รัฐสภา 6 ก.ย.-คณะกรรมการบูรณาการประสานงานกรณีกู้ชีพฉุกเฉิน สนช.ลงนามร่วมมือหลายหน่วยงานจัดทำแผนบูรณาการประสานงานกรณีกู้ชีพฉุกเฉินช่วงก่อนถึงและจนถึงโรงพยาบาล ลดการสูญเสียชีวิต
นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะประธานกรรมการบูรณาการประสานงานกรณีกู้ชีพฉุกเฉิน สนช. ลงนามความร่วมมือร่วมกับ 27 องค์กรจากภาครัฐและเอกชน อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กรมการขนส่งทางบก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงศึกษาธิการ การทางพิเศษประเทศไทย (EXAT) การรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) บริษัท ขนส่ง จำกัด สมาคมโรงพยาบาลเอกชน และมูลนิธิร่วมกตัญญู
ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าวเพื่อบูรณาการการแพทย์ฉุกเฉินร่วมกันอย่างเป็นระบบช่วงก่อนถึงโรงพยาบาล ทั้งเรื่องการแจ้งเหตุ และรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน กับการจ่ายงานและการปฏิบัติการฉุกเฉินในที่เกิดเหตุ จนถึงนำส่งโรงพยาบาล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคของการช่วยเหลือประชาชนผ่านระบบการแพทย์ฉุกเฉิน บริหารจัดการการบูรณาการการแพทย์ฉุกเฉินอย่างเป็นระบบด้วยความรวดเร็ว พร้อมสนับสนุนให้เกิดกระบวนการเรียนรู้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นในการกู้ชีพฉุกเฉินช่วงก่อนถึงโรงพยาบาล
นายสุรชัย กล่าวว่า สนช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังจัดทำแผนบูรณาการประสานงานกรณีกู้ชีพฉุกเฉิน 7 แผนย่อย ได้แก่ แผนประชาสัมพันธ์กรณีกู้ชีพฉุกเฉิน แผนการอบรมการปฐมพยาบาลและการช่วยฟื้นคืนชีพ แผนการเตรียมอาคารสูง อาคารขนาดใหญ่พิเศษ และพื้นที่เสี่ยงเพื่อพร้อมรับการกู้ชีพฉุกเฉิน แผนการจัดการจราจรเพื่อเปิดทางให้รถฉุกเฉิน แผนพัฒนาการบริการกู้ชีพฉุกเฉิน แผนการปรับปรุงกลไกเสริม และแผนการประสานงานและการติดตามประเมินผลร่วม เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงานด้วย ทั้งนี้ มาตรการแรกที่จะเริ่มทำ คือ การจัดช่องทางพิเศษสำหรับรถกู้ชีพฉุกเฉิน โดยจะเริ่มที่โรงพยาบาลราชวิถีเป็นโรงพยาบาลแรก ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (6 ก.ย.) จะตีเส้นสีแดง จากบริเวณทางด่วนดินแดงมายังโรงพยาบาลราชวิถี เพื่อให้เป็นช่องทางพิเศษสำหรับรถกู้ชีพฉุกเฉินเข้าออกรับส่งผู้ป่วย.-สำนักข่าวไทย
