กทม. 27 ก.ย.-นายกรัฐมนตรี ประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการให้สินบน หากปล่อยไว้จะเป็นโรคระบาดทำให้ประเทศเสียหาย ย้ำว่ารัฐบาลยินดีให้ตรวจสอบ เผยอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา เพื่อเป็นข้อเตือนใจในการทำหน้าที่
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์ในงานประกาศเจตนารมณ์ภาครัฐและเอกชนในการต่อต้านการให้สินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐ ภายใต้ชื่อ รัฐเอกชนร่วมใจ ขับเคลื่อนธุรกิจไทยไร้สิ้นบน ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โดยกล่าวช่วงต้นว่า บรรยากาศงานในวันนี้ดูเงียบ และการจัดโต๊ะเหมือนลูกขุนกับผู้พิพากษา แต่ตนเองเดินเข้ามาด้วยความมั่นใจ เพราะมั่นใจไม่ได้ทำสิ่งไหนผิด จึงสามารถเชิดหน้าได้ แต่เมื่อทำผิดอาจจะเดินก้มหน้า หรือไม่มาร่วมงานนี้ ทั้งนี้ตนเองมีความตั้งใจและมีเจตนารมย์ ในการเข้ามาแก้ปัญหาการทุจริต ให้ได้ แม้ว่าจะมีคำครหา แต่ไม่หยุดยั้งที่จะตรวจสอบแก้ปัญหาต่อไป
ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้ให้อิสระกับทุกหน่วยงานในการตรวจสอบ เพราะต้องการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ซึ่งต้องเริ่มจากตนเอง ที่จะต้องไม่ให้เกิดการทุจริต และขยายไปยังคนอื่นในระดับล่าง และส่วนตัวระมัดระวังตัว ศึกษา เรียนรู้กฎหมายต่างๆ ว่ากระทำในด้านไหนจะเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากบางครั้งอาจจะไม่มีเจตนา หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ไว้ อย่างคำตัดสินของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่มีคำพิพากษาในคดีโครงการรับจำนำข้าว เป็นสิ่งที่ต้องอ่านเพื่อระมัดระวังในการทำหน้าที่ และยืนยันว่ามีความตั้งใจที่จะเข้ามาแก้ปัญหาทุจริต หากพบว่ามีการกระทำไม่ถูกต้องให้แจ้งมายังตนเอง จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด และไม่เคยปกป้องพวกพ้องหากทำผิด เพราะประเทศอยู่ได้ด้วยกฎหมายและกติกา
ส่วนการแก้ปัญหาทุจริต ต้องแก้ที่จิตสำนึก สร้างการรับรู้ และภูมิคุ้มกันให้กับสังคม ทั้งผู้ให้และผู้รับ หากแก้ไม่ได้ จะกลายเป็นโรคระบาด ลามป่ามทำให้ประเทศเสียหาย ส่วนกรณีการจัดซื้ออาวุธของกองทัพ ยืนยันว่าไม่มีการทุจริต แต่เป็นการจัดหายุทโธปกรณ์อำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อลดความเสี่ยง ดังนั้นหากมีข้อมูลว่ามีความไม่โปร่งใสสามารถ็แจ้งมา พร้อมเปิดรับ
นายกรัฐมตรี ยังย้ำว่าต่อไปในอนาคต ต้องเลือกผู้นำที่นำประเทศไปสู่การเปลี่ยนแปลง อย่าไปเลือกผู้นำที่ไม่ให้ประเทศดีขึ้น ไม่เช่นนั้นปัญหาก็จะสุมขึ้นอีก จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ร่วมประกาศเจตนรมณ์ภาครัฐและเอกชนในการต่อต้านการให้สินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐ
และระหว่างเดินทางกลับ นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงความชัดเจนเกี่ยวกับประเทศที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีซ่อนตัวอยู่ ว่าจะให้ตำรวจเป็นผู้เปิดข้อมูลแทน.-สำนักข่าวไทย