กรุงเทพฯ 24 ม.ค.- รวบแก๊งลวงโลก อ้างเป็นอดีตแม่ทัพภาคที่ 1 และ อดีตเลขาธิการ ปปง.หลอกเหยื่อ สูญกว่า 239 ล้านบาท
พันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม แถลงจับกุม นายอภิชาติ นายทรรศพล นายปกรณ์ นางพัชราภรณ์ และนางสาวภัทราภรณ์ (สงวนนามสกุล) 4 ผู้ต้องหาแก๊งลวงโลก อ้างตัวเป็นอดีตแม่ทัพภาคที่1 และ อดีตเลขาธิการ ปปง. หลอกลวงเหยื่อ สูญเงินและทรัพย์สินรวมกว่า 239 ล้านบาท
โดยตำรวจกองกำกับการ 5 กองปราบฯได้รับแจ้งจาก นายนฤบ สารศักดิ์ ผู้เสียหายว่า ถูกนายอภิชาติและพวก ร่วมกันหลอกลวงเอาทรัพย์สินไปรวมมูลค่ากว่า 239 ล้านบาท โดยอ้างเป็นบุคคลมีชื่อเสียงหลายคน
สำหรับพฤติกรรมของนายอภิชาติและพวก ผู้เสียหายเล่าว่า ได้รู้จักกับกลุ่มผู้ต้องหาจากการทำธุรกิจซื้อขายที่ดินช่วงประมาณปี 2555 โดยผู้ต้องหาได้เริ่มหลอกผู้เสียหายว่าตนเองมีคดีความอยู่ที่ศาลอาญา ทำให้เงินโดนอายัดจำนวน 20 ล้านบาท และได้ขอยืมเงินกับผู้เสียหายจำนวน 15 ล้านบาท อ้างว่านำไปใช้เพื่อถอนอายัดเงินในคดี หากสามารถถอนอายัดเงินได้แล้ว จะให้เงินกับผู้เสียหายทั้งหมด 20 ล้านบาท โดยทำหนังสือสัญญากู้ยืมไว้เป็นหลักฐาน จนถึงปี 2558 ผู้เสียหายได้ทวงถามเงินดังกล่าว โดยผู้ต้องหาได้มีการเขียนเช็คให้ แต่เมื่อมีการนำเช็คไปขึ้นเงิน ปรากฏธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จนต้องเปลี่ยนสัญญากู้เงินและเช็ค หลายครั้ง
ต่อมา นายอภิชาติและพวก หลอกผู้เสียหายว่าเงินที่ถูกศาลอายัดไว้ ถูกถอนอายัดแล้ว แต่ถูก ป.ป.ง. อายัดต่อ ซึ่งผู้ต้องหารู้จักกับพันตำรวจเอก สีหนาท ประยูรรัตน์ อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สามารถช่วยเหลือเรื่องเงินที่ถูกอายัดได้ และยังอ้างอีกว่าพันตำรวจเอกสีหนาท ต้องการเงินเพื่อวิ่งเต้นตำแหน่ง จึงหลอกขอยืมเงินผู้เสียหายอีกจำนวน 34 ล้านบาท โดยมีการปลอมเสียงเป็นพันตำรวจเอกสีหนาท อ้างว่าจะนำเงินทั้งหมดที่อายัดแต่เงินที่ยืมไปรวมกับเงินที่เพิ่มให้อีกเป็นเงิน 100 ล้านบาทฝากคืนกับกลุ่มผู้ต้องหา
จากนั้นช่วงปลายปี 2558 นายอภิชาติ ได้ปลอมเสียงเป็นพลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ตำแหน่งในขณะนั้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 และประธานคณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและมีการหลอกลวงขอยืมเงินอีก 100 ล้านบาทอ้างว่ายืมไปเพื่อซื้อของขวัญให้กับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ และจะให้ผลตอบแทนเป็นโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นเวลา 4 ปีซึ่งจะมีกำไรสูงถึง 1 ล้านบาททำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปให้อีกหลายครั้งรวมอีก 88 ล้านบาท
นอกจากนี้ช่วงต้นปี 2560 ยังมีเรื่องคดี การไถ่ถอนจำนองที่ดินในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งผู้ต้องหาและพวกได้ร่วมกันปลอมแปลงเอกสารสิทธิ์ เพื่อให้ได้ที่ดินของผู้เสียหายไปจำนวน 9 แปลง
ทั้งนี้ หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้งหมด จากการเข้าปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย 3 จุด เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา พร้อมยึดของกลางและทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ โดยเฉพาะรถยนต์หรูยี่ห้อต่างๆ เช่น เฟอร์รารี เมอร์ซิเดส เบนซ์ รวม 11 คัน
เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่มีการรวบรวมพยานหลักฐาน เชื่อว่าจะสามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้ .-สำนักข่าวไทย