โซล 29 ส.ค.- ศาลฎีกาเกาหลีใต้มีคำสั่งให้ศาลอุทธรณ์ทบทวนคำตัดสินรอลงอาญาโทษจำคุกนายลี แจยอง ทายาทซัมซุงคดีติดสินบน เป็นการเคลื่อนไหวที่อาจสั่นคลอนกลุ่มธุรกิจใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้แห่งนี้ที่กำลังมีปัญหาเรื่องถูกญี่ปุ่นจำกัดการนำเข้าวัสดุนำผลิตสินค้า
ศาลฎีกามีคำสั่งให้ศาลอุทธรณ์ทบทวนคำตัดสินเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อนที่ให้รอลงอาญาโทษจำคุกนายลีวัย 50 ปี และยกฟ้องข้อหาส่วนใหญ่ในคดีอื้อฉาวที่ทำให้นางปัก กึนฮเยต้องหลุดจากตำแหน่งประธานาธิบดี ผู้พิพากษาศาลฎีกาอ่านคำสั่งว่า ม้าสามตัวมูลค่า 3,400 ล้านวอน (ราว 85.6 ล้านบาท) ที่ซัมซุงมอบให้เป็นของขวัญแก่นางชเว ซุนซิล คนสนิทของนางปัก อาจถือว่าเป็นการติดสินบน เท่ากับกลับคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ที่ตัดสินว่าไม่ใช่สินบน นอกจากนี้เงิน 1,600 ล้านวอน (ราว 40.28 ล้านบาท) ที่ซัมซุงบริจาคให้แก่องค์กรกีฬาที่ครอบครัวนางชเวเป็นผู้บริหารก็เป็นส่วนหนึ่งของการติดสินบน แลกกับการที่รัฐบาลสนับสนุนแผนการของนายลีที่จะรับสืบทอดการควบคุมกิจการจากบิดาที่กำลังป่วย
ศาลชั้นต้นตัดสินในปี 2560 ให้จำคุกนายลีเป็นเวลา 5 ปี ในความผิดหลายข้อหา เช่น ติดสินบน ยักยอก แต่ศาลอุทธรณ์ลดโทษจำคุกเหลือ 2 ปี 6 เดือน และให้รอลงอาญาเป็นเวลา 4 ปี โดยแย้งว่าสินบนที่นางปักและนางชเวได้รับทั้งหมด 8,600 ล้านวอน (ราว 216.5 ล้านบาท) นั้น มีเพียงเงิน 3,600 ล้านวอน (ราว 90.62 ล้านบาท) ที่ซัมซุงให้แก่บริษัทของนางชเวในเยอรมนีเท่านั้นที่ถือว่าเป็นสินบน ส่วนม้าสามตัวไม่ได้โอนสิทธิการเป็นเจ้าของให้นางชเวจึงไม่ถือว่าเป็นสินบน
การอ่านคำสั่งของศาลฎีกาวันนี้มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ทั่วประเทศและสื่อสังคมออนไลน์ สะท้อนว่าเป็นคดีที่มีคนสนใจทั้งประเทศ ชาวเกาหลีใต้หลายล้านคนออกมาแสดงพลังตามท้องถนนระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2559 ประท้วงคดีทุจริตรับสินบนครั้งมโหฬารนี้ จนกระทั่งนางปักถูกรัฐสภาถอดถอนจากตำแหน่งในเดือนธันวาคม และศาลรัฐธรรมนูญตัดสินปลดเธอจากตำแหน่งอย่างถาวรในเดือนมีนาคมปีถัดมา.-