“อนุทิน” ยืนยันตัวเลขติดเชื้อเพิ่มมีผลต่อการผ่อนคลายมาตรการ

กรุงเทพฯ 25 เม.ย. –“อนุทิน” ยืนยัน ผู้ลักลอบเข้าเมือง 42 คนที่ติดโควิด-19 ต้องแยกรักษาตัวไม่ปะปนกับคนในประเทศ ยอมรับตัวเลขติดเชื้อเพิ่มมีผลต่อการผ่อนคลายมาตรการ 


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายด้านชายแดนจ.สงขลา จำนวน 47 คน และมีจำนวน 42 คนที่ติดเชื้อโควิด-19 เป็นสิ่งที่ไทยพยามเฝ้าระวังป้องกันมาโดยตลอด โดยทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ทำให้สามารถกักตัวไว้ได้ทั้งหมด เพราะหากคนเหล่าเหล่านี้เข้ามาจะสร้างความลำบากในการควบคุมโรค ยืนยันว่าจะไม่ปล่อยให้หลุดเข้าไปในพื้นที่ชุมชนแม้แต่คนเดียว

“เพื่อลดความสูญเสีย ลดปัญหาในการควบคุมโรค ทางกระทรวงสาธารณสุข จะเสนอพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและผู้อำนวยการศบค. ให้มีคำสั่งระงับการเดินทางเข้ามาของชาวต่างชาติ เพราะเราสามารถควบคุมโรคภายในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว แต่ถ้ามีเคสหลุดเข้ามาจากต่างชาติ การควบคุมโรคจะประสบปัญหา ตอนนี้เราเดินมาได้ไกลแล้ว ไม่ต้องการเห็นความผิดพลาดเกิดขึ้น” นายอนุทิน กล่าว


ส่วนกรณีกลุ่มคนลักลอบเข้ามาผิดกฎหมาย ทำให้ยอดการติดเชื้อภายในประเทศเพิ่มขึ้น จะมีผลต่อการคลายล็อคหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า การเข้ามาแบบนี้ทำให้การคุมโรคโดยเฉพาะตัวเลขภายในประเทศที่เดิมลดลงเรื่อย ๆ 10 กว่าคนกลับมาสูงขึ้น ขอย้ำว่ากระทรวงสาธารณสุขยังไม่ต้องการให้มีการเดินทางเข้ามาจากต่างประเทศในลักษณะนี้ เพราะจะเป็นอุปสรรคต่อการควบคุมโรคระบาดภายในประเทศ 

“ต้องถือว่าการทำงานของด่านควบคุมโรคร่วมกับสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองทำงานกันอย่างหนัก จนสามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายได้ ทันทีที่พบ กระทรวงสาธารณสุขได้ตรวจค้นหาโรคและพบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งถือว่าทุกฝ่ายได้เฝ้าระวังอย่างเต็มที่” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า จะไม่ปกปิดข้อมูลต่อประชาชน เพราะทันทีที่พบข้อมูล จะแจ้งข้อเท็จจริงให้ประชาชนทราบ เพื่อให้ทุกฝ่ายช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ไขปัญหา และเห็นว่าสถานการณ์ในขณะนี้ไทยสามารถควบคุมการติดเชื้อภายในประเทศได้ แต่หากมีคนเดินทางเข้ามาจากนอกประเทศโดยเฉพาะประเทศตามแนวชายแดน จะควบคุมได้ยากขึ้น


“ย้ำว่าผู้ลักลอบเข้าเมืองทั้ง 47 คน จะต้องไม่เข้าไปรวมกลุ่มกับผู้ป่วยที่เป็นคนไทยหรือผู้ป่วยที่อยู่ตามโรงพยาบาลโดยเด็ดขาด ต้องแยกรักษาในสถานที่ที่จัดไว้จะใช้รูปแบบโรงพยาบาลสนาม จัด Cohort ward ห้องพักของคนไข้แบบรวมให้กักตัวและรักษาให้หายตามมาตรฐานสาธารณสุขโดยไม่ปะปน กับคนไทย” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่น และคลายความกังวล เพราะจะไม่ยอมให้กลุ่มคนเหล่านี้ มาส่งผลกระทบต่อประชาชนในประเทศ  และขอให้มั่นใจในบุคลากรทางการแพทย์ของไทย ที่มีความรู้ความสามารถและมีกำลังคนเพียงพอที่จะดูแลผู้ติดเชื้อเหล่านี้โดยไม่กระทบต่อการรักษาพยาบาลของประชาชนคนไทยโดยเด็ดขาด.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

“พิธา-ทักษิณ” ช่วยหาเสียงผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่

“พิธา” ลงพื้นที่ตลาดต้นลำไย จ.เชียงใหม่ พบปะพี่น้องประชาชน ด้านพรรคเพื่อไทย “ทักษิณ” ขึ้นเวทีแนะนำ “พิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง” ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่

ไตรภาคีเคาะแล้ว! ค่าจ้างขั้นต่ำ มีผล 1 ม.ค.68

ไตรภาคี เคาะค่าจ้าง 400 บาท ลูกจ้าง 4 จังหวัด 1 อำเภอ “ภูเก็ต-ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี-ระยอง-อ.เกาะสมุย” มีผล 1 ม.ค.68 ขึ้นค่าจ้าง 7-55 บาท 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้วันละ 337 บาท

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค ไม่ให้ระบาดในไทย พร้อมยกมาตรรักษาสุขภาวะในพื้นที่อย่างเข้มข้น