กทม.21 พ.ย.- ตำรวจเดินหน้ากวาดล้างปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวต่างชาติและคนไทยร่วมขบวนการตามนโยบายรวมทั้งชาวต่างชาติแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวเข้ามาก่อคดีอาชญากรรม
พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ ตามนโยบายรัฐบาล ที่ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิด และส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีพฤติกรรมใช้โทรศัพท์หลอกลวงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นหรือกลุ่มผู้กระทำผิดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีการจับกุมผู้ต้องหาเป็นคนไทยและไต้หวัน เพิ่มอีก 7 คน ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
พลตำรวจเอกจักรทิพย์ กล่าวว่า แก๊งดังกล่าว แบ่งหน้าที่กันทำเป็นขบวนการ มีการแปลงสัญญาณโทรศัพท์ให้เป็นเบอร์ของหน่วยงานภาครัฐโทรศัพท์หลอกลวงประชาชน จึงสั่งการให้พลตำรวจโทธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ รักษาราชการแทน ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีเร่งติดตามอายัดทรัพย์เพื่อส่งคืนผู้ตกเป็นเหยื่อ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา คดีดังกล่าว ศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด 107 หมาย จับกุมได้ 82 หมาย อยู่ระหว่างสืบสวนติดตามจับกุมอีก 25 หมาย
พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ยังแถลงจับกุมชาวต่างชาติเข้าประเทศโดยแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว เพื่อก่ออาชญากรรมข้ามชาติและอาชญากรรมที่กระทบความมั่นคง ตามยุทธการอินทรีย์ทมิฬ หลังมีการระดมกำลังจากตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษหรือ 191,ตำรวจปราบปรามยาเสพติดหรือ ปส.และตำรวจท่องเที่ยว เข้าปิดล้อมตรวจค้นรวม 18 เป้าหมายสามารถจับกุมต่างด้าวได้ 19 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวปากีสถาน ไนจีเรีย โซมาเลีย เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด และเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต มีการดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 โดยส่งทั้งหมดให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ผลักดันออกนอกประเทศ.-สำนักข่าวไทย
