กรุงเทพฯ 3 ม.ค.-“กรณ์-อรรถวิชช์” นำทีมพรรคกล้า เดินตลาดบางเขน-อมรพันธ์ พบปะประชาชน ยอมรับห่วงเรื่องใช้เงินซื้อเสียง โดยเฉพาะภาคใต้ ขอ กกต. ตรวจสอบ มั่นใจชนะเลือกตั้งซ่อมหลักสี่ พร้อมขอรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาราคาหมูแพงและปัญหาปากท้องให้ประชาชนเดือดร้อนช่วงโควิด
นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้าพร้อมด้วย นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ผู้สมัคร ส.ส.เขต 9 หลักสี่-จตุจักร นำทีมงานลงพื้นที่พบปะประชาชนตลาดบางเขนและตลาดอมรพันธ์ เพื่อแนะนำตัวในการเลือกตั้งซ่อมในวันที่ 30 มกราคม 2565 นี้
นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า เบื้องต้นที่ได้ลงพื้นที่พบปะประชาชนพบว่ามีปัญหาที่เป็นกังวลเรื่องโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานหน่วยย่อย เช่น ระบบระบายน้ำไฟฟ้าส่องสว่าง โดยเชื่อว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสามารถเชื่อมโยงประสานงานแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้ไม่ใช่แค่เข้าประชุมสภาหรืองานทะเลาะกับฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น รวมถึงปัญหาปากท้องที่ประชาชนต้องการให้เร่งแก้ไข คือราคาสินค้าเข้าของที่แพงขึ้น เช่นราคาหมูสดที่ราคากระชากขึ้นจากปกติที่ขึ้นครั้งละประมาณ 8 บาทต่อกิโลกรัม แต่ครั้งนี้ขึ้นถึง 20 บาทต่อกิโลกรัมรับเทศกาลปีใหม่ จึงต้องไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นในกลไกของตลาด
เลขาธิการพรรคกล้า เปิดเผยว่าได้ลงพื้นที่ดูแลประชาชนอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2548 มีความผูกพันกับเขตหลักสี่และจตุจักรมานานจนถึงทุกวันนี้และในช่วงโควิดได้ตั้งศูนย์กล้าอาสาเพื่อประสานงานและช่วยเหลือผู้ป่วยในการหาเตียงรักษาตัว 7,000 คน พร้อมกับตั้งศูนย์พักคอยเพื่อใช้กับตัวผู้ป่วย 36 ศูนย์ แล้วตอนทำงานทุกวัน มั่นใจว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้จะได้รับชัยชนะ แม้ว่าพรรคกล้าจะเป็นพรรคใหม่แต่ต้องถามประชาชนว่าพรรคการเมืองคุณภาพและทำงานสร้างสรรค์จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ในกรุงเทพมหานคร แต่ต้องยอมรับว่าขณะนี้มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเกิดขึ้นแต่ส่วนตัวเชื่อว่า โครงสร้างหลัก คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป้าหมายของชาติ คือ การแก้วิกฤติเศรษฐกิจการเป็นมืออาชีพด้านเศรษฐกิจอยากให้ประเทศดีขึ้นและมั่นใจเลือกตั้งซ่อมทั้งจังหวัดสงขลาและชุมพรด้วย
ขณะที่นายกรณ์ กล่าวด้วยว่า ประเด็นปากท้องยังคงมีความท้าทายอยู่มากในปีนี้โดยเฉพาะราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นจึงต้องขอเป็นกำลังใจให้กับประชาชนทุกคนในช่วงภาวะเช่นนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงภาระหน้าที่สำคัญของรัฐบาลที่จะดูแลเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนและต้องควบคุมราคาสินค้าให้ดีต้องไปดูว่าเป็นเรื่องของกลไกการตลาดจริงหรือเพราะการบริหารจัดการ ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญของรัฐบาล ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ต้องไม่ให้ผู้ประกอบการเอารัดเอาเปรียบประชาชน ซึ่งกรมการค้าภายในจำเป็นต้องลงมาตรวจสอบเพื่อให้ประชาชนสบายใจว่าเจ้าหน้าที่รัฐใส่ใจดูแลและราคาต้องสะท้อนความเป็นจริงและเป็นธรรม ขออย่าฉวยโอกาสในสถานการณ์โควิดด้วย ซึ่งปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องประชาชนพรรคกล้าไม่รีรอที่จะเสนอแนวทางแก้ไขให้กับนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล สะท้อนตามข้อเท็จจริงไม่ดราม่า ว่าตอนนี้ประชาชนเดือดร้อน
ทั้งนี้นายกรณ์ กล่าวว่าในสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ยังคงรอความชัดเจนว่าจะมีเลือกตั้งเมื่อใด แต่ภารกิจเฉพาะหน้าคือเลือกตั้งซ่อมใน 3 เขตนี้ ยอมรับว่ามีอำนาจเงินมหาศาลและอำนาจรัฐเข้ามาแทรกแซงชักชวนให้ประชาชนเลือกเป็นเหมือนการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ซึ่งมีการใช้เงินอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะในภาคใต้ มีการใช้เงินอย่างมากและมากขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่มีใครสามารถเอาผิดใครได้ถือเป็นการบิดเบือนเจตนารมย์และความตั้งใจระบอบประชาธิปไตย ทำให้คนดีเข้ามาทำงานการเมืองได้ยากขึ้น ฝากไปถึงผู้มีอำนาจโดยเฉพาะคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือกกต.ยังไม่มีมาตรการจริงจังในการปราบปรามซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ และถือเป็นจิตสำนึกของผู้ที่อาสาตัวลงสมัครว่าการแข่งขันแนวระบอบประชาธิปไตย ต้องเป็นไปตามกฎกติกากฎหมายบ้านเมือง ในส่วนของประชาชนก็ต้องพิจารณาให้ดีว่าคนที่พร้อมจะซื้อสิทธิ์มีความตั้งใจอย่างไรเมื่อขายสิทธิ์ไปแล้วจะไปเรียกร้องอะไรไม่ได้ ขอให้นึกถึงอนาคตลูกหลานและอนาคตของบ้านเมืองขอให้เลือกคนดีๆ มาทำงานซึ่งส่วนใหญ่คนดีจะไม่ใช้เงินในการซื้อเสียงเพราะอาสาเข้ามาโดยขายความรู้ความสามารถขอให้โอกาสคนดีเข้าไปทำงาน
นอกจากนี้นายกรณ์กล่าวถึงระบบการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ ว่าทางที่ดียึดประชาชนเป็นหลักว่ามีความเข้าใจที่ง่ายที่สุดดีกว่า เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและให้เกิดความชัดเจนในตัวบุคคล เมื่อย้อนไปในอดีตที่เคยใช้บัตร 2 ใบในปี 2548 เบอร์เดียวทั่วประเทศ ก็ทำให้ประชาชนจำง่ายดีขอให้ยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง
ส่วนการนับคะแนนเพื่อให้ได้ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อนั้น นายกรณ์ ระบุว่าเป็นการกำหนดกติกาโดยพรรคใหญ่ เพราะให้เกิดความได้เปรียบซึ่งพรรคกล้าก็มั่นใจว่ามีประชาชนที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองให้มีความพัฒนาและสร้างสรรค์และมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งพรรคกล้า ยึดมั่นการเมืองสร้างสรรค์ทำแต่เรื่องดีๆกับประชาชนแก่บ้านเมือง ตั้งใจว่าจะสู้เต็มที่กับพรรคใหญ่ที่ตั้งกติกาการเลือกตั้งมา พร้อมกับเชื่อว่าผลการเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้จะสะท้อนความรู้สึกของประชาชนได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งเรื่องอื่นไม่กลัวกลัวเรื่องเดียวคือการใช้อำนาจเงินที่ใช้มากขึ้นในวงการการเมืองไทย.-สำนักข่าวไทย