กรุงเทพฯ 4 ม.ค.- “บอล บางแก้ว” ชิงเข้ารับทราบข้อหา”กระทำการโดยประมาทเพลิงไหม้เป็นเหตุผู้อื่นถึงแก่ความตาย”หลังทราบข่าวตำรวจเตรียมเสนอศาลออกหมายจับ พร้อมให้การปฏิเสธ
นายพงษ์เพชร สินสุวรรณ์ หรือ ‘บอล บางแก้ว’ พร้อมทนายความเข้ามอบตัวกับพลตำรวจตรีกิตติ์รัฐ พันเพ็ชร์รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนในคดีเพลิงไหม้บ้านพักย่านคูคต เป็นเหตุให้ นางสาวสุภานี สินอนันต์ตระกูล หรือเบนซ์ แฟนสาวเสียชีวิตในห้องน้ำ หลังทราบข่าวว่าพนักงานสอบสวนเตรียมออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา กระทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต พร้อมนำรถยนต์ ยี่ห้อจาร์กัว รุ่น XF สีดำ ทะเบียน กฐ 5640 กรุงเทพ รถยนต์ของ นายบาส น้องชายฝาแฝด มาให้ตรวจสอบ
ขณะท่ีพลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพรหมณ์กุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้นำเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานร่วมตรวจสอบด้วย หลังรถยนต์คันดังกล่าวถูกนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ทนายความ ร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบตัวรถยนต์คันดังกล่าว เพราะน่าจะเป็นรถที่หลบเลี่ยงภาษีผิดกฏหมาย
อย่างไรก็ตาม นายพงษ์เพชร หรือ บอล บางแก้ว ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาล พร้อมยืนยันว่าตั้งแต่วันเกิดเหตุไฟไหม้ ตนเองไม่เคยหลบหนีคดี ไม่เคยวิ่งเต้นตำรวจ สร้างพยานหลักฐานเท็จ หรือไม่ยินยอมให้ตรวจสอบพยานหลักฐาน ตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งตนเองพร้อมจะชี้แจงและเปิดเผยข้อเท็จจริงกับตำรวจทุกประเด็น ยืนยันไม่มีมูลเหตุจูงใจก่อเหตุที่ทำให้แฟนสาวต้องเสียชีวิต ด้วยการวางเพลิงบ้านของตนเอง เนื่องจากพ่อป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ทรัพย์สินในบ้านก็มีจำนวนมาก บ้านไม่มีประกันอัคคีภัย จึงไม่สมเหตุสมผลที่จะวางเพลิงบ้าน เพื่อฆ่าแฟนของตัวเอง
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าระหว่างเกิดเหตุไฟไหม้ ตนเองไม่ได้เข้าช่วยเหลือแฟนสาวที่ติดอยู่ในห้องน้ำ เนื่องจากห้องน้ำมีระยะห่างจากทางขึ้นลงบันได ประกอบกับแฟนสาวชอบปิดไฟอาบน้ำ เมื่อเกิกเหตุ จึงเป็นอุปสรรคในการให้ความช่วยเหลือ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะตนเองที่เข้าไปไม่ได้ แต่อาสากู้ภัยก็เช่นกัน ส่วนรถยนต์ที่ถูกตรวจสอบ ยินดีนำพยานหลักฐานมามอบให้กับตำรวจไปพิจารณา หากพบกระทำความผิดก็พร้อมให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่นายสาคร ศิริชัย ทนายความ ยืนยันว่านายพงษ์เพชร สามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น วันนี้มาพบพนักงานสอบสวน เนื่องจากทราบว่าตำรวจกำลังไปขอศาลออกหมายจับ จึงเข้ามาแสดงตัว อยากให้ตำรวจทำคดีอย่างตรงไปตรงมา ไม่ถูกแทรกแซงจากบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดี ซึ่งหากนายพงษ์เพชรพิสูจน์ตัวเองได้ว่าบริสุทธิ์ ก็ขอให้บุคคลหรือองค์กรออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วย
ทั้งนี้ หลังจากพนักงานสอบสวนสอบปากคำเสร็จแล้ว ได้อนุญาตให้นายพงษ์เพชรกลับบ้านได้ โดยไม่จำเป็นต้องวางหลักทรัพย์ใดๆ เพื่อประกันตัว เนื่องจากยังไม่มีการออกหมายจับ.-สำนักข่าวไทย
