มอสโก 8 เม.ย.- นักวิเคราะห์ชี้ว่า รัสเซียเพิ่มการกวาดล้างอินเทอร์เน็ตและแอปพลิเคชันสนทนามากขึ้น นับตั้งแต่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินครองตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่ 4 โดยอ้างเรื่องปราบปรามก่อการร้ายแต่แท้จริงแล้วต้องการปิดเสียงวิจารณ์
นักวิเคราะห์ระบุว่า ประธานาธิบดีปูตินค่อย ๆ นำสื่อโดยเฉพาะโทรทัศน์ไปอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐตั้งแต่ต้นคริสต์ทศวรรษหลังปี 2000 ต่อมารัฐบาลตระหนักว่าอินเทอร์เน็ตเป็นภัยหลักต่อการครอบงำและเป็นแหล่งสุดท้ายที่ผู้คนจะใช้แสดงความเห็นอย่างเสรีเพราะเป็นช่องทางปลุกระดมชาวรัสเซียให้ประท้วงใหญ่เมื่อนายปูตินกลับมาเป็นประธานาธิบดีเมื่อ 6 ปีก่อนหลังจากดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีตั้งแต่ปี 2543 โดยอยู่ในวาระ 4 ปีสองสมัยจนถึงปี 2551 แล้วคั่นด้วยตำแหน่งนายกรัฐมนตรีปี 2551-2555 เพราะรัฐธรรมนูญห้ามดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเกินสองสมัยติดต่อกัน
ปี 2555 รัสเซียได้ขึ้นบัญชีดำเว็บไซต์ที่เนื้อหาเป็นภัยต่อเด็ก ประกอบด้วยเว็บไซต์อนาจารเด็ก เว็บไซต์พัวพันยาเสพติด และเว็บไซต์สุดโต่งซึ่งเป็นคำกำกวมที่ครอบคลุมไปถึงการเคลื่อนไหวของฝ่ายค้าน ต่อมาปี 2557 รัฐสภาผ่านร่างกฎหมายต่อต้านก่อการร้ายชุดใหญ่ เช่น กำหนดให้บล็อกที่มีคนอ่านเกิน 3,000 ครั้งต่อวันต้องอยู่ภายใต้ระเบียบเดียวกับสื่อด้านข่าว กำหนดให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทั้งของรัสเซียและต่างชาติต้องบันทึกข้อมูลผู้ใช้ในรัสเซีย เว็บไซต์ที่ไม่ปฏิบัติตามจะถูกบล็อก ตามด้วยการกำหนดให้ผู้เผยแพร่ข้อมูลทั้งหมด รวมไปถึงบล็อกเกอร์และแพลตฟอร์ตสื่อสังคมออนไลน์ต้องบันทึกข้อมูลผู้ใช้เป็นเวลา 6 เดือน และต้องส่งให้ทางการตามที่ร้องขอ ปลายปีที่แล้วทางการให้อำนาจเจ้าหน้าที่แบนเครือข่ายส่วนตัวเสมือน (VPN) ที่ให้ผู้ใช้หลบหลีกการบล็อกของทางการด้วยการจำลองการเชื่อมต่อจากต่างประเทศ ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันก่อนได้ยื่นฟ้องศาลให้บล็อกเทเลแกรม แอปสนทนาที่มีผู้ใช้ 200 ล้านคน เพราะไม่ยอมให้สำนักงานความมั่นคงกลาง (เอฟเอสบี) เข้าถึงข้อความเข้ารหัสของผู้ใช้
ผู้อำนวยการศูนย์สิทธิดิจิทัลในกรุงมอสโกมองว่า ทางการต้องการทำให้คนหวาดกลัวว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมรัฐ ไม่มีใครหลบซ่อนได้เพราะข้อมูลทุกอย่างถูกบันทึกไว้หมดแล้ว รัสเซียไม่สามารถใช้วิธีบล็อกการเข้าถึงทุกเว็บด้วยเกรตไฟร์วอลล์แบบจีน เพราะจีนควบคุมอินเทอร์เน็ตตั้งแต่ต้น ขณะที่รัสเซียเริ่มด้วยการให้เสรีภาพ อย่างไรก็ดี ในที่สุดแล้วเว็บไซต์และแอปต่างชาติที่ต้องการดำเนินธุรกิจในรัสเซียต่อไปก็จะต้องทำตามระเบียบ ไม่เช่นนั้นจะถูกบล็อก.-สำนักข่าวไทย