กฟผ.จับมือ กคช.เปิดตัวบ้านเบอร์ 5

กรุงเทพฯ 22 ก.ย. – กฟผ.จับมือ กคช. เปิดตัวบ้านเบอร์ 5 โครงการเคหะชุมชนฯ บ่อวิน จังหวัดชลบุรี แห่งแรกของประเทศ มุ่งเป้าส่งเสริมที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงานให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ตั้งเป้า 5 ปี  1 แสนหลัง



นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และนายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ร่วมเป็นประธานในพิธีมอบป้ายฉลากบ้านเบอร์ 5 ระหว่าง กฟผ. และ กคช. โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนจังหวัดชลบุรี (บ่อวิน) อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี


นายพัฒนา กล่าวว่า กฟผ.ได้ดำเนินโครงการฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพพลังงานสำหรับบ้านที่อยู่อาศัย หรือโครงการบ้านเบอร์ 5 ตั้งแต่ปี 2560 โดยลงนามบันทึกความร่วมมือกับ กคช.ในการพัฒนาปรับปรุงการออกแบบ รวมถึงเลือกใช้วัสดุการก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพสูง และอุปกรณ์เบอร์ 5 ในโครงการบ้านที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ซึ่งปี 2561 สามารถยกระดับให้เกิดการออกแบบและก่อสร้างตามเกณฑ์บ้านประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 นำร่องโครงการเคหะชุมชนของ กคช. 8 พื้นที่ทั่วประเทศ โดยโครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนเชิงสังคม ชลบุรี (บ่อวิน) ระยะที่ 2 เป็นโครงการบ้านนำร่องแห่งแรกของโครงการบ้านเบอร์ 5 โดย กฟผ.รับรองแบบตามเกณฑ์ของบ้านเบอร์ 5 รวมถึงทำการประเมินผลการประหยัดพลังงาน สามารถส่งผลให้ประเทศประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 415,000 หน่วยต่อปี ลดภาระค่าใช้จ่ายไฟฟ้าของผู้อาศัยประมาณ 1,660,000 บาทต่อปี และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ประมาณ 210 ตันต่อปี

นายธัชพล กล่าวว่า โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชน จังหวัดชลบุรี (บ่อวิน) ระยะที่ 2 เป็นหนึ่งในโครงการที่ผ่านเกณฑ์การประเมินประสิทธิภาพพลังงานสำหรับบ้านอยู่อาศัย (เบอร์ 5) ที่จัดสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการด้านที่อยู่อาศัยของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ด้วยโครงการที่อยู่อาศัยระดับคุณภาพที่ได้มาตรฐานและเพียบพร้อมไปด้วยสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ รวมถึงสิ่งแวดล้อมที่ดี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้อยู่อาศัย ทั้งยังเป็นการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในสังคมตามนโยบายของรัฐบาล ด้วยการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยโครงการตั้งอยู่ที่บริเวณตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ขนาดที่ดินทั้งโครงการประมาณ 45.56 ไร่ จัดสร้างเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 415 หน่วย ขนาดพื้นที่ประมาณ 21 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยภายใน ประมาณ 54 ตารางเมตร และพื้นที่ใช้สอยภายนอก ประมาณ 5.5 ตารางเมตร ประกอบด้วย 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และพื้นที่รับแขก ซึ่งโครงการนำเกณฑ์ประเมินโครงการชุมชนน่าอยู่น่าสบายอย่างยั่งยืน (ECO VILLAGE) และหลักเกณฑ์ในการออกแบบสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับทุกคน (UNIVERSAL DESIGN) มาใช้เป็นแนวทางในการออกแบบวางผังโครงการและออกแบบอาคาร

สำหรับโครงการฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพพลังงานสำหรับบ้านที่อยู่อาศัย เป็นมาตรการหนึ่งที่สนับสนุนให้เกิดการยกระดับการใช้พลังงานในภาคที่อยู่อาศัยของประเทศ รองรับเป้าหมายการลดการใช้ไฟฟ้าตามกรอบแผนอนุรักษ์พลังงานปี 2558 – 2579 โดยเชื่อมโยงเกณฑ์ประเมินพลังงานกับมาตรฐานประสิทธิภาพอาคารขั้นต่ำ หรือ Building Energy Code ซึ่งจะมีการขยายผลสู่ความร่วมมือกับผู้ประกอบการธุรกิจภาคที่อยู่อาศัยในภาคเอกชนต่อไป โดยมีเป้าหมายให้เกิดการสร้างบ้านเบอร์ 5 ทั่วประเทศ ประมาณ 100,000 หลัง ภายในปี 2567.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว