กรุงเทพฯ 1 พ.ค. – ผบช.สอท. ยืนยันตำรวจเจ้าของคดี “ดร.สาว” ทุจริตข้อสอบนิติฯ ทำตามขั้นตอนกฎหมาย หลัง “ดร.สาว” แจ้งความถูกบังคับให้รับสารภาพและซัดทอดบิ๊กตำรวจ ลั่นหากพรุ่งนี้ไม่เข้าให้ปากคำเพิ่ม อาจมีผลต่อการประกันตัว
จากกรณี “ดร.สาวคนหนึ่ง” ผู้ต้องหาทุจริตข้อสอบคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อให้ตำรวจชั้นผู้ใหญ่รายหนึ่งสอบผ่าน และถูกจับกุมตัวเมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา แต่ระหว่างสอบปากคำเมื่อวานนี้ (30 เ.ย.) ดร.คนดังกล่าว มอบหมายทนายความเข้าแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อดำเนินคดีอาญากับพนักงานสอบสวนของ สอท. 1 อ้างว่าถูกบังคับให้รับสารภาพและซัดทอดบิ๊กตำรวจ
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ หรือ สอท. กล่าวว่า เป็นสิทธิของผู้ต้องหา หากเห็นว่า พนักงานสอบสวนทำไม่ถูกต้องสามารถดำเนินการทางกฎหมายได้ แต่จากการทำงานตั้งแต่วันแรกที่มีการจับกุม พบว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ถูกต้องครบถ้วนแล้ว โดยมีการให้สิทธิผู้ต้องหาพบทนายความ บุคคลที่ผู้ต้องหาไว้วางใจ เข้าร่วมในทุกขั้นตอนการสอบสวน
เมื่อวานนี้ตนได้รับรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชาว่าระหว่างสอบปากคำ พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง โทรศัพท์มายังพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ให้เตรียมข้อมูลมาชี้แจง เนื่องจากผู้เสียหายมอบอำนาจให้ทนายความเข้าแจ้งความดำเนินคดีอาญากับพนักงานสอบสวน สอท. 1 ว่าไม่มีอำนาจหน้าที่ในการสอบสวน บีบบังคับให้รับสารภาพและซัดทอดบิ๊กตำรวจ
ขณะที่รับสาย ผู้ต้องหาและทนายความก็นั่งอยู่ด้วย พนักงานสอบสวน สอท. จึงสอบถามทางผู้ต้องหาว่าเหตุใดจึงไปแจ้งความก่อนเข้าให้ปากคำ ผู้ต้องหาตอบว่าเข้าใจว่าพนักงานสอบสวนของ สอท. ทำไม่ถูกต้อง เพราะไม่มีอำนาจหน้าที่ในการสอบปากคำ และมีการบังคับข่มขู่ ชักจูงใจ ใช้กำลังให้รับสารภาพ พนักงานสอบสวนจึงอธิบายให้ผู้ต้องหาและทนายทราบว่ากระทำการไปตามอำนาจหน้าที่ ไม่ได้บังคับขู่เข็ญหรือชักจูงใจแต่อย่างใด ประกอบกับในวันนั้นมีทนายความและผู้ที่ผู้ต้องหาไว้ใจอยู่ด้วย ซึ่งทนายความที่ไปแจ้งความก็ไม่ใช่คนเดียวกับในขั้นตอนการจับกุมด้วย
เมื่อชี้แจงจนเข้าใจแล้วจึงเดินทางไปที่ สน.ทุ่งสองห้อง ด้วยกันทั้งหมด เพื่อถอนแจ้งความ แต่ปรากฏว่าเมื่อไปถึง สน.ทุ่งสองห้อง มีชายคนหนึ่งเข้ามาคุยกับผู้ต้องหา และพยายามยื่นโทรศัพท์ให้ผู้ต้องหาคุยด้วย โดยบุคคลที่อยู่ในสายนั้นเป็นชายและเป็นคนดัง แต่ผู้ต้องหาเดินหนีไม่คุยด้วย แต่ชายคนดังกล่าวก็เดินตามตลอดเวลา และพยายามจะยื่นโทรศัพท์ให้คุยด้วย ในที่สุดผู้ต้องหาไม่ได้ถอนแจ้งความ ก่อนจะขึ้นรถไปกับชายคนดังกล่าว ปล่อยให้ทนายความนั่งอยู่ที่ สน. จากนั้นทนายและพนักงานสอบสวนไม่สามารถติดต่อ ดร.คนดังกล่าวได้อีกเลย
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนของ สอท.1 ได้ออกหมายเรียก ดร.สาวคนดังกล่าว เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม เนื่องจากยังสอบปากคำไม่แล้วเสร็จ ในวันพรุ่งนี้ (2 พ.ค.)
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวรู้สึกเป็นห่วง ดร.สาวคนดังกล่าว เพราะการขึ้นรถไปโดยที่ไม่พาทนายไปด้วย อีกทั้งยังติดต่อไม่ได้ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งพนักงานสอบสวนได้คุยกันว่าอาจเรื่องนี้อาจมีผลต่อการให้ประกันตัว แต่ยังอยากให้โอกาสผู้ต้องหา จึงออกหมายเรียกรอบ 2 ส่วนตัวมองว่าสำหรับเรื่องนี้หากผู้เสียหายไม่สบายใจ จะดำเนินการทางกฎหมายกับพนักงานสอบสวนก็สามารถกระทำได้ แต่พนักงานสอบสวนก็มีสิทธิจะชี้แจงเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย