พรรคเพื่อไทย 1 พ.ย.- “เพื่อไทย” เปิดตัวทีมโฆษกพรรค รับการปรับโครงสร้างพรรคชุดใหญ่ ยัน ผลักดันแก้ ม.112-ม.116 จากข้อเรียกร้องของประชาชน ชี้ สภาคือที่แก้ไขความขัดแย้งในสังคมได้ดีที่สุด
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรค น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค และทีมรองโฆษกพรรค ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวทีมสื่อสารการเมือง และทีมรองโฆษกพรรคเพื่อไทยชุดใหม่
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า นี่คือภาพแรกของคณะกรรมการสื่อสารการเมืองของพรรคเพื่อไทยมีคำกล่าวว่า ในสภาวการณ์ที่มืดมิดสิ่งที่เราต้องทำเป็นอย่างแรกคือการแสวงหาแสงสว่าง ดังนั้น สิ่งที่พรรคเพื่อไทยพยายามทำมาตลอด คือ การพยายามแสวงหาทางออกท่ามกลางสภาวะวิกฤติของประเทศ เราพยายามปรับปรุง และเปลี่ยนโครงสร้างและรูปแบบการทำงาน พยายามดิสรัปเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนให้มากที่สุด และก็เดินทางมาถึงวันนี้ วันที่เป็นจุดเริ่มต้นของหลายอย่าง ทั้งการปิดประเทศ เปิดสภา และเปิดโรงเรียน และเป็นนิมิตรหมายที่ดีในการเปิดตัวคณะทำงานด้านการสื่อสารของพรรคเพื่อไทย
ด้าน น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า สำหรับทีมรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย 1.นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ จะทำงานด้านเศรษฐกิจและการเมือง 2. น.ส.ณหทัย เล็กบํารุง ทำงานด้านซอร์ฟพาวเวอร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ 3.น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา ทำงานด้านเศรษฐกิจ กฎหมาย และการเมือง และ 4.น.ส.ชญาภา สินธุไพร ทำงานประสานงานกับสภาผู้แทนราษฎร ด้านการต่างประเทศ และการสื่อสารด้านโซเชียลมีเดีย
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทย มีท่าทีเรื่องการผลักดันเรื่องการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 และมาตรา 116 นั้น น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการชุมนุมของกลุ่มผู้เรียกร้อง พรรคเพื่อไทยไม่ได้นิ่งเฉย โดยได้รวบรวมข้อเรียกร้องจากการชุมนุม เพื่อนำมาสู้ที่ประชุม และผลักดันข้อเรียกร้องเหล่านั้นเข้าสู่ที่ประชุมสภาต่อไป เพื่อให้เกิดการรับฟังเสียงของประชาชนให้มากที่สุด เพราะเราเห็นว่าเสียงของทุกคนมีคุณค่า และมีความสำคัญที่ไม่สามารถมองข้าม และละทิ้งไปได้ นี่จึงเป็นที่มาของแถลงการณ์พรรคเพื่อไทย เพื่อให้เกิดการทบทวนมาตรา 112 และมาตรา 116 ไปจนถึง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และพ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ไปจนถึงการติดตาม และเรียกร้องการให้ประกันตัวแก่นักเคลื่อนไหว หรือผู้เห็นต่างทางการเมือง โดยเราจะใช้ช่องทางสภาผู้แทนราษฎรอย่างถึงที่สุดที่เราต้องไม่นิ่งนอนใจให้เรื่องเหล่านี้เงียบไป
ด้านนายอนุสรณ์ กล่าวว่า ข้อเสนอดังกล่าวเป็นเสรีภาพทางความคิด เพื่อไม่ให้ผู้เห็นต่างกลายเป็นผู้ถูกจองจำ จะดำเนินการต่ออย่างป็นรูปธรรม นำข้อเสนอของประชาชนเข้าสู่สภาฯ โดยจะสอดประสานการทำงานอย่างใกล้ชิด เอาจริงเอาจังผลักดันข้อรียกร้องที่เป็นประโยชน์ของประชาชน ดังนั้นแถลงการณ์ดังกล่าวเป็นการต่อยอดจากที่พรรคเพื่อไทยได้แสดงวิสัยทัศน์ไปก่อนหน้านี้ ว่า เราเรียร้องให้ปล่อยนักโทษทางความคิด รวมทั้งต้อได้รับสิทธิขั้นพื้นฐาน เช่น การประกันตัว

ส่วนกังวลหรือไม่ว่า การเสนอแก้มาตรา 112 และมาตรา 116 จะเป็นชนวนความขัดแย้งใหม่ในสังคม น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีความชัดเจนว่า สิ่งนี้คือสิ่งที่เรารับฟังข้อเรียกร้องมาจากประชาชน ถ้ามีความขัดแย้งก็เชื่อว่า สภาฯ จะเป็นที่ที่แก้ไขความขัดแย้งในสังคมได้ดีที่สุด นอกจากนี้ ตนเชื่อว่า หากมีแนวทางการแก้ไขข้อเรียกร้องต่างๆที่ตรงกันตนเชื่อว่าจะสามารถผ่านวิกฤติศรัทธาที่ประชาชนมีต่อรัฐบาลไปได้ และมั่นใจว่า สิ่งที่ทำถ้าประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วม จะเกิดการแก้ไขไปในทิศทางเดียวกัน และจะเป็นการแก้ปัญหาความขัดแย้งในระยะยาว
ด้านน.ส.อรุณี กล่าวว่า อย่างแรกรัฐจะต้องไม่เป็นต้นตอของความขัดแย้งนั้น การบังคับใช้กฎหมายอย่างเลือกปฏิบัติต่อประชาชนที่มีความเห็นต่างทางการเมือง คือการสร้างความขัดแย้งให้กับสังคม ดังนั้นกระบวนการยุติธรรมต้องกลับมายึดมั่นในหลักนิติรัฐ นิติธรรม เพื่อธำรงไว้ซึ่งสังคมที่เท่าเทียม และเป็นประชาธิปไตย.-สำนักข่าวไทย