กรุงเทพฯ 7 มี.ค.-รมว.เกษตรฯ เผย กรมชลประทานจัดสรรน้ำเขื่อนลำตะคองซึ่งมีประมาณน้ำน้อยอย่างประณีต ขอความร่วมมืองดทำนาปรัง ยืนยันเพียงพอสำหรับผลิตน้ำประปาตลอดฤดูแล้ง ส่วนทั่วประเทศเพราะปลูกข้าวนาปรังไปแล้ว 93% ของแผนล่ าสุดเตรียมเตรียมทยอยส่งน้ำเข้าระบบชลประทานสู่บางระกำ ตามการปรับปฏิทินปลูกข้าวนาปี
ศ.ดร. ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกรมชลประทานว่า เขื่อนลำตะคอง จังหวัดนครราชสีมาปีนี้ มีปริมาณน้ำต้นทุนต่ำจึงเน้นย้ำให้จัดสรรอย่างประณีตเพื่อให้เพียงพออุปโภคบริโภค โดยกรมชลประทานระบุว่า ได้ขอความร่วมมือเกษตรกรที่ใช้น้ำจากเขื่อนลำตะคองให้งดการทำนาปรังนอกแผน ปัจจุบันมีปริมาณน้ำใช้การได้ 45 ล้าน ลบ.ม. ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง สำนักงานชลประทานที่ 8 บูรณาการกับการประปาส่วนภูมิภาค ในการบริหารจัดการน้ำต้นทุน ยืนยันว่า สามารถส่งน้ำสนับสนุนการผลิตประปาสำหรับเมืองนครราชสีมา เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค ตลอดฤดูแล้งนี้
สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศปัจจุบัน (6 มี.ค. 68) มีปริมาณน้ำใช้การรวม 27,370 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งปริมาณมากกว่าปีที่ผ่านมา 1,365 ล้าน ลบ.ม. ภาพรวมปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ดี มีเพียงพอใช้จนถึงช่วงต้นฤดูฝนนี้
การจัดสรรน้ำในเขตพื้นที่ชลประทาน ปัจจุบันจัดสรรน้ำ ไปแล้วกว่า 20,177 ล้าน ลบ.ม. (69% ของแผนฯ) คงเหลือความต้องการใช้น้ำเพื่อสนับสนุนช่วงฤดูแล้งอีก 8,993 ล้าน ลบ.ม. (31% ของแผนฯ) และสำรองไว้ใช้ในต้นฤดูฝน ปี 2568 จำนวน 15,080 ล้าน ลบ.ม.
ผลการเพาะปลูกทั้งประเทศ ปัจจุบันมีการเพาะปลูกข้าวนาปรังไปแล้วรวม 9.86 ล้านไร่ (93% ของแผนฯ)
ล่าสุดกรมชลประทาน เตรียมทยอยส่งน้ำเข้าระบบชลประทาน เข้าพื้นที่ลุ่มต่ำบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2568 เพื่อให้เกษตรกรได้เตรียมแปลงเพาะปลูกข้าวนาปีพร้อมกัน ตามการปรับปฏิทินการเพาะปลูก 1 เมษายนนี้ และสามารถเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จในช่วงกลางเดือนสิงหาคม ช่วยลดความเสี่ยงผลผลิตเสียหายจากฤดูน้ำหลาก อีกทั้งยังช่วยป้องกันและบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ตอนบน รวมไปถึงพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง
ขณะเดียวกัน กรมชลประทานบูรณาการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่งเสริมการทำประมงเป็นอาชีพเสริม เพื่อสร้างรายได้เพิ่มในช่วงฤดูน้ำหลาก เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น.-512.-สำนักข่าวไทย