fbpx

แจ้งตำรวจเอาผิดร้านสักปาก ย่านเสนานคม 24

กทม.12 ก.ย.- 2 สาวที่ไปสักปากจากร้านสักปากของพริตตี้ชื่อดังแล้วอ้างว่าปากติดเชื้อแจ้งตำรวจเอาผิด ระบุจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อชดใช้ค่าเสียหาย 


น.ส.พลอยชวรินทร์ เมืองอินทร์ หรือแพรวา และทนายความของน.ส.พนิดา ภูมิคอนศาลณ์ หรืออี๊ด สองพี่น้องผู้เสียหายที่อ้างว่าปากติดเชื้อจากการสักปากจากร้านแห่งหนึ่ง ย่านเสนานิคม 24 ของพริตตี้สาวร้อยล้าน   นำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน  ให้ดำเนินคดีกับอาจารย์ผู้สักปาก และพริตตี้เจ้าของร้านในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ

นายวรพล เจริญพรรณ์ ทนายความ ระบุว่า เบื้องต้นมาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บก่อน แต่หากผู้เสียหายต้องรักษาพยาบาลเกินกว่า 21 วัน ก็จะเข้าข่ายข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนการฟ้องแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลนั้น ยังไม่สามารถประเมินได้ เพราะการรักษายังไม่สิ้นสุด ขณะนี้ น.ส.พนิดา อยู่ระหว่างรับการรักษาที่โรงพยาบาลในฮ่องกง ส่วนน.ส.พลอยชวรินทร์ยังต้องรักษาที่โรงพยาบาลสินแพทย์ ซึ่งค่ารักษาขณะนี้กว่า 140,000 บาทแล้ว และยังไม่ทราบว่าจะต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานานเท่าใด กรณีพริตตี้เจ้าของร้านไปออกรายการโทรทัศน์ แล้วบอกว่าการสักปากมีโอกาสเกิดผลข้างเคียง 50/50 นั้น ส่วนตัวมองว่าร้านควรแจ้งลูกค้าตั้งแต่แรก แต่ตอนที่ผู้เสียหายไปสักไม่มีการแจ้ง และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อเพื่อชดใช้ค่าเสียหาย หรือแสดงความรับผิดชอบใดๆ 


ด้าน น.ส.พลอยชวรินทร์ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุมา ทางร้านไม่เคยติดต่อมาเพื่อรับผิดชอบ หรือเจรจาเพื่อชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งรอมานานมากแล้ว ทำให้วันนี้(12 ก.ย.)ตัดสินใจแจ้งความเพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่วนอาการขณะนี้พบว่าเนื้อปากบางส่วนหายไป ต้องใช้เวลาการรักษาค่อนข้างนานและเป็นแผลเป็น กระทบต่อการทำงานของตนที่ต้องใช้หน้าตา ถูกลูกค้าหัวเราะ กระทบต่อสภาพจิตใจ กรณีที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุที่ติดเชื้อเป็นเพราะตนเและพี่สาวไม่รักษาความสะอาด หรือทานอาหารแสลง ยืนยันว่าตนและพี่สาวรักษาความสะอาดของแผลอย่างดี และไม่ได้ทานอาหารแสลงแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย


         

     

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ร่างศึกษา พ.ร.บ.นิรโทษฯ เข้าสภา 26 ก.ย.นี้

“นิกร” เผยร่างศึกษา พ.ร.บ.นิรโทษฯ เข้าสภา 26 ก.ย.นี้ ชง ครม. เป็นเจ้าภาพ ยกร่าง-เคาะปม ม.112 จะรวมหรือไม่ หวั่นคําวินิจฉัยศาลฟันก้าวไกล พ่นพิษ

คนร้ายฆ่าสาวโบลท์ เครียด ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ

เครียด! “ไอ้แม็ก” มือฆ่าชิงทรัพย์สาวโบลท์ ใช้หัวโขกลูกกรง สน.มีนบุรี จนตำรวจต้องเข้าระงับเหตุ ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ ล่าสุดคุมตัวไปฝากขังแล้ว