เพื่อไทย ชี้ รัฐบาลเลื่อน‘คนละครึ่ง’เหมือนฉายหนังซ้ำ

พรรคเพื่อไทย 17 ม.ค.- “รองโฆษกเพื่อไทย” ชี้ รัฐบาลเลื่อนโครงการคนละครึ่ง เหมือนฉายหนังซ้ำ หวังลดปัญหาราคาของแพงไม่เรียนรู้ที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ต้นตอ มองใช้ภาษีประชาชนประคองสถานการณ์แบบฉาบฉวย


นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลกำลังพิจารณาปรับเลื่อนการเติมเงินมาตรการคนละครึ่งเฟสที่ 4 จากเริ่มต้นในเดือนมีนาคม มาเป็นกุมภาพันธ์ 2565 นี้ เพื่อช่วยแก้ปัญหาสินค้าราคาแพง ว่า รัฐบาลต้องเลิกแก้ปัญหาแบบฉาบฉวย ใช้แต่งบประมาณซึ่งมาจากภาษีประชาชนเพื่อประคองสถานการณ์ หวังกลบกระแสสังคม เมื่อเกิดปัญหาใดก็ตามรัฐบาลมักเลือกที่จะแจกจนเคยชิน โดยไม่มีแผนการวางแผนแก้ปัญหาที่ตรงจุด การเลื่อนโครงการคนละครึ่งมาหวังลดปัญหาเรื่องสินค้าแพงทุกรายการ เหมือนการฉายหนังซ้ำ วนไปวนมา ไม่ใช่มาตรการที่ช่วยเหลือประชาชนกลุ่มคนยากจนซึ่งเป็นผู้ที่เดือดร้อนจริง ซ้ำยังไม่ประสบสำเร็จ สังเกตได้จากมาตรการคนละครึ่งเฟส 3 ที่บังคับใช้ปลายปี 2564 มีผู้ใช้งานไม่เต็มวงเงิน จึงพอจะคาดเดาได้ว่าในเฟส 4 คงได้รับผลลัพธ์ที่แย่ลงอีก เพราะทุกวันนี้แม้จะให้จ่ายเงินซื้อสินค้าแค่ครึ่งเดียว แต่ประชาชนก็ไม่เหลือเงินแล้ว นอกจากนี้ผลกระทบจากมาตรการคนละครึ่งในปัจจุบัน มีรายงานจากหลายพื้นที่ว่าถูกใช้เป็นข้ออ้างของร้านค้าจำนวนหนึ่งในการฉวยโอกาสเพิ่มราคาสินค้าแบบถาวรด้วย หากรัฐบาลยังวนเวียนอยู่แต่กับการใช้มาตรการแจกเงินโดยไม่เรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจทีต้นตอ ในอนาคตอันใกล้เราคงมีโอกาสเห็นราคาสินค้าพุ่งกระฉูด ขัดกับรายได้ประชาชนที่หดหาย ไม่มีอันจะกินอย่างแน่นอน

นายชนินทร์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลชุดนี้เก่งแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ใช้แต่เงินภาษีประชาชน อย่างการอนุมัติงบกลางกว่า 500 ล้านบาทให้กระทรวงพาณิชย์มาจัดซื้อหมูราคาแพงในตลาด มาขายให้ประชาชนในราคาที่ถูกลง เป็นตัวอย่างของการแก้ปัญหาที่ไม่ต้องใช้ความสามารถหรือฝีมืออะไรเลย ทั้งที่ควรเข้าไปเจรจากับกลุ่มทุนผู้ผลิตรายใหญ่ในการจัดหาหมูราคาถูกมาจำหน่ายประชาชน หรือการปรับเปลี่ยนนโยบายการนำเข้าเพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิต นอกจากนี้รัฐบาลยังไม่มีแผนแก้ไขปัญหาในระยะยาว คนที่เสียหายที่สุดในสถานการณ์นี้มีแต่ประชาชน ที่นอกจากจะต้องรับกรรมกับสินค้าแพงแล้ว ยังต้องสูญเสียภาษีไปโดยเปล่าประโยชน์ให้กับการชดเชยค่าสินค้าที่แพงขึ้นมาจากการบริหารที่ไร้ประสิทธิภาพเท่านั้น


“ปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบันซึมลึกไปทุกระดับ รัฐต้องเสริมศักยภาพในการประกอบอาชีพ ผ่อนคลายมาตรการภาษี สร้างตลาดรองรับ สร้างโอกาสในการทำกิน ไม่ใช่เอาแต่เติมเงิน แจกเงิน แทรกแซงจนโครงสร้างเศรษฐกิจไปต่อยาก หากปล่อยให้บริหารต่อไปเรื่อยๆ ต่อไปประเทศไทยคงต้องเต็มไปด้วยคนจนทั้งแผ่นดินด้วย” นายชนินทร์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สั่งย้ายครูแบทแมน

สั่งเด้ง “ครูแบทแมน” ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน

กัน จอมพลัง บุก ก.ศึกษาธิการ ร้องเอาผิดครูชายสวมหน้ากากแบทแมน ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน จ.อุทัยธานี ล่าสุดสั่งย้าย “ผอ.โรงเรียน-ครูแบทแมน” เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้าน “สส.ชาดา-กัน จอมพลัง” ลงพื้นที่ ขีดเส้นตายสอบเอาผิด

แม่อดีตครูสาว ยังติดใจสาเหตุ หลังพบศพในรถลานจอด รพ.

“น้องกิ๊ฟ” อดีตครูหายตัวไปเกือบ 1 เดือน พบอีกทีเป็นร่างไร้วิญญาณในรถยนต์บนลานจอดของโรงพยาบาล ญาติยังติดใจสาเหตุวอนตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไขข้อสงสัย

สั่งจำคุก “อัจฉริยะ” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีละเมิดอำนาจศาล

ศาลอาญาสั่งจำคุก “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล เผยแพร่เอกสารสรุปย่อคำพิพากษาต่อสื่อมวลชนโดยไม่ได้รับอนุญาต

ข่าวแนะนำ

เคลื่อน 18 ศพเหยื่อบัสมรณะ ถึงบ้านเกิด ญาติร่ำไห้อาลัย

เจ้าหน้าที่กู้ภัยเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิต 18 ราย จากเหตุรถบัสพลิกคว่ำ ถึงวัดป่าวิเวกธรรมคุณ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติที่รอรับศพ

สำรวจจุดเกิดเหตุรถบัสมรณะ 18 ศพ

ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุรถบัสมรณะ 18 ศพ พบว่ารถคันดังกล่าวฝ่าฝืนคำสั่งไม่ยอมจอดพักรถและลงชื่อก่อนจุดเกิดเหตุ 1 กิโลเมตร ทำให้รถเกิดเบรกแตกไหลลงเขาจนเกิดโศกนาฏกรรม

นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ถกปราบบุหรี่ไฟฟ้า

“แพทองธาร” นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ประชุมปราบปราม “บุหรี่ไฟฟ้า” ขีดเส้น 30 วัน ดำเนินการให้เด็ดขาด สั่งเข้มห้ามขายใกล้สถานศึกษา ต้องจัดการผู้นำเข้า

รถบัสดูงานคว่ำ

เร่งหาสาเหตุรถบัสคณะดูงานบึงกาฬ พลิกคว่ำทางลงเขาศาลปู่โทน

เจ้าหน้าที่เร่งกู้ซากรถบัสคณะดูงานเทศบาลบึงกาฬ เสียหลักพลิกคว่ำบริเวณทางลงเขาศาลปู่โทน จ.ปราจีนบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 คน บาดเจ็บอีกจำนวนมาก พร้อมเร่งหาสาเหตุของอุบัติเหตุ หลังมีรายงานว่าตอนลงเขารถบัสใช้ความเร็วเกิน 100 กม./ชม.