กรุงเทพฯ 28 ต.ค.- เครือข่ายเกษตรกรยื่นศาลปกครองเพิกถอนมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่ให้แบน 3 สารเคมี และยังขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้เกษตรกรสามารถใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิดต่อไปก่อน จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด และล่าสุด ศาลปกครองได้กำหนดนัดไต่สวนคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว ในวันพุธที่ 30 ต.ค.นี้
น.ส.อัญชุลี รักษ์อำนวยพร ตัวแทนเครือข่ายเกษตรกร นำเกษตรกรจาก 6 จังหวัด ซึ่งประกอบอาชีพทำสวนผลไม้ ทำไร่ มาที่ศาลปกครอง ยื่นฟ้องคณะกรรมการวัตถุอันตราย คณะกรรมการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานเลือกปฏิบัติ ไม่เป็นธรรมในการมีมติแบน สารเคมี 3 ชนิด จนเกษตรได้รับผลกระทบ สร้างภาระให้แก่เกษตรกรเกินควร และความผิดฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากไม่มีมาตรการใดๆ มารองรับผลกระทบที่เกิดเขึ้น เป็นการละเมิดสิทธิต่อเกษตรกรทั่วประเทศ
โดยขอให้ศาลพิจารณามีคำสั่ง หรือคำพิพากษา ให้เพิกถอนกฎหรือคำสั่งของคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่ให้ระงับผลิต จำหน่าย นำเข้า ครอบครอง การใช้พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ให้กลับไปเป็นวัตถุอันตรายประเภทที่ 3 เช่นเดิม ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขสั่งการกรมวิชาการเกษตรและหน่วยงานในสังกัด กำหนดแผนมาตรการรองรับหรือแก้ไขปัญหาให้เกษตรกร ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย โดยเฉพาะการกำหนดสารทดแทนที่มีราคาใกล้เคียงกันกับสารเคมีทั้ง 3 ชนิดที่ถูกแบน รวมทั้งขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีกำหนดแนวทางบริหารจัดการ 3 สารเคมีในประเทศไทย เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเกษตรกรและผู้บริโภค ทั้งนี้ ขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้เกษตรสามารถใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิดต่อไปก่อน จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด
น.ส.อัญชุลี ยังกล่าวว่า จากนี้เตรียมเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ทบทวนการทำงานของคณะทำงาน 4 ฝ่าย ซึ่งตั้งขึ้นตามบัญชานายกรัฐมนตรี ที่มีมติแบน 3สารเคมี ว่าอาจเป็นการกระทำที่ผิดวัตถุประสงค์ของนายกรัฐมนตรี ที่ให้หารือสร้างความเข้าใจร่วมกันเท่านั้น ไม่ใช่การมีมติแบน
ล่าสุด เมื่อเวลา 18.00 น.เศษ กลุ่มเครือข่ายฯ แจ้งว่า ศาลปกครองได้รับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ ส.26/2562 พร้อมกับรับคำร้องขอให้ศาลไต่สวนเพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวไว้ด้วย โดยศาลกำหนดนัดไต่สวนคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว ในวันพุธที่ 30 ต.ค.นี้ เวลา 10.00 น.-สำนักข่าวไทย