กรุงเทพฯ 30 เม.ย. – ธอส.ปล่อยกู้ไตรมาสแรกกว่า 47,000 ล้านบาท ซื้อบ้านไม่เกิน 3 ล้านบาท 24,867 ราย รับอานิสงแนวโน้มดอกเบี้ยต่ำตอบโจทย์ลูกค้า
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผยผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 47,414 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.34% เมื่อเทียบกับปีก่อน ปล่อยสินเชื่อใหม่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท 24,867 ราย ทำให้ผลการดำเนินงานเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2567 ประกอบด้วย สินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้น 0.63%, สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 0.82%, เงินฝากรวมเพิ่มขึ้น 0.85% และมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพิ่มขึ้น 0.82% ของยอดสินเชื่อรวม สะท้อนการจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่เป็นที่ต้องการของลูกค้า ยืนยันตลอดปี 2568 ธอส.ทำตามนโยบายรัฐบาล หนุนคนไทยมีบ้านเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่าในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 ธอส.ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 47,414 ล้านบาท จำนวนลูกค้า 41,817 บัญชี เพิ่มขึ้น 34.34% และ 51.95% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปล่อยกู้ใหม่สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท จำนวน 24,867 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 37% ส่งผลให้ผลการดำเนินงานเมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2567 มีสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1,811,481 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.63%, ธอส.มีสินทรัพย์รวม 1,899,914 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.82%, เงินฝากรวม 1,644,364 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.85% ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) มีจำนวน 104,537.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.82% ของยอดสินเชื่อรวม, การตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเป็นจำนวนสูงถึง 153,436 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.52% หรือคิดเป็นสัดส่วนต่อ NPL ที่ระดับ 146.78% สะท้อนถึงความมั่นคงและพร้อมในการรองรับผลกระทบในอนาคต และอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่ระดับแข็งแกร่งที่ 15.59% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดที่ 8.50%

ปัจจัยหลักทำให้ ธอส. ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้เป็นจำนวนมาก เป็นผลมาจากการจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้าน อัตราดอกเบี้ยต่ำที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและประชาชนทั้งผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Social Solution สำหรับผู้มีรายได้น้อย และผลิตภัณฑ์สินเชื่อในกลุ่ม Business Solution สำหรับผู้มีรายได้ระดับปานกลางขึ้นไป อาทิ สินเชื่อซื้อ-สร้างอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปีแรก เพียง 3.00% ต่อปี มียอดนิติกรรมจำนวน 9,384 ล้านบาท, สินเชื่อบ้านสวัสดิการ ปี 2568 อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 2.30% ต่อปี มียอดนิติกรรม 9,419 ล้านบาท, สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ปี 2568 อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 2.50% ต่อปี มียอดนิติกรรม 7,480 ล้านบาท, สินเชื่อบ้านอยู่เย็นเป็นสุข ปี 2568
อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 2.20% ต่อปี มียอดนิติกรรม 3,735.34 ล้านบาท, โครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ ปี 2568 อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 3.50% ต่อปี มียอดนิติกรรม 2,759 ล้านบาท, โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ ปี 2568 อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 2.50% ต่อปี มียอดนิติกรรม 275 ล้านบาท ขณะที่การช่วยเหลือคนไทยให้รักษาบ้านของตนเองไว้ได้ต่อไป ธอส. ได้ดำเนินการตามนโยบายกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่านโครงการคุณสู้ เราช่วย โดยมีลูกค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการจำนวน 21,483 ราย คิดเป็นวงเงินต้นคงเหลือ 25,558.52 ล้านบาท
“ด้วยลูกค้ามีความต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองเป็นจำนวนมาก ประกอบกับ ธอส. ได้จัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่หลากหลายและตรงกับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย จึงทำให้ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ ธอส. สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้เพิ่มขึ้นถึง 34.34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ดังนั้น จึงมั่นใจว่าการปล่อยสินเชื่อในปี 2568 ของ ธอส. จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมีปัจจัยบวกสำคัญมาจากมาตรการกระตุ้น
ภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล ในการลดค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนอง เหลือ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยในระดับราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท ซึ่งมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569 สนับสนุนการซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชนในช่วงปีนี้ให้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 – 30 มิถุนายน 2569 ในทุกระดับราคา จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยคงค้างในระบบได้เป็นอย่างดี ทำให้ภาพรวมการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งระบบขยายตัวดีขึ้น” นายกมลภพ กล่าว
สำหรับในปี 2568 ธอส. ยังคงเดินหน้าสนับสนุนให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองเพิ่มขึ้น ตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงการคลัง โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง รวมถึงประชาชนกลุ่มเปราะบาง เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ผ่านการมีที่อยู่อาศัยอย่างเหมาะสม ด้วยการจัดทำสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำสนับสนุนการให้ประชาชนที่ต้องการที่อยู่อาศัยเข้าถึงสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง.-515- สำนักข่าวไทย