จ.นครราชสีมา 25 เม.ย.-“เทวัญ” ลงพื้นที่นครราชสีมามอบถุงยังชีพชุดหน้ากากอนามัยช่วยชาวโคราชฝ่าวิกฤติโควิด – 19 คาดอังคารหน้าชัดเจนเรื่องมาตรการผ่อนปรน พร้อมหาแนวทาช่วยพระสงฆ์ออกบิณฑบาตไม่ได้
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะร่วมกันมอบถุงยังชีพข้าวสารอาหารแห้ง และชุดหน้ากากผ้า ตามโครงการคนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกันร่วมฝ่าวิกฤติโควิด-19ให้กับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จำนวน 125 คน ที่วัดสุทธจินดาวรวิหาร เขตเทศบาลนครราชสีมา บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเทศกิจร่วมกันอำนวยความสะดวก รวมทั้งตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิร่างกาย ปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค จากนั้นได้ไปมอบถุงยังชีพข้าวสารอาหารแห้งฯ ที่วัดหงษาราม วัดหนองไผ่ล้อมและวัดท่าตะโก อ.เมือง ฯ อีกแห่งละ 125 คน
นายเทวัญ กล่าวว่า วันนี้(25 เม.ย.) มอบถุงยังชีพ พร้อมกับถุงน้ำใจจากภาคเอกชนโดยเฉพาะสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ภาคธุรกิจ องค์กรมูลนิธิในพื้นที่ได้รวบรวมสิ่งของมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชน สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนต้องการเงินช่วยเหลือเยียวยาจากรัฐบาล ยืนยันว่าไม่ต้องวิตกกังวล ขณะนี้เปิดให้ดำเนินการทบทวนสิทธิหลายช่องทาง หากไม่สามารถดำเนินการผ่านโทรศัพท์แบบออนไลน์ สามารถไปดำเนินการที่ศาลากลางจังหวัดหรือที่ว่าการอำเภอต่าง ๆ ให้เจ้าหน้าที่ช่วยดำเนินการให้
“เรื่องปลดล็อคคำสั่งเคอร์ฟิว รวมทั้งมาตรการต่าง ๆ ภายในสัปดาห์หน้า จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะกล่าวถึงความคืบหน้าของมาตรการต่าง ๆ ที่จะสามารถช่วยคลี่คลายสถานการณ์วิกฤติ ซึ่งต้องรอฟังจากนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ ศบค. ซึ่งคาดว่าจะชัดเจนภายในวันอังคารที่ 28 เม.ย.นี้” นายเทวัญ กล่าว
ส่วนการดูแลและตรวจคัดกรองพระสงฆ์และผู้เกี่ยวข้องที่เดินทางกลับจากประเทศอินเดียตั้งแต่วันที่ 24 เมษาน จำนวน 171 ราย เป็นพระสงฆ์ จำนวน 104 รูป แม่ชี –ญาติธรรม 67 ราย นายเทวัญ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่าพบการติดเชื้อ หรือมีอาการป่วยไข้ มาตรการตรวจสอบคัดกรองต่าง ๆที่ท่าอากาศยานดอนเมืองเป็นมาตรการเดียวกันกับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อมีประชาชนเดินทางกลับจากต่างประเทศ ต้องตรวจคัดกรองตามระเบียบขั้นตอนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ อย่างเคร่งครัด และเข้าสู่สถานที่กักตัวเพื่อเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
“สำหรับพระสงฆ์ อาจมีอุปสรรคในการดำเนินการตามพระธรรมวินัย จึงจัดพื้นที่โรงแรมเป็นสถานที่กักกันเหมาะสมสำหรับพระสงฆ์โดยขออนุญาตมหาเถรสมาคม ให้โรงแรมสามารถเป็นเขตสังฆาวาส หรือเรียกว่าที่พักของสงฆ์ได้ โดยขอความร่วมมือพระสงฆ์ที่มีวัดอยู่ใกล้เคียงโรงแรมที่จัดเป็นสถานที่กักกัน คอยรับประเคนภัตตาหารมาส่งต่อให้พระสงฆ์ที่อยู่ในสถานที่กักกันเป็นระยะเวลา 14 วัน” นายเทวัญ กล่าว
ส่วนการช่วยเหลือเยียวยาพระสงฆ์ทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากปิดวัด งดกิจกรรมทางศาสนาในวันสำคัญต่าง ๆ โดยเฉพาะกิจกรรมที่ต้องรวมตัวกันแออัดนายเทวัญ กล่าวว่า วัดบางแห่งได้รับผลกระทบโดยตรง เนื่องจากขาดปัจจัยที่จะนำไปจ่ายค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า รวมทั้งค่าภัตตาหารเนื่องจากไม่สามารถบิณฑบาตได้ ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กำลังหาแนวทางช่วยเหลือโดยต้องประชุมหารือกันอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย