กรุงเทพฯ 23 ก.ย.- ทนายสงกานต์ นำพยาน 4 ปาก เข้าพบตำรวจสอบสวนกลางยืนยันพฤติการณ์กระทำผิดคดีนางกิมเอ็ง ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางระบุ สามารถสั่งฟ้องคดีฉ้อโกงและหมิ่นสถาบันเบื้องสูงได้ทันกำหนด
นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นำพลตรีต่อคุณ ภักดีชนก นางรัศมีจันทร์ ภักดีชนก และพยานอีก 2 ปาก ที่เคยทำงานให้กับเลขาส่วนตัวของนางกมนทรรศน์ ธนธรณ์โฆษิตจิร หรือกิมเอ็ง แซ่เตียว อายุ 62 ปี เข้าให้การกับพลตำรวจโทฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมคณะพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำในฐานะพยานในคดีฉ้อโกงและหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามที่พบพฤติการณ์เคยออกรายการสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง โดยมีการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง หลอกลวงผู้เสียหายให้ร่วมทำบุญ จนมีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้นางกมนทรรศน์ 17 ครั้ง เป็นเงินจำนวน 2,979,300 บาท แล้วมีการออกหนังสือปลอม
นางรัศมีจันทร์ ยืนยันว่า นางกิมเอ็งไม่ใช่ผู้ว่าจ้างให้ผลิตรายการสารคดีเทิดพระเกียรติ และผลิตภาพยนตร์สั้น แต่เป็นผู้มาติดต่อขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำสารคดี และคัดตัวเป็นนักแสดง ซึ่งก่อนเข้ามามีส่วนร่วมได้มีการตรวจสอบรายละเอียดประวัติจากผู้ใหญ่คนหนึ่งที่ทำงานในสำนักพระราชวัง และพบว่าเคยทำงานอยู่จริง ประกอบกับตรวจสอบไม่พบว่าเคยเป็นผู้มีคดีติดตัว ส่วนเรื่องกิจกรรมปลูกป่าที่จังหวัดราชบุรี เป็นการจัดกิจกรรมโดยชาวบ้านในพื้นที่ ส่วนที่เข้าให้ปากคำในวันนี้ เป็นการนำภาพถ่ายบุคคล บันทึกข้อความสนทนา ที่เกี่ยวข้องกับการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง มามอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อประกอบคำให้การตามข้อเท็จจริง รวมถึงเป็นการยืนยันพฤติการณ์บุคคลที่มีความใกล้ชิดกับนางกิมเอ็ง เช่น สามี ที่มีพฤติกรรมสนับสนุนความเคลื่อนไหวนางกิมเอ็งมาโดยตลอด
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลภาพข้าราชการตำรวจยศพันตำรวจเอกขึ้นไป ที่มีความสนิทสนมกับนางกิมเอ็ง และเคยวิ่งเต้นตำแหน่งทางราชการ ที่บ่อนการพนันแห่งหนึ่ง มามอบให้เป็นหลักฐานด้วย
ขณะที่นายสงกานต์ ยืนยันว่า พยาน 2 ปาก ที่เคยทำงานให้กับเลขาส่วนตัวของ นางกิมเอ็ง ยอมรับว่าพบเห็นพฤติกรรมของนางกิมเอ็งมาโดยตลอด ซึ่งพร้อมจะให้ปากคำยืนยันตามข้อเท็จจริง และส่วนใดที่มีส่วนร่วมกระทำความผิด ก็พร้อมจะให้ตำรวจพิจารณาโทษไปตามกฎหมาย
ทั้งนี้ พลตำรวจโทฐิติราช ระบุว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พลตำรวจตรีสมหมาย กองวิสัยสุข รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ไปประชุมความคืบหน้าที่กองบังคับการปราบปรามซึ่งจะนำพยานหลักฐานต่างๆ มาพิจารณาดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้เพิ่มเติม ส่วนเรื่องที่มีหลักฐานพบนายตำรวจมีความสนิทสนมกับนางกิมเอ็ง และขอให้ช่วยวิ่งเต้นโยกย้ายตำแหน่ง ต้องนำหลักฐานมาพิจารณาก่อนว่า จะต้องนำเข้ามาสู่สำนวนคดีนี้หรือไม่ เนื่องจากพยานหลักฐานในคดีนี้มีจำนวนมาก จึงต้องใช้เวลาคัดกรองแยกแยะข้อเท็จจริงก่อน ทั้งนี้ ยืนยันเรื่องการดำเนินคดีว่า สามารถดำเนินคดีกับนางกิมเอ็งในความผิดฐานฉ้อโกง และหมิ่นสถาบันเบื้องสูงได้ทันกำหนด เนื่องจากคดีนี้ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และมีผู้เสียหายยืนยันการกระทำผิดชัดเจน.-สำนักข่าวไทย