เมืองทองธานี 22 ม.ค.-นายกฯ ขอขรก.ตั้งใจทำงาน เดินตามยุทธศาสตร์ชาติ ไม่ต้องเอาใจรัฐบาล ยืนยันถูกตรวจสอบจากหน่วยงานที่รับผิดชอบมาตลอด เพียงแต่ไม่เป็นข่าว พร้อมย้ำไม่มีใบสั่งเลื่อนเลือกตั้ง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานงานสัมมนานักบริหารระดับสูงเพื่อบูรณาการการพัฒนาประเทศไทย 4.0 จัดโดยสำนักงานสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) ที่ศูนย์การประชุมอิมแพ็ค ฟอรั่ม จังหวัดนนทบุรี มีข้าราชการระดับสูงจากทุกกระทรวงและทุกเหล่าทัพเข้าร่วมกว่า 850 คน โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “ผู้บริหารส่วนราชการกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ : One country One Team” ว่า การสัมมนาวันนี้เป็นเรื่องที่ดีที่ทุกคนจะมาร่วมพัฒนาประเทศในช่วงเปลี่ยนผ่านประเทศไปสู่ประชาธิปไตยที่ยั่งยืน หรือ ประชาธิปไตยไทยนิยม ที่ตนเองให้คำจำกัดความว่า ประเทศไทยมีอัตลักษณ์ที่แตกต่าง ไทยนิยมคือ นิยมทำความดี ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ มีความเก่ง และความงาม โดยไม่ทิ้งหลักการประชาธิปไตยที่เป็นสากล
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากให้ข้าราชการทุกคนทำงานอย่างอดทน ตามหน้าที่และทำความเข้าใจและเดินตามยุทธศาสตร์ชาติ น้อมนำศาสตร์พระราชา เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ควบคู่กับการทำให้ประเทศมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยังยืน ยืนยันว่าเหตุที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงประเทศในส่วนกองทัพ ไม่ใช่เพียงความมั่นคงด้านโซเซียลอย่างเดียว เพราะประเทศมีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน 5,000 กิโลเมตร การมียุทโธปกรณ์เพื่อป้องการการรุกรานประเทศ ไม่ใช่เตรียมไว้ทำสงคราม
“ความมั่งคั่งตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ในปี 2579 ตั้งเป้าไว้ว่าจะทำให้ประเทศหลุดพ้นจากกับดักความยากจนทุกด้าน โดยยึดหลักไทยนิยม ประชารัฐ ส่วนด้านยั่งยืน จะต้องลดความขัดแย้งในสังคม โดยใช้ทั้งหลักรัฐศาตร์และนิติศาสตร์ ใช้กฎหมาย ลดช่องว่างความขัดแย้งกับประชาชนให้ได้ เพื่อประชาชนจะได้เกิดความร่วมมือนำประเทศสู่การพัฒนาตามแผนปฎิรูปประเทศ ที่สำคัญขอให้ข้าราชการภูมิใจในการทำหน้าที่และทำให้ดี ไม่ให้ผู้บังคับบัญชาเสียหายไปด้วย ซึ่งที่ผ่านมาเรื่องตำแหน่ง ผมไม่เคยวิ่งเต้นตำแหน่งใด ๆทั้งสิ้น ทำงานตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา แต่จะรักชอบใครเป็นเรื่องส่วนตัว ผู้บังคับบัญชาต้องยึดหลักสร้างศรัทธาให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องพัฒนาการบริหารงานในขั้นสูง โดยต้องมีทัศนคติที่ดี แม้ว่าจะไม่ชอบรัฐบาลหรือไม่ชอบตนเอง ต้องแยกแยะ รักประเทศของตัวเอง โดยการทำงานต้องคิดทั้งในกรอบและนอกกรอบ รัฐบาลพยายามปรับกฎหมาย ให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เพื่อรองรับกับสถานการณ์ใหม่ โดยหลังจากนี้ข้าราชการทุกระดับจะมีตัวชี้วัดเพิ่มเติม ซึ่งนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีกำลังการดำเนินการอยู่ และการทำงานไม่จำเป็นที่จะต้องเอาใจรัฐบาล แต่ต้องทำงาน ให้ผลงานปรากฎ ประชาชนพอใจ
“ปีนี้จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงไปสู่การต่อต้านทุจริต แต่กลับมีการกล่าวหาว่ารัฐบาลนี้ไม่ถูกตรวจสอบ ทั้งที่ไม่เป็นความจริง เพราะที่ผ่านมาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) สอบถามมาโดยตลอดในเรื่องที่สงสัย รวมถึงมีข้าราชการถูกฟ้อง ในเรื่องที่เกี่ยวกับความไม่โปร่งใส เพียงแต่สังคมไม่รู้ และรัฐบาลไม่เคยแทรกแซงหรือสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ เพราะต่างคนต้องทำหน้าที่ของตัวเอง ส่วนเรื่องการเมืองยืนยันว่าผมไม่ใช่ศัตรูกับใคร เพราะวันหนึ่งก็ต้องกลับไปเป็นประชาชนคนหนึ่ง และรัฐบาลยังคงเดินหน้าทุกอย่างตามโรดแมปที่กำหนดไว้” นายกรัฐมนตรี กล่าว
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมนิทรรศการ ผลงานของสำนักงาน ก.พ.ในด้านการพัฒนาทรัพยากรบุคคลภาครัฐ อาทิ The leader’s Story หลักสูตรสร้างผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง (ป.ย.ป.2/1) แนวทางการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลของข้าราชการ และบุคลากรภาครัฐ เพื่อปรับเปลี่ยนเป็นรัฐบาลดิจิทัล
ก่อนเดินทางกลับสื่อมวลชนได้สอบถามนายกรัฐมนตรีกรณีกรรมาธิการวิสามัญเสียงข้างมากพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) จะขยายเวลาบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวออกไป 90 วัน ทำให้การเลือกตั้งจะต้องเลื่อนจากปี 2561 โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวตอบเพียงสั้น ๆ ว่า ไม่มีใบสั่งพิเศษใด ๆ ทั้งสิ้น.-สำนักข่าวไทย
