กาญจนบุรี 16 ต.ค.- พ่อของสามเณรวัย 13 ปี พาลูกชายเข้าแจ้งความ หลังถูกเจ้าอาวาสวัดดังกักขังในกุฏินาน 5 วัน พร้อมบังคับให้ทำอนาจารจนสำเร็จความใคร่ ขณะที่พระลูกวัดที่เข้าช่วยเหลือพาสามเณรหลบหนีไปอยู่วัดอื่นเผย ถูกหลวงพ่อต่อว่าและทำร้ายร่างกายในอุโบสถ
ช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ (15 ต.ค.) ชายอายุ 33 ปี พ่อของสามเณรนัท (นามสมมติ) อายุ 13 ปี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรหนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี หลังสามเณรนัทระบุว่า ถูกพระซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่ง กักขังตัวให้อยู่แต่ในกุฏิของหลวงพ่อนาน 5 วัน ไม่ยอมให้ออกไปไหน ก่อนบังคับให้บีบนวด และให้อมอวัยวะเพศจนสำเร็จความใคร่ทุกวัน สามเณรทนไม่ไหวต้องโทรบอกพ่อและพี่สาวให้ช่วยพาตัวย้ายไปอยู่ที่วัดอื่น ก่อนตัดสินใจนำเอาข้อความแชทที่สามเณรเล่าเหตุการณ์ รวมถึงข้อความที่ทางหลวงพ่อส่งให้ตัวสามเณร เข้าแจ้งความกับตำรวจ
ผู้เป็นพ่อกล่าวว่า ลูกชายของตนมาบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดแห่งนี้ตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม 2562 กระทั่งต้นเดือนกันยายน ลูกชายโทรมาหาน้องสาวของตน บอกว่าอยากย้ายวัด ไม่อยากอยู่ที่วัดแห่งนี้ เมื่อเค้นถาม จึงทราบความจริงว่าลูกชายถูกหลวงพ่อล่วงละเมิดทางเพศ หลังทราบเรื่อง ตนบอกให้ลูกชายอดทนและพยายามรวบรวมหลักฐานประสานกับพระในวัด เพื่อหาทางพาลูกชายไปอยู่ที่วัดอื่น
ขณะที่ตัวของสามเณรนัท เล่าเหตุการณ์ว่า หลวงพ่อมักจะเรียกให้ตนเข้าไปหาที่กุฏิ พร้อมบอกให้ช่วยบีบนวด ก่อนจะบังคับให้อมอวัยวะเพศ เป็นแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง บางช่วงถูกหลวงพ่อบังคับให้อยู่แต่ในกุฏิ ไม่ให้ออกไปไหน หากออกไปก็จะถูกตี ด้วยความกลัวหลวงพ่อ เพราะหลวงพ่อมีมีด และชอบบอกว่ามีปืนอยู่ในกุฏิ สามเณรนัท จึงไม่กล้าขัดขืน เมื่อมีโอกาสจึงพยายามโทรหาน้าสาวและโทรบอกพ่อ ให้ช่วยย้ายตนเองไปจำวัดที่วัดอื่น กระทั่งมีพระในวัดที่ยื่นมือเข้าช่วยจนสามารถพาตนออกจากกุฏิหลวงพ่อและย้ายไปอยู่วัดอื่นได้สำเร็จ ซึ่งภายหลังทราบว่าพระรูปดังกล่าวถูกหลวงพ่อด่าว่าและทำร้ายร่างกายเช่นกัน
หลังเข้าแจ้งความแล้ว ตำรวจเตรียมนำตัวสามเณรไปสอบสวนหาข้อมูลร่วมกับเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ ที่สำนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรี หากพบว่ามีมูล เตรียมออกหมายเรียกเจ้าอาวาส เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
ขณะเดียวกัน ที่บริเวณวัดใน อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี มีประชาชนที่ทราบข่าวเรื่องนี้ ซึ่งมีทั้งฝ่ายที่เชื่อและไม่เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องจริง เดินทางมารวมตัวกันที่ศาลาการเปรียญของทางวัด เพื่อรับฟังข้อเท็จจริงของเรื่องที่เกิดขึ้น โดยมีพระครูกาญจนสุตาคม เจ้าคณะอำเภอท่าม่วง พระครูวิสิทกาญจนกิจ เจ้าคณะตำบลวังขนาย นายสมศักดิ์ สำมะโน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี เดินทางเข้าร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง
จากการพูดคุยเจ้าอาวาสที่ถูกกล่าวหาปฏิเสธว่าไม่ได้ล่วงละเมิดทางเพศสามเณรนัท รวมทั้งไม่ได้ทำร้ายร่างกายและชักปืนข่มขู่พระลูกวัดภายในพระอุโบสถของวัดอย่างที่ถูกกล่าวหา มีเพียงการต่อว่าและผลักอก เนื่องจากไม่พอใจที่พระลูกวัดรูปดังกล่าวหายออกไปจากวัดโดยไม่บอกกล่าวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เจ้าคณะอำเภอท่าม่วงมีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งสองกรณีอย่างเร่งด่วนแล้ว ส่วนเรื่องคดีความทั้งสองกรณี ก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจดูแล
ด้านพระลูกวัด อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ช่วยเหลือสามเณรนัท และเป็นผู้ที่ถูกระบุว่า เจ้าอาวาสต่อว่าและทำร้ายร่างกายในพระอุโบสถ กล่าวว่า สาเหตุที่ตนถูกทำร้าย น่าจะมาจากการที่ตนช่วยเหลือสามเณรนัท ประกอบกับตนติเตียนเจ้าอาวาสว่า ไม่ค่อยปฏิบัติกิจของสงฆ์ ทำให้ตนถูกเจ้าอาวาสทำร้าย โดยเตะเข้าที่ไหล่ขวาจนตนล้มลง ก่อนที่เจ้าอาวาสจะเข้ามาเหยียบหน้าอกซ้ำและขึ้นมาตบและทุบตีตนที่บริเวณใบหน้าอีกหลายครั้ง ซึ่งได้เข้าแจ้งความกับตำรวจไว้แล้วเช่น และมารดาก็มาช่วยขนย้ายออกจากวัด ไปจำวัดที่อื่นแทน เพื่อป้องกันความปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย