอย่างแท้จริง


พร้อมย้ำว่า เคยเตือนไปแล้วว่า สุดท้าย ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลมาแข่งกันเองจะได้ไม่คุ้มเสีย แต่ทั้งหมดจะตบมือข้างเดียวไม่ดัง ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ถือหลักนี้ แต่เพียงผู้เดียวแต่พรรคอื่นไม่เอาด้วย ก็ไม่เกิดขึ้น พร้อมยืนยันวันนึงในอนาคตถ้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล จะไม่แข่งกันเองในพรรคร่วมรัฐบาล เพราะได้ไม่คุ้มเสียอย่างที่บอก และวันนี้ปรากฏผลให้เห็นอย่างที่ตนพูด แต่ทั้งหมดแต่ละพรรค หลักคิดอาจมีความแตกต่างกัน แต่ประชาธิปัตย์มีประสบการณ์ เป็นสถาบันทางการเมือง ผ่านร้อนผ่านหนาวมายาวนาน และเข้าใจคาดเดาคาดการณ์ได้ว่าถ้าเป็นอย่างนี้ สุดท้ายผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร จึงถือหลักนี้มาตลอด และขณะนี้ยังไม่ได้คุยกับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรค พลังประชาร้ฐ เพราะเพิ่งผ่านการเลือกตั้งมาเมื่อวาน แต่สำคัญคือการทำงานร่วมกันในรัฐบาลผสม ไม่เหมือนรัฐบาลพรรคเดียว การทำงานในรูปแบบรัฐบาลผสม ต้องยึดถือหลักการทำงานร่วมกัน ไม่มีใครได้อะไรทุกอย่าง เป็นเรื่องที่เราจะต้องเข้าใจเบื้องต้นก่อน เหมือนเราทำงานร่วมกันกับหมู่คณะหลายคน ต้องมีวัฒนธรรมในการทำงานร่วมกันระหว่างรัฐบาลผสม อะไรควรจะเป็นอย่างไรคือสิ่งที่ตนคิดว่าเราจะต้องตระหนัก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สั่งย้ายครูแบทแมน

สั่งเด้ง “ครูแบทแมน” ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน

กัน จอมพลัง บุก ก.ศึกษาธิการ ร้องเอาผิดครูชายสวมหน้ากากแบทแมน ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน จ.อุทัยธานี ล่าสุดสั่งย้าย “ผอ.โรงเรียน-ครูแบทแมน” เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้าน “สส.ชาดา-กัน จอมพลัง” ลงพื้นที่ ขีดเส้นตายสอบเอาผิด

แม่อดีตครูสาว ยังติดใจสาเหตุ หลังพบศพในรถลานจอด รพ.

“น้องกิ๊ฟ” อดีตครูหายตัวไปเกือบ 1 เดือน พบอีกทีเป็นร่างไร้วิญญาณในรถยนต์บนลานจอดของโรงพยาบาล ญาติยังติดใจสาเหตุวอนตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไขข้อสงสัย

สั่งจำคุก “อัจฉริยะ” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีละเมิดอำนาจศาล

ศาลอาญาสั่งจำคุก “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล เผยแพร่เอกสารสรุปย่อคำพิพากษาต่อสื่อมวลชนโดยไม่ได้รับอนุญาต

ข่าวแนะนำ

เคลื่อน 18 ศพเหยื่อบัสมรณะ ถึงบ้านเกิด ญาติร่ำไห้อาลัย

เจ้าหน้าที่กู้ภัยเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิต 18 ราย จากเหตุรถบัสพลิกคว่ำ ถึงวัดป่าวิเวกธรรมคุณ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติที่รอรับศพ

สำรวจจุดเกิดเหตุรถบัสมรณะ 18 ศพ

ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุรถบัสมรณะ 18 ศพ พบว่ารถคันดังกล่าวฝ่าฝืนคำสั่งไม่ยอมจอดพักรถและลงชื่อก่อนจุดเกิดเหตุ 1 กิโลเมตร ทำให้รถเกิดเบรกแตกไหลลงเขาจนเกิดโศกนาฏกรรม

นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ถกปราบบุหรี่ไฟฟ้า

“แพทองธาร” นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ประชุมปราบปราม “บุหรี่ไฟฟ้า” ขีดเส้น 30 วัน ดำเนินการให้เด็ดขาด สั่งเข้มห้ามขายใกล้สถานศึกษา ต้องจัดการผู้นำเข้า

รถบัสดูงานคว่ำ

เร่งหาสาเหตุรถบัสคณะดูงานบึงกาฬ พลิกคว่ำทางลงเขาศาลปู่โทน

เจ้าหน้าที่เร่งกู้ซากรถบัสคณะดูงานเทศบาลบึงกาฬ เสียหลักพลิกคว่ำบริเวณทางลงเขาศาลปู่โทน จ.ปราจีนบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 คน บาดเจ็บอีกจำนวนมาก พร้อมเร่งหาสาเหตุของอุบัติเหตุ หลังมีรายงานว่าตอนลงเขารถบัสใช้ความเร็วเกิน 100 กม./ชม.