กทม. 6 ธ.ค.- ตำรวจจะส่งมอบพื้นที่ บริเวณสะพานข้ามแยกรัชโยธินให้ รฟม.คืนนี้ เพื่อรื้อถอนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวอุโมงค์ลอดแยกรัชโยธิน และทางยกระดับเหนือถนนพหลโยธิน คาดปิดจราจรบริเวณนี้ 2 ปี
พลตำรวจเอกเดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และพิจารณาผลกระทบจากการรื้อสะพานข้ามแยกรัชโยธินครั้งที่ 5
ผลประชุมพบว่า ตำรวจจะส่งมอบพื้นที่ บริเวณสะพานข้ามแยกรัชโยธินให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม.คืนนี้ เพื่อทำการรื้อถอนสะพานเพื่อก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวอุโมงค์ลอดแยกรัชโยธิและทางยกระดับเหนือถนนพหลโยธิน หลังจากนี้ จะปิดการจราจรบนสะพานข้ามแยกรัชโยธินตลอด 24 ชั่วโมง ประมาณ 2 ปี และอนุญาตให้ รฟม.นำอุปกรณ์และเครื่องจักรหนัก เข้ารื้อถอนได้ภายในคืนนี้ เนื่องจากพบว่าตำรวจจราจร สามารถควบคุม จัดการจราจร และเร่งระบายรถ บริเวณถนนรัชดาภิเษก ,พหลโยธิน และถนนอื่นที่ได้รับผลกระทบจากการปิดการจราจรได้ จากการทดลองปิดการจราจร พบว่าถนนลาดพร้าวได้รับผลกระทบมากที่สุด มีท้ายแถวสะสมยาวจนถึงบางกะปิ เนื่องจากเป็นถนนที่มีการจราจรคับคั่งอยู่แล้ว และมีประชาชนใช้ทางลัดตามซอยต่างๆไปออกถนนลาดพร้าวจำนวนมาก รองลงมา คือถนนในซอยโชคชัย 4 ที่การจราจรติดขัดต่อเนื่องจากถนนลาดพร้าว จึงสั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบังคับการตำรวจจราจร ไปหาทางแก้ปัญหาให้ถนนลาดพร้าวมีความคล่องตัวมากที่สุด เพื่อใช้เป็นจุดเร่งระบายรถอีกทางหนึ่ง ส่วนถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่มีประชาชนหลีกเลี่ยงมาใช้จำนวนมากพบว่า มีปริมาณรถเพิ่มมากขึ้น การจราจรเคลื่อนตัวช้าในช่วงเวลาเร่งด่วน แต่เจ้าหน้าที่ยังสามารถระบายรถในเส้นทางได้ ทั้งนี้เพื่อให้การจราจรในจุดดังกล่าวมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น จึงมีการเสนอให้เจรจากับดอนเมืองโทลล์เวย์ให้ช่วยลดค่าผ่านทางในบางด่าน บางช่วงเวลา เพื่อช่วยเร่งระบายรถอีกทางหนึ่ง และเพิ่มช่องทางพิเศษในช่วงเวลาเร่งด่วน บนถนนวิภาวดีรังสิต ทั้งยังจะมีการตัดเกาะกลางทางเท้า บริเวณสวนสมเด็จย่า ช่วงบริเวณห้าแยกลาดพร้าวฝั่งวิภาวดีรังสิตตัดกับถนนพหลโยธิน
ขณะที่การจราจรบนถนนรัชดาภิเษก และพหลโยธิน พบว่ามีท้ายแถวสะสมเพิ่มมากขึ้นแต่ไม่เป็นปัญหาติดขัดล็อคเป็นวงแหวนจนไม่สามารถระบายรถได้ ทั้งนี้จะมีการเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบเส้นทางเลี่ยง และชี้แจงถึงความจำเป็นในการปิดการจราจรในจุดดังกล่าว เพิ่มมากขึ้น ส่วนการแก้ไขปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบว่า ตั้งแต่วันที่ 3 – 17 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถคลี่คลายการจราจรในช่วงเช้า โดยใช้เวลาลดลง 24 นาที ส่วนในช่วงเย็น ใช้เวลาลดลง 49 นาที ถือว่าการจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล คลี่คลายได้เร็วขึ้นและลดปัญหาในจุดต่างๆไปได้ ภาพรวมเป็นที่น่าพอใจ.-สำนักข่าวไทย