รัฐสภา 7 ก.ค.-“มงคลกิตติ์” เตรียมแจ้งความปลัดอุตสาหกรรม อธิบดีกรมโรงงาน และเจ้าของโรงงานหมิงตี้ฐานปล่อยปละละเลย ไม่ทำตามพ.ร.บ.วัตถุอันตรายเป็นเหตุทำโรงงานระเบิด เก็บ “สุริยะ” ไว้ซักฟอก เร่งนำสารสไตรีนออกนอกพื้นที่ด่วน หวั่นระเบิดซ้ำ
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า ได้ลงไปในพื้นที่เกิดเหตุระเบิดโรงงานบริษัทหมิงตี้เคมีคอล เที่ยง วานนี้(6ก.ค.) และทราบว่ามีสารสไตรีนโมโนเมอร์อีก1,600ตันอยู่ในพื้นที่ จึงเกรงว่าจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดระเบิด เหมือนที่เลบานอนเพราะอุณหภูมิสูงขึ้น จึงอยากให้หาวิธีนำออกมานอกพื้นที่เพื่อมาทำลายที่โรงงานสระบุรีหรือฝังดินหนา6-7 นิ้ว นอกจากนี้ศูนย์พักพิง 8 ศูนย์ที่รัฐบาลเปิดไว้ช่วยเหลือ พบว่ามีชาวต่างด้าวจำนวนมากที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จึงขอให้ขยายพื้นที่ศูนย์เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดคลัสเตอร์ใหม่ ซึ่งการกำหนดฉีดวัคซีนเฉพาะคนไทย ไม่เกิดประโยชน์ต้องครอบคลุมคนงานต่างด้าวด้วย
“พรุ่งนี้(8 ก.ค.) จะไปกองปราบปราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดี ข้าราชการประจำ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม อธิบดีกรมโรงงานและเจ้าของโรงงาน ฐานปล่อยปละละเลย ไม่ทำตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย ส่วน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จะไม่แจ้งความในครั้งนี้ แต่จะเก็บไว้อภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยประชุมสภาฯนี้” นายมงคลกิตติ์ กล่าว
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้สถานการณ์ให้อากาศพิษเจือจาง เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตปกติ กำหนดระเบียบคุมสารเคมีไม่ให้มีการจัดเก็บมากเกินไป หรือต้องป้องกันสารรั่วไหล ควรจัดการพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรมออกจากชุมชนโดยด่วน ออกกฎหมายหรือดำเนินการให้โรงงานอุตสาหกรรม ออกจากพื้นที่ชุมชนโดนด่วน ตรวจสอบพื้นที่โรงงานในไทยให้จำกัดปริมาณสารเคมี รวมถึงเยียวยาครอบครัวกู้ภัย เยียวยา ซ่อมแซมบ้านให้ประชาชน บริการตรวจสุขภาพวัดปริมาณสารสไตรีนโมโนเมอร์ หากพบต้องดูแลรักษาให้หาย นอกจากนี้ต้อง ปรับปรุงสวัสดิการหน่วยกู้ภัย กำหนดให้เป็นอาชีพที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษ ส่วนโรงงานต้นเหตุหากตรวจพบว่าประมาทให้ดำเนินคดี และให้ดูแลพนักงานที่ได้รับผลกระทบ.-สำนักข่าวไทย