รร.แกรนด์ไฮแอท เอราวัณ 3 ส.ค.-รมช.คลัง แนะทุกฝ่ายรับมือปัญหาการเงินยุคใหม่ผ่านไอที มั่นใจสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ดูแลผู้ฝากเงิน วันที่ 11 สิงหาคม 61-11 สิงหาคม 62 ลดการคุ้มครองเงินจาก 15 ล้านบาท เหลือ 10 ล้านบาทต่อราย
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานสัมนาครบรอบ 10 ปี สถาบันคุ้มครองเงินฝาก เรื่อง “ก้าวสู่ทศวรรษที่ 2 แห่งความท้าทาย บนเทรนด์เศรษฐกิจ ยุคดิจิทัล” ว่า ยอมรับว่าในช่วงปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจปี 40 ได้สร้างภาระให้กับกองทุนฟื้นฟูฯ 1.3 ล้านล้านบาท ขณะนี้ยอดภาระลดเหลือไม่ถึง 9 แสนล้านบาท ขณะที่สถาบันการเงินเข้มแข็งมากขึ้น ทั้งระบบการเงิน มีเงินฝาก 78 ล้านบัญชี วงเงิน 12.8 ล้านล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 87 ของจีดีพี นับเป็นแหล่งทุนรองรับความต้องการผู้ประกอบการและภาคส่วนต่างๆ
ทั้งนี้ยอมรับว่า กระแสโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยียุคใหม่ จึงมีความท้าทายใหม่รออยู่ ปัญหาวิกฤติรูปแบบใหม่ไม่รู้จะมีหน้าตาอย่างไร และคงหลีกหนีไม่พ้น จึงต้องมีเครื่องมือคอยดูแลคุ้มครองดูแลเงินฝากให้กับประชาชน เพื่อสร้างความมั่นใจกับผู้ฝากเงินได้มากขึ้น และจากนโยบาย E-Payment ของรัฐบาล ได้มีประชาชนลงทะเบียนระบบพร้อมเพย์แล้ว 42.6 ล้านบัญชี เงินโอนถึง 334 ล้านรายการต่อเดือน ยอดเงิน 1.6 ล้านล้านบาท ขณะที่การติดตั้งเครื่อง EDC ผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐ 5.2 แสนร้านราย ใช้เงินผ่านบัตรสวัสดิการช่วง 9 เดือนแรก 30,000 ล้านบาท และยังเปิดทางให้ร้านค้ารายย่อยที่ไม่ได้ติดตั้งเครื่อง EDC โหลดแอ็บพลิเคชั่น รับชำระเงินผ่าน QRCode นับว่าวิถีชีวิตเร่ิมใช้จ่ายผ่านออนไลน์มากขึ้น
นายสาทร โตโพธิ์ไทย ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก กล่าวว่า การคุ้มครองเงินฝากได้ทะยอยลดลงตามกำหนด โดยในวันที่ 11 สิงหาคม 59-11 สิงหาคม 61 จะคุ้มครองเงินฝาก 15 ล้านบาทต่อราย จากนั้นในวันที่ 11 สิงหาคม 61-11 สิงหาคม 62 คุ้มครองเงินมา 10 ล้านบาท จากนั้น ในวันที่ 11 สิงหาคม 62 -11 สิงหาคม 63 ลดเหลือ 5 ล้านบาทต่อราย ในวันที่ 11 สิงหาคม 63 เป็นต้นไปคุ้มครองไม่เกิน 1 ล้านบาท ขณะที่ประชาชนผู้ฝากเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท มีสัดส่วนร้อยละ 98 ของผู้ฝากเงินทั้งหมด นับว่าเป็นประชาชนส่วนใหญ่ซึ่งต้องดูแล
ยอมรับว่าขณะนี้ฐานะของสถาบันการเงินเข้มแข็งอย่างต่อเนื่อง แต่เพื่อรองรับยุคไทยแลนด์ 4.0 ในช่วง 2 ปี ข้างหน้าจึงมุ่งพัฒนาไอทีขององค์กร ดูแลผู้ฝากเงินตามกฎหมายฉบับใหม่ที่เพิ่งบังคับใช้ หากสถาบันการเงินมีปัญหาต้องปิดกิจการ ไม่จำเป็นต้องมายื่นร้องเรียนขอเงินฝากคืน โดยสถาบันประกันเงินฝากจะนำส่งเงินคืนให้กับผู้ฝากเงินภายใน 30 วัน โดยใช้เงินสมทบของธนาคารร้อยละ 0.01 ของฐานเงินฝาก จากเงินกองทุนของสถาบันคุ้มครองเงินฝากในปัจจุบันมีจำนวน 1.2 แสนล้านบาท ยอมรับการนำส่งคงต้องโตตามฐานเงินฝากตามกฎหมาย ขณะน้ีได้นำเงินกองทุนลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ ทั้งเงินสมทบและการหาผลตอบแทนจึงมีเงินเพิ่มเข้ากองทุนประมาณ 4,000 ล้านบาทต่อปี จึงเพียงพอต่อการรองรับปัญหาได้หากมีปัญหาวิกฤติทางการเงิน.-สำนักข่าวไทย