ลุ้นค่าไฟ หลังแม่เมาะผลิตไฟฟ้า ”ต่ำ” เหตุล่าช้าขุดเหมือง

กรุงเทพฯ 3 เม.ย. – กฟผ.เดินหน้างานจ้างเหมาขุด-ขนดินและถ่านที่เหมืองแม่เมาะ สัญญาที่ 8/1 พร้อมยืนยันความโปร่งใส โดยลงนามสัญญาจ้าง กับ บมจ.สหกลอิควิปเมนท์ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 ระทึก! ค่าไฟพุ่งหลังความล่าช้าลงนามเกือบ 4 เดือน เพราะถูกตรวจสอบ ทำให้โรงไฟฟ้าแม่เมาะไม่สามารถเดินเครื่องได้เต็มกำลังการผลิตช่วงเดือน เม.ย.นี้


นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. ได้ลงนามสัญญาจ้างขุด-ขนดินและถ่านที่เหมืองแม่เมาะ สัญญาที่ 8/1 กับบริษัท สหกลอิควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 เรียบร้อยแล้ว จากนั้น กฟผ.ได้เร่งรัดดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ส่งมอบพื้นที่ให้บริษัทผู้รับจ้าง และเริ่มดำเนินงานขุดคัดแยกและขนถ่านลิกไนต์ทันทีตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา

งานจ้างเหมาขุด-ขนดินและถ่านที่เหมืองแม่เมาะ สัญญาที่ 8/1 ต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน เนื่องจากมีความล่าช้าจากแผนที่กำหนดไว้มาก กฟผ.ยังยืนยันความจำเป็นที่ต้องเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินของโรงไฟฟ้าแม่เมาะเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วิกฤตพลังงานปี 2565 เพราะถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงที่มีต้นทุนต่ำ ช่วยลดการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่มีราคาแพงและยังมีความเสี่ยงต่อความผันผวนของราคา เพื่อพยุงราคาค่าไฟฟ้าของประเทศไม่ให้สูงเกินไป รวมถึง กฟผ. ยังต้องแบกรับค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ไว้จนถึงวันนี้ เป็นเหตุให้ กฟผ.ต้องนำถ่านหินภายใต้สัญญาเดิม (สัญญา 8 และ 9) มาใช้ก่อนกำหนด จนปริมาณถ่านหินครบก่อนสิ้นสุดสัญญา


กฟผ.ในฐานะหน่วยงานที่ต้องบริหารจัดการเชื้อเพลิงถ่านหินเพื่อไม่ให้การผลิตไฟฟ้าต้องหยุดชะงัก จึงจำเป็นต้องเร่งรัดการจ้างเหมาขุด-ขนดินและถ่านที่เหมืองแม่เมาะ สัญญาที่ 8/1 เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและมีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม กฟผ. จึงเลือกใช้วิธีการจ้างเหมาโดยวิธีพิเศษแบบหลายราย ไม่ใช่วิธีพิเศษแบบเฉพาะเจาะจงรายเดียวอย่างที่หลายคนเข้าใจ ผ่านขั้นตอนการพิจารณาโดยกรรมการคณะต่าง ๆ อย่างถูกต้อง เป็นไปตามระเบียบทุกขั้นตอน รวมถึงให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงงานจ้างเหมาขุด-ขนดินและถ่านที่เหมืองแม่เมาะฯ ที่แต่งตั้งโดยกระทรวงพลังงานอย่างเต็มที่เพื่อให้กระบวนการสอบสวนดำเนินการได้โดยเร็วที่สุด ทั้งการเข้าไปให้ข้อมูลในส่วนของผู้บริหาร กฟผ. ตรงตามเวลานัดหมายทุกครั้ง ไม่เคยล่าช้า เพราะเราทราบดีว่า หากล่าช้าจะยิ่งทำให้เกิดความเสียหายซ้ำเติมขึ้นไปอีก รวมถึงให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้ข้อมูลและส่งเอกสารโดยเร็วที่สุดเมื่อได้รับการร้องขอ

อย่างไรก็ตาม กฟผ.มีความจำเป็นต้องบริหารถ่านหินให้มีปริมาณสำรองที่เพียงพอ ทำให้โรงไฟฟ้าแม่เมาะไม่สามารถเดินเครื่องได้เต็มกำลังการผลิตในช่วงเดือนเมษายนนี้ และจะสามารถกลับมาเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า กฟผ. สามารถบริหารจัดการเชื้อเพลิงถ่านหินที่มีอยู่เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมิให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงด้านการผลิตไฟฟ้าและต้นทุนราคาพลังงานของประเทศอย่างเต็มความสามารถ.-511-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งความผู้ว่าสตง.

2 พิธีกรดังเข้าแจ้งความกล่าวโทษผู้ว่าฯ สตง. เหตุตึก สตง.ถล่ม

สองพิธีกรชื่อดัง เข้าแจ้งความกล่าวโทษ ผู้ว่าฯ สตง. และอดีตผู้ว่าฯ สตง. เหตุตึก สตง.แห่งใหม่ถล่ม แต่ไม่มีใครรับผิดชอบ มองอาจไม่ชอบมาพากล หวั่นเวลาผ่านไปเอาผิดใครไม่ได้

ก้อนปูนตกใส่รถ

กทพ. แจงก้อนปูนตกใส่รถผู้ใช้ทาง มีคนโยนลงมาจากสะพานลอย

กทพ. ชี้แจงกรณี ก้อนปูนตกใส่รถผู้ใช้ทาง ไม่ได้เกิดจากการกระเทาะของโครงสร้างทางพิเศษบูรพาวิถี แต่มีผู้โยนลงมาจากสะพานลอย จ่อประสานตำรวจตามตัวดำเนินคดี

ปล่อยกู้ดอกโหด

บุกทลาย “บ้านเสี่ยโน้ต” ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยมหาโหด 1,825% ต่อปี

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บุกทลาย “บ้านเสี่ยโน้ต” ปล่อยเงินกู้เฉพาะผู้หญิง คิดดอกเบี้ยมหาโหดร้อยละ 1,825 ต่อปี ไม่จ่ายโดนข่มขู่ประจานไม่เลือกหน้า

ข่าวแนะนำ

โรคแอนแทรกซ์

สธ.เฝ้าระวังโรคแอนแทรกซ์ ย้ำประชาชนอย่าเพิ่งตระหนกตกใจ

หลังมีผู้เสียชีวิตและติดเชื้อแอนแทรกซ์ รวมถึงยังต้องเฝ้าระวังตรวจคัดกรองหลายร้อยคน การระบาดในพื้นที่ภาคอีสานรอบนี้ ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า กรมควบคุมโรคเร่งเฝ้าระวังและควบคุมโรคแอนแทรกซ์ ย้ำพี่น้องประชาชนอย่าเพิ่งตระหนกตกใจ

ประณามยิงประชาชน

แม่ทัพภาคที่ 4 ประณามคนร้ายยิงประชาชนเสียชีวิต-สั่งปรับแผนความปลอดภัย

แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ติดตามเหตุยิงประชาชนใน อ.จะแนะ และ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส สั่งปรับแผนการปฏิบัติในพื้นที่ล่อแหลม เสี่ยงต่อการก่อเหตุรุนแรง สร้างความปลอดภัยสูงสุดในการดูแลประชาชน พร้อมประณามการกระทำโหดเหี้ยม

แอนแทรกซ์

สธ.เผยติดเชื้อแอนแทรกซ์โอกาสตายสูงถึง 80%

สธ. เผยแอนแทรกซ์ เป็นโรคติดต่อร้ายแรง โอกาสเสียชีวิตสูงถึง 80% ส่วน จ.เลย ชาวบ้านพบวัวตายตัว สำนักงานปศุสัตว์ฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้น คาดกินเชือกไนล่อนมัดฟางเข้าไป ทำให้อุดตันทางเดินอาหาร ไม่น่าเกิดจากโรคระบาดสัตว์ เนื่องจากวัวในฝูงที่เหลืออยู่ ยังมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดี