กระทรวงมหาดไทย 5 มี.ค.-“อนุทิน” เผยเตรียมประกาศ 4 ประเทศสุ่มเสี่ยง โควิด-19 แนะโซเชียลอย่าตระหนกผีน้อยกลับไทย ขอมั่นใจมาตรการคัดกรอง – บุคลากรทางการแพทย์
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีกลุ่มแรงงานไทยผิดกฎหมายที่เดินทางกลับจากเกาหลีใต้ และไม่กักตัวอยู่ที่บ้าน แต่มีภาพปรากฎตามที่ต่าง ๆ ในโลกโซเชียล ว่า ขออย่ากังวลใจ เพราะมีมาตรการคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางเข้าประเทศ และบุคคลเหล่านี้ผ่านการคัดกรองแล้วไม่พบว่ามีอาการไข้ จึงให้กลุ่มคนเหล่านี้แจ้งสถานที่อยู่อาศัยและเบอร์ติดต่อกลับ ส่วนคนที่กลับมาแล้วมีอาการไข้ ได้คัดแยกไปรักษาตัวแล้ว ขณะนี้ยังไม่มีประกาศว่าประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นประเทศสุ่มเสี่ยงอันตราย แต่วันนี้จะประกาศ 4 ประเทศสุ่มเสี่ยงที่มีการระบาดของโรคโควิด -19
ส่วนจะใช้อำนาจของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดออกคำสั่งกักตัวได้หรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หากพบผู้แสดงอาการไข้ เจ้าหน้าที่จะนำตัวไปรักษาทันที ซึ่งเป็นข้อสำคัญการควบคุมโรคระบาด เมื่อพบผู้ป่วยแล้ว จะต้องเข้ารับการรักษาทันที ขณะนี้มีผู้ป่วยที่โรคโควิด -19 จำนวน 43 คน กลับบ้านแล้ว 32 คน อยู่ระหว่างการรักษา 10 คน โรคนี้ไม่ใช่ทุกคนเป็นแล้วจะมีอาการ ร้ายแรงทุกคน
นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อต้องเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก ต้องป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ ส่วนใครที่สุขภาพไม่แข็งแรง หากได้รับเชื้อต้องเข้าสู่การรักษา ขอให้เชื่อมั่นระบบการคัดกรองและบุคลากรทางการแพทย์ ขณะนี้ยาที่ใช้ยังไม่ขาดแคลน ยาที่ผลิตในประเทศเพื่อสร้างภูมิต้านทานไวรัสโควิด -19 ก็พร้อม อย่าไปดูว่าป่วยกี่คน เพราะแต่ละคนต้องเดินทาง ต้องทำมาหากิน ทุกคนต้องระมัดระวัง หากมีคนโชคไม่ดีก็รักษากันไป ขอให้มองในหลักนี้
“ทุกวันนี้ความกดดันในกระแสโซเชียล ความกดดันจากคนที่ตื่นตระหนก ถ้ายิ่งกดดัน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขก็ไม่กล้าทำอะไร ตัองมากางตำรา ไม่ใช้ดุลพินิจ อันนั้นจะเป็นอันตรายอย่างมาก ขอให้มั่นใจประสบการณ์ของกระทรวงสาธารณสุข แต่ไม่ต้องมั่นใจในตัวรัฐมนตรี สิ่งที่รัฐมนตรีทำคือการสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ เพราะเชื่อว่าจะทำในสิ่งที่ไม่ให้เกิดการระบาดของโรคให้ได้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่อยากให้มองความสำคัญจำนวนตัวเลขกลุ่มผีน้อยที่เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย แต่เมื่อป่วย ต้องเข้ารับการรักษาแต่จะห้ามคนไม่ป่วยกลับบ้านหรือไม่ให้ทำงานไม่ได้ สิ่งสำคัญ คือต้องหาผู้ที่ป่วยให้มารายงานตัวเพื่อรักษา ซึ่งเชื้อนี้ แม้จะไม่มียารักษาโดยตรง แต่มียาที่ประคับประคองไม่ให้เลวร้ายลงไป
“ใครที่เดินทางกลับมาจากประเทศสุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะแดกูและคยองซังแล้วมีอาการไข้ ให้ไปโรงพยาบาล ต้องช่วยกันแบบนี้แล้วจะไม่เกิดปัญหา แม้จะยังไม่มีมาตรการบังคับให้กักตัว แต่ขอให้ใช้สปิริต ความเป็นคนในชาติ ห่วงใยคนอื่นร่วมกัน ใส่หน้ากากอนามัย ไม่ใช้ของร่วมกันและล้างมือบ่อย ๆ นี่คือสูตรสำเร็จของการต่อสู้กับโรคโควิด -19” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว.-สำนักข่าวไทย