สุราษฎร์ธานี 22 ก.ย.- ผู้การสุราษฎร์ฯ เร่งขยายผลหลังชุดเจ้าหน้าที่ตามล็อคตัว “นายหัว” ได้ที่นครศรีฯ ผู้ต้องหายาเสพติดรายใหญ่หมายจับศาลเกาะสมุย คุมตัวเข้าค้นบ้านพักเปิดเป็นบริษัทให้เช่ารถตู้หรู ด้าน ป.ป.ส.ภาค 8 เตรียมอายัดทรัพย์สืบเส้นทางการเงิน
เมื่อเวลา 10.00 น. (22 ก.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และนายสราวุธ ภักดี ผู้อำนวยการฝ่ายบังคับใช้กฎหมาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ภาค 8 ร่วมแถลงการจับกุมนายสมพงษ์ หรือขลุด เรืองศรี อายุ 63 ปี ในพื้นที่ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเกาะสมุย วันที่ 16 มกราคม 2562 ข้อหาจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) เป็นผู้จำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่เกาะสมุย พร้อมกันนี้ยังได้ตรวจยึดรถยนต์ 2 คัน สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท นาฬิกายี่ห้อหรู 2 เรือนและเงินในบัญชีธนาคารกว่า 10 บัญชี รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 5 ล้านบาท
พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวว่า การสืบสวนขยายผลยาเสพติดในพื้นที่อำเภอเกาะสมุยทราบว่านายสมพงษ์ เคยถูกจับคดีจำหน่ายเฮโรอีนเมื่อปี 2545 ถูกยึดทรัพย์ 21 รายการ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท เมื่อออกมาแล้วปี 2554 ก็มาเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีกและเป็นเครือข่ายเดียวกับนายเสรี ช่วยชนะ ผู้ค้ารายใหญ่ในสุราษฎร์ธานี ที่ถูกจับกุมไปแล้ว
พ.ต.อ.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ในปี 2561 ได้ใช้ปฎิบัติการฟ้าสางสมุย 2 เข้าค้นชุมชนเป้าหมาย และฟ้าสางสมุย 3 พบชื่อ “นายหัว” อยู่ในเครือข่ายเมื่อมีการพิสูจน์พบว่าเป็นนายสมพงษ์ จากนั้นปี 2562 ได้ยึดยาบ้า 40,000 เม็ด ที่มีการใช้ชื่อคนตายที่ อ.ท่าชนะ เตรียมส่งไปที่เกาะสมุย จึงรวบรวมหลักฐานมีผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ออกหมายจับ 21 หมาย จับกุมได้ 12 หมาย ในจำนวนนี้เป็นอดีตสมาชิกอาสารักษาดินแดน (อส.) อ.เกาะสมุย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พล.ต.ต.อภิชาติ และ พ.ต.อ.เชิดพงษ์ ได้ควบคุมตัวนายสมพงษ์ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยัง อ.เกาะสมุย เข้าตรวจค้นบ้านของนายสมพงษ์ อยู่ที่หมู่ 6 ต.บ่อผุด ซึ่งเปิดเป็นห้างหุ้นส่วนบริการให้เช่ารถตู้วีไอพี และขนส่งทั่วราชอาณาจักร โดยเฉพาะรถตู้หรู รุ่นอัลพาร์ด สีดำ นั้นเคยนำไปใช้รับบุคคลสำคัญเมื่อไม่นานมานี้เมื่อเดือนกันยายน 2562 อย่างไรก็ตาม เจ้าพนักงาน ป.ป.ส.ภาค 8 จะยึดทรัพย์สินในเครือข่ายธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยพบว่าเครือข่ายของนายสมพงษ์มีการนำเงินไปทำธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินคาดว่ากว่า 100 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย