กรุงเทพฯ 24 ก.ย.-ตำรวจเชื่อศพที่ถูกแก๊งต่างชาติฆ่าหั่นศพในตู้แช่แข็ง ถูกฆ่าจากที่อื่น หลังไม่พบร่องรอยหรือหลักฐานในห้องพัก ประสานสถานฑูตอังกฤษและอเมริกาตรวจสอบชื่อและสัญชาติตามพาสสปอตจริงหรือไม่
พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยหลังประชุมชุดคลี่คลายคดีแก๊งต่างชาติปลอมพาสสปอตและฆ่าหั่นศพ ว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบศพที่ถูกฆ่าหั่นศพเป็นบุคคลใด รวมทั้งรอผลชันสูตรของแพทย์โรงพยาบาลจุฬา คาดวันพรุ่งนี้จะได้ผลการชันสูตร ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวนายอารอล ทอมัส กาเบล ( Mr.Aaron Thomas Gabel) /นายเจมส์ ดักลาส เอเกอร์ (Mr.James Douglas Eger ) /และนายปีเตอร์ แอนดรู โคลเตอร์ หรือนายวิเลี่ยม จอนสัน (Mr.William Peter Johnson ) ทั้งหมดสัญชาติอเมริกัน ไปขออำนาจศาลจังหวัดพระโขนงฝากขัง ผัดแรกแล้ว เป็นเวลา 12 วัน พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยทั้ง 3 คนถูกแจ้งข้อหาข้อหา ร่วมกันมีอาวุธไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต / ร่วมกันมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต / ร่วมกันหรือมีไว้เพื่อใช้ซึ่งหนังสือหนังสือเดินทางปลอม / ร่วมกันทำปลอมซึ่งดวงตรา รอยตรา สำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ / ร่วมกันมีไอซ์ไว้ครอบครองโดยผิดกฎหมาย / ร่วมกันมีกัญชาไว้ครอบครองโดยผิดกฎหมาย / ร่วมกันมียาเค หรือ เคตามีน ไว้ครอบครองโดยโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันปิดบังอำพรางซ่อนเร้นศพ ส่วนนายปีเตอร์ถูกแจ้งเพิ่มอีก 2 ข้อหา คือ เป็นบุคคลต่างด้าวและเข้าอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่และพยายามฆ่าเจ้าพนักงานระหว่างปฏิบัติหน้าที่
เบื้องต้นจากการสอบปากคำแม่บ้านสัญชาติชาวเมียนมาร์ให้การว่า ได้ทำความสะอาดให้กับกลุ่มผู้ต้องหาแทนคนเก่า เมื่อประมาณ 8 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ที่พักซอยสุขุมวิท 71 ถนนปรีดีย์ 37 ก่อนที่จะย้ายมาที่อาคารในซอยสุขุมวิท 56 และเห็นตู้แช่ถูกล็อกกุญแจอยู่นานแล้ว โดยมีการขนย้ายตู้ใบนี้มาด้วย โดยนายปีเตอร์สั่งห้ามไม่ให้เข้าไปแตะต้องตู้ดังกล่าว ส่วนการสอบปากคำนายปีเตอร์ยังให้การปฏิเสธว่าไม่ใช่เจ้าของตู้แช่ศพ
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยอีกว่าจากการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐาน รพ.ตำรวจ ยังไม่พบร่องรอยการถูกฆาตกรรมในห้องพัก คอนโดซอยสุขุมวิท 56 ทำให้เชื่อได้ว่าฆาตกรรมมาจากที่อื่น นอกจากนั้นกำลังตรวจสอบหนังสือเดินทาง รวมทั้งชื่อของผู้ต้องหา โดยประสานกับสถานฑูตอเมริกาและอังกฤษมาร่วมตรวจสอบ ว่าเป็นบุคคลตรงกับสัญชาติตามที่ระบุในหนังสือเดินทางหรือไม่
ส่วนการตรวจสอบสารเคมีที่พบ กว่า 200 ขวด ไม่พบว่า เป็นสารประกอบระเบิดหรือยาเสพติด แต่พบกัญชาและไอซ์ จำนวนหนึ่งที่คาดว่า ผู้ต้องหามีไว้เสพ เชื่อไม่เกี่ยวกับความมั่นคง
สำหรับในวันพรุ่งนี้เวลา 10.00 นาฬิกา จะเรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวน ตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมร่วมกันเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี.-สำนักข่าวไทย